Skip to main content
sharethis

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ จะอยู่ปฏิรูปตามโรดแมปถึงกรกฎาคม 2560 หลังจากนั้นจะวางพื้นฐานยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สำหรับรัฐบาลใหม่ ที่ผ่านมารัฐบาลปฏิบัติ 3 ด้านคือความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา และยังสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศ ในขณะที่ศูนย์ดำรงธรรมแก้ปัญหาไปแล้ว 2 ล้าน 6 แสนเรื่อง

30 เม.ย. 2559 เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่า ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติเมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวตอบคำถามพิธีกรที่ถามว่า "เหตุผลหนึ่งของการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลและ คสช. คือการสร้างความมั่นคงและการปฏิรูปประเทศท่านนายกฯ มีวาระในการดำเนินงานอย่างไร เพราะว่าในการปฏิรูปบางเรื่องไม่ได้สั้น หรือทำง่าย หรือเสร็จสิ้นภายในปีสองปี ท่านนายกฯ วางแผนเรื่องนี้อย่างไรบ้าง"

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า "ตั้งแต่เข้ามา ผมได้เรียนไปแล้วว่าผมมีโรดแมปของผม ก็คิดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อันที่ 1. คือขจัดความขัดแย้ง แก้ปัญหาเดิม ๆ ที่มันซ้ำซ้อนกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ไอเคโอ้ ไอยูยู ประมง อะไรเหล่านี้ คิดก็แก้ไปด้วย ขณะเดียวกัน ต้องมีการบริหารราชการแผ่นดินในเชิงบูรณาการ คือว่าเอากลุ่มงานที่มันเกี่ยวข้องหลายกระทรวง หลายหน่วยงานมาทำพร้อมกัน ก็ทำมาตลอดจนถึงวันนี้ ก็เป็นงานที่หนักพอสมควร แต่ไม่เป็นไร

​คราวนี้เราก็มามองว่า สมมติว่าเราอยู่ตามโรดแมปคือสองปีโดยประมาณถึงปี 60 ​

​ระยะที่ 1 เราจะสิ้นสุดปฏิรูปคือ กรกฎาคม 2560 ตามโรดแมป

​จากนั้น รัฐบาลใหม่ เราก็จะวางพื้นฐานไว้ให้ คือยุทธศาสตร์ชาติ 2560-2579 20 ปีเพราะเรามุ่งถึงอนาคตเยาวชนอายุ 20 โน้นเราต้องมีเยาวชนคนรุ่นใหม่ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 12 ก็จะเริ่ม 60-64 จะเริ่มปฏิบัติตั้งแต่ ต.ค. 59"

ในส่วนของสิ่งที่ได้ปฏิบัติไปแล้ว 3 ด้าน คือความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยานั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจาก 3 ด้านแล้ว อยากให้เพิ่มด้านการต่างประเทศไปด้วย เพราะจะมีส่วนในการสร้างความเข้าใจ ความร่วมมือกับต่างประเทศไปด้วย เป็นด้านสาขาของเศรษฐกิจไง ความมั่นคงต้องร่วมมือในทุกมิติอยู่แล้ว ผมจึงให้ความสำคัญในด้านต่างประเทศด้วย​จริง ๆ แล้วสำคัญทุกอัน มากกว่านี้อีก ก็ทำทุกเรื่อง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ศูนย์ดำรงธรรม ที่ตั้งมาแล้วเราให้บริการมากกว่า 2 ล้าน 6 แสนเรื่อง เสร็จร้อยละ 97

ส่วนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด “เชิงรุก” ด้วยแผนปฏิบัติการแม่โขงปลอดภัยระยะเวลา 3 ปี พ.ศ. 2559-2561 ร่วมกับชาติพันธมิตร 5 ประเทศ ได้แก่ พม่า + ลาว + กัมพูชา + เวียดนาม + จีน ทำลายตั้งแต่แหล่งผลิต / ตัดวงจรสารตั้งต้น / ตัดเส้นทางลำเลียง ฯลฯ ในส่วนของประชาชนก็ต้อง ป้องกัน ป้องปราม ฟื้นฟู ให้เขารักตัวเอง อย่าไปเสพเลย ยาเสพติดไม่เกิดประโยชน์ สุขภาพก็แย่ เงินทองก็หมดไปไม่เป็นประโยชน์

ส่วนเรื่องอื่นๆ ได้แก่ (1) เรื่องของการปฏิรูปกองทัพ + ตำรวจ ทหาร หรืออะไรก็แล้วแต่ ความจริงเขาก็มีแผนอยู่แล้ว จะ 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี ซึ่งอยู่ในแผนของฝ่ายความมั่นคงเค้า วันหลังจะนำเรียนให้ทราบต่อไป (2) เรื่องของการปรับกำลัง ปรับหน่วยงาน ให้เกิดการบูรณาการมากขึ้น กองทัพเข้มแข็ง มีขนาดเล็กลง ก็ต้องมีพัฒนาการในเรื่องของเทคโนโลยีการใช้ยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย ถึงจะลดคนได้ และอย่างที่เรียนไปแล้วว่า บางครั้งเรามองอย่างต่างประเทศ อาจจะยังไม่ค่อยได้มากนัก เพราะว่าเรายังมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งด้วยอะไรด้วย และเครื่องมือก็ราคาแพง วันนี้เรายังซื้อไม่ได้หลายอย่าง เมื่อซื้อไม่ได้ก็ต้องใช้คน ใช้ตา ใช้มือ ใช้แรงใจ แรงกายของทุกคน ช่วยกันทุ่มเท ให้ประเทศ

เพราะฉะนั้นเรื่องการปฏิรูปกองทัพ และตำรวจ อย่ากังวลผมเข้าใจดี เราต้องไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ถ้าไม่มีทหาร ไม่มีตำรวจเลยคงอยู่ไม่ได้ ทุกประเทศในโลกอยู่ไม่ได้หมด เขามีทหารทั้งหมด ต้องเข้มแข็ง ไม่ได้มีไว้เพื่อรบ มีไว้เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และดูแลเรื่องเศรษฐกิจ จะได้มีน้ำหนักมากขึ้น

เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราได้มีการตั้งคณะพูดคุยสันติภาพ มีการพูดคุยมาหลายครั้งแล้ว ก็มีความก้าวหน้า ตามลำดับ คราวนี้ไม่อยากใช้สิ่งเหล่านี้มาเป็นตัวกำหนดว่าจะเสร็จเมื่อไหร่อย่างไร ก็อยากจะขอให้เข้าใจด้วยไม่ว่าจะสื่อหรือประชาชน เราทำไมจะไม่อยากให้มันจบ เพราะเราเสียดายชีวิตพ่อแม่พี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งคนไทยพุทธ ไทยมุสลิม แล้วก็เจ้าหน้าที่ทุกคนมีครอบครัว มีลูกหลาน ก็ไม่อยากให้ใครบาดเจ็บสูญเสียทั้งสิ้น เสียเวลา เสียโอกาส เสียเวลามากมาย ทหารก็ได้กลับบ้าน เหลือแต่ทหารในพื้นที่ได้ไหม ถ้ามันสงบลงแล้ว ก็เหมือนจังหวัดอื่น ๆ เราต้องเอากำลังไปเติม เพราะดูแลไม่ทั่วถึง ขอร้องแล้วกัน ฝากไปพวกที่ก่อเหตุต่าง ๆ ขอให้เลิก เรากลับมาเป็นคนไทย ร่วมกันพัฒนาชาติไทยด้วยกันดีกว่า เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ โอกาสของภาคใต้มากมาย

หลังจากนั้นพิธีกรถามเรื่องมิติของทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ด้านเศรษฐกิจเราต้องสร้างความเข้มแข็ง มีอยู่ 2 ประการเป็นคำที่อาจจะต้องให้ความเข้าใจและก็คุ้นเคย อันแรกก็คือความเข้มแข็งของประเทศ อันที่สองคือการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เหล่านี้เป็นเครื่องจักรของประเทศเราที่จะทำให้เรากินดีอยู่ดีมีการลงทุนมีการประกอบการ ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ที่เพียงพอเหมาะสม เพราะฉะนั้นในเรื่องของ...แรก เรื่องแรกของการจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นก็ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศให้ได้ สร้างความมีเสถียรภาพเพื่อจะเรียกกลับความเชื่อมั่นฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากสถานการณ์ความไม่สงบทั้งหมดในประเทศภายในช่วงที่ผ่านมาหลายปีมาแล้ว แล้วก็ก่อนปี 57 วันนี้หลายอย่างดีขึ้น ต้องขอขอบคุณทุกคน ประชาชนทุกคน ทุกพวกทุกฝ่าย หลักการสำคัญคือเราใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมานำในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจก็คือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันที่สองคือกลไกประชารัฐ

เราก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เป็น “เครื่องมือ” เพิ่มเติมมาอีก ได้แก่ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ที่เราตั้งมาแล้ว เรียกว่า กรอ. แก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ มีส่วนกลาง จากส่วนกลางมีทั้งในกลุ่มจังหวัดด้วย เพราะว่ามีผู้ประกอบการทั้งภาคธุรกิจเอกชนอยู่ด้วย ร่วมกับคณะกรรมการของเรา ของรัฐบาลนะ อันนี้เราได้ตั้งไปแล้ว คนร.

"อันที่สองคือเรื่องของคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจอันนี้ก็จะกำกับดูแลส่วนงานของรัฐวิสาหะกิจทั้งหมด อันที่สามคือ คณะทำงานประชารัฐ 12 คณะ จะได้เกาะเกี่ยวกันได้ทันที่ที่เขาเรียกว่าบูรณาการ แล้วการบริการให้สะดวกรวดเร็วขึ้น เพื่อจะง่ายในการประกอบการธุรกิจ เราก็จัดตั้งศูนย์ One Stop Service เพื่อให้การบริการด้านธุรกิจด้วย เช่น รถไฟทางคู่“กำลังก่อสร้าง 2 สาย”ใช่ไหม แก่งคอย-ฉะเชิงเทรา และถนนจิระ – ขอนแก่น “ในอนาคตอีก 5 สาย” คือ มาบกะเบา– ถนนจิระ นครปฐม – หัวหิน หัวหิน – ประจวบฯ ประจวบฯ – ชุมพร และ ลพบุรี – ปากน้ำโพ มูลค่า 1.3 แสนล้านบาท ก็มาก จะสร้างงานสร้างอาชีพได้พอสมควรถ้าเกิดได้ ​ อันที่สองก็คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ประกอบด้วย โครงการเร่งด่วน วงเงิน 3,700 ล้านบาท แล้วก็ทำแผนแม่บท ในเรื่องการปรับโครงสร้าง ICT เหล่านี้นะ วงเงินประมาณ 15,000 ล้านบาท อันนี้ต้องทำให้มันทั่วประเทศ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net