Skip to main content
sharethis

1 เดือนการยืนยันสมาชิกลดวูบทุกพรรค 'ปชป.' จาก 2.5 ล้าน เหลือ 8 หมื่น, เพื่อไทย จาก 1.3 แสน เหลือราว 1 หมื่น, 'ชาติไทยพัฒนา' ได้ 2.5 พัน จาก 2.4 หมื่น, 'ภูมิใจไทย' จาก 1.2 แสน ได้มา 1.7 พัน และ 'ชาติพัฒนา' จาก 1.8 หมื่น ได้มา 5.5 พัน

2 พ.ค.2561 จากกระบวนการเปิดยืนยันความประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองครบ 30 วัน ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) 53/2560 ปรากฎว่าทุกพรรคการเมืองมีสมาชิกพรรคลดลงนั้น

ปชป.จาก 2.5 ล้าน เหลือ 8 หมื่น

วานนี้ (1 พ.ค.61) เนชั่น รายงานว่า องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกว่า ว่าจากการยืนยันสมาชิกตลอด 1 เดือนตามคำสั่ง คสช. 53/2560 นั้น ปรากฏว่ามีสมาชิกมายืนยันตัวตนแค่ประมาณ 8 หมื่นคน จากทั้งหมดประมาณ 2.5 ล้านคน ซึ่งถือว่าหายไปจำนวนมาก ส่วนอดีต ส.ส.ที่ยังไม่ยืนยันสมาชิกหรือลาออกจากพรรคนั้นมีประมาณ 2-3 คนเท่านั้น หลังจากนี้มีเวลา 30 วันในการสรุปตัวเลข และตรวจสอบเอกสารเพื่อส่งยืนยันกับ กกต. ต่อไป นายองอาจ ยังบอกว่า จากตัวเลขที่ลดลงจำนวนมากนี้ ทำให้ต้องมีการวางแผนในการหาสมาชิกเพิ่มหลัง คสช. ปลดล็อก ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับพื้นที่ที่อดีต ส.ส.หายไป ก็น่าจะหาคนใหม่มาทดแทนได้ไม่ยากเพราะมีคนรุ่นใหม่มาแสดงความประสงค์เข้าร่วมพรรคและลงสมัคร ส.ส.เป็นจำนวนมาก และสอดรับกับนโยบายของหัวหน้าพรรคที่ประกาศจะนำประชาธิปัตย์สู่ยุคใหม่ ที่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมทำงานมากขึ้นด้วย

เพื่อไทย จาก 1.3 แสน เหลือราว 1 หมื่น

โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงตัวเลขสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคว่า จากเดิมพรรคเพื่อไทยมีสมาชิกประมาณ 1.3 แสน ล่าสุดวันที่ 26 เม.ย. มีสมาชิกมายืนยันความเป็นสมาชิกแล้ว 6,000 คน แต่ตัวเลขสรุปวันนี้เจ้าหน้าที่ของพรรคกำลังตรวจสอบเอกสารหลักฐานอยู่ คาดว่าจะมีผู้มายืนยันความเป็นสมาชิกประมาณ 10,000คน เหตุที่คนมายืนยันความเป็นสมาชิกน้อยเป็นเพราะไม่เห็นด้วยกับการจ่ายเงินค่าสมาชิก

ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาพรวมการยืนยันสมาชิกของพรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนเพราะต้องดูความถูกต้องการจ่ายเงินบำรุงพรรคและหลักฐานการแสดงตน แต่พอได้ตัวเลขคร่าวๆประมาณ 10,000 บวกลบ

อย่างไรก็ตามขณะนี้ตัวแทนพรรคในจังหวัดต่างๆ ยังส่งตัวเลขมาไม่ครบยังอยู่ในกระบวนการรวบรวม คาดว่ามีผู้ยืนยันสมาชิกประมาณ 8-10% ของจำนวนสมาชิก 1.3 แสนคน ซึ่งไม่จำเป็นต้องครบ 10% เพราะเป็นกระบวนการผิดธรรมชาติไม่ใช่ภาวะปกติเป็นความพยายามรีเซ็ตพรรคการเมือง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีผลกับฐานเสียงสนับสนุนของพรรควิธีการดังกล่าวทำให้พรรคการเมืองยุ่งยากทำอะไรไม่ได้เลยซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ผู้มีอำนาจต้องการให้สมาชิกพรรคน้อยลง ขณะที่ผู้สมัครเก่าไม่เปลี่ยนแปลง โดยอดีต ส.ส.ทุกภาคส่วนใหญ่มายืนยันความเป็นสมาชิกเกือบครบ ยืนยันว่าแม้สมาชิกตอนนี้จะลดลงแต่ไม่สามารถทำลายความนิยมของพรรคเพื่อไทยได้ และต่อไปเมื่อปลดล็อกคนใหม่ก็สามารถมาสมัครได้ทันที

'ชาติไทยพัฒนา' ได้ 2.5 พัน จาก 2.4 หมื่น

30 เม.ย.ที่ผ่านมา เดลินิวส์ รายงานว่า กรณีพรรคชาติไทยพัฒนา ไว้ด้วยว่า พิสิษฐ์ พิทยฐากุลเจริญ นายทะเบียนสมาชิกพรรค เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้ยืนยันความประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไปจำนวนประมาณ 2,500 คน ซึ่งเป็นไปตามที่พรรคได้คาดหวังว่าจะมีสมาชิกยืนยันกลับมาร้อยละ 10 จากเดิมที่มีอยู่จำนวน 24,710 คน อย่างไรก็ตามทางพรรคยังต้องรอการยืนยันของสมาชิกทางจดหมาย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะสามารถสรุปยอดรวมอย่างเป็นทางการได้ ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนาใช้วิธีส่งจดหมายจากหัวหน้าพรรคไปถึงสมาชิกพรรคทุกคน เพื่อสอบถามความประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต่อไป
 
พิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับสมาชิกพรรคที่เป็นอดีตส.ส.ของพรรคส่วนใหญ่ยังคงยืนยันแสดงความประสงค์ เป็นสมาชิกพรรคต่อไป ทั้งในเขตพื้นที่จ.สุพรรณบุรี ได้แก่ กัญจนา ศิลปอาชา วราวุธ ศิลปอาชา ประภัตร โพธสุธน ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สรชัด สุจิตต์ เสมอกัน เที่ยงธรรม นพดล มาตรศรี นิติวัฒน์ จันทร์สว่าง จ.อ่างทอง ได้แก่ภราดร ปริศนานันทกุล และกรวีร์ ปริศนานันทกุล  จ.อุทัยธานี  ได้แก่ นพดล พลเสน ชาดา ไทยเศรษฐ์ จ.ศรีสะเกษ ได้แก่ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ  จ.ชัยภูมิ ได้แก่ เชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ จ.อุบลราชธานี ได้แก่ ศักดิ์ชัย จินตะเวช และ จ.ร้อยเอ็ด ได้แก่ อนุรักษ์ จุรีมาศ เป็นต้น
 
ขณะที่ อดีต ส.ส.พิจิตร ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเตรียมย้ายไปลงสมัครพรรคภูมิใจไทยนั้น ไม่ได้เข้ามายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคแต่อย่างใด ส่วน ประดิษฐ์ กับ วินัย ภัทรประสิทธิ์ ได้ลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนาไปก่อนหน้านี้แล้ว

'ภูมิใจไทย' จาก 1.2 แสน ได้มา 1.7 พัน

ส่วนพรรคภูมิใจไทย นั้น ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า สำหรับการลงทะเบียนยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่วันที่ 1-30 เม.ย.ของพรรคภูมิใจไทย ล่าสุดพบว่า มีสมาชิกมาแสดงตนประมาณ 1,700 คน จากเดิม 1.2 แสนคน เนื่องจากขั้นตอนการยืนยันสมาชิกตามที่ คสช.ได้ออกเป็นประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ได้สร้างปัญหาให้พรรคการเมืองจาก 4 สาเหตุหลัก คือ 1.ความยุ่งยากและอุปสรรคเรื่องเอกสาร 2.ประชาชนห่างหายจากการเมืองไปตั้งนาน ทำให้ไม่สามารถตัดสินใจเลือกสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆได้ 3.สมาชิกของพรรคภูมิใจไทยส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด จะต้องใช้บุคลากรลงไปเคาะประตูบ้าน พรรคมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ 4.สมาชิกส่วนใหญ่เดิมเป็นของอดีต ส.ส.ในกลุ่มมัชฌิมาของ สมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต ส.ส.สุโขทัย ผู้ก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ก่อนแยกตัวออกไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย

'ชาติพัฒนา' จาก 1.8 หมื่น ได้มา 5.5 พัน

ขณะที่ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า สมาชิกพรรคชาติพัฒนาได้มายืนยันความเป็นสมาชิกและแสดงหลักฐานการมีคุณสมบัติ โดยไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 รวมทั้งชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองตามคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ตั้งแต่วันที่ 1- 30 เม.ย.2561 พบว่ามีสมาชิกได้มายืนยันการเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมด 5,583 คน จากจำนวนสมาชิกที่มีอยู่เดิม 18,163 คน หรือคิดเป็น 30.7 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และเมื่อปลดล็อกทางการเมืองแล้วพรรคจะดำเนินการหาสมาชิกเพิ่มต่อไป เพื่อให้มีจำนวนสมาชิกครบตามจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คนขึ้นไปตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงสมาชิกที่เป็นอดีต ส.ส.ก็ยืนยันครบ ทั้งนี้ พรรคมีความพร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net