Skip to main content
sharethis

พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความสิทธิมนุษยชน ตั้ง 5 ข้อสังเกต ทั้งอำนาจหน้าที่ของผู้ประกาศ ความลักลั่นในการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ และหลักความได้สัดส่วน ต่อประกาศ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กรณีให้ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำซำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราว  

พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความสิทธิมนุษยชน

20 ก.ย.2561 หลังเกิดเหตุการณ์ซุ่มยิงทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บอีก 4 นายขณะที่ทั้งหมดกำลังเดินกลับฐานใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา และต่อมา 16 ก.ย.61 พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) จัดแถลงข่าว ณ มณฑลทหารบกที่ 46 ประกาศ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ฉบับที่ 86/2561 ให้ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำซำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราวโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 และกำหนดให้ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวนำอาวุธปืน และเครื่องกระสุนทุกชนิด รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือทุกประเภทมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 17-23  ก.ย. 2561 ณ ที่ว่าการอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี

ประกาศ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กรณีให้ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำซำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษชั่วคราว

วันนี้ (20 ก.ย.61) พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความสิทธิมนุษยชน ตั้งข้อสังเกต ต่อประกาศ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ฉบับ ดังกล่าว 5 ประเด็นดังนี้

  1. ประกาศฉบับนี้ไม่ใช้ประกาศใช้กฎอัยการศึก ความจริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่แล้ว ประกาศที่ออกมาเป็นประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษ ระหว่างวันที่ 16 ก.ย.- 23 ก.ย. เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวประกาศก็จะสิ้นผลไป แต่พื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นพื้นที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่
  2. ประกาศกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ฉบับที่ 86/2561 ลงนามโดยพล.ท.ปิยวัฒน์ นาควาณิช ในนาม ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน นั้นมีข้อน่าพิจารณาว่า ตำแหน่งผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค(ผอ.รมน.ภาค) ซึ่งก่อตั้งอำนาจโดย พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 นั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ประกาศดังกล่าวก็สะท้อนถึงความลักลั่นในการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ซึ่งมีกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงบังคับใช้ถึงสามฉบับ จนกระทั่งฝ่ายปฏิบัติการเองขาดความเข้าใจในบทบาทและอำนาจหน้าที่ของตน
  3.  “พื้นที่ควบคุมพิเศษ” ไม่ได้มีกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457  พื้นที่ควบคุมพิเศษจึงมิใช่ถ้อยคำในทางกฎหมาย  เมื่อมิได้กำหนด “พื้นที่ควบคุมพิเศษ” ไว้ จึงไม่ได้มีผลใดในทางกฎหมาย อย่างไรก็ตามยังคงพิจารณาเนื้อหาของประกาศฉบับดังกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจในการประกาศดังกล่าวหรือไม่
  4. ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 8 และ 9 ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารในการดำเนินการตรวจค้น แต่การตรวจค้นนั้น จะต้องเป็นการตรวจค้น บรรดาสิ่งซึ่งจะเกณฑ์ หรือต้องห้าม หรือต้องยึด หรือจะต้องเข้าอาศัย หรือมีไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น การสั่งให้บุคคลกระทำการเพื่อการตรวจสอบแบบไร้เป้าหมายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษจึงอาจจะไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว
  5. แม้ความรุนแรงจากการซุ่มยิงทำให้มีทหารเสียชีวิตสองนาย และบาดเจ็บอีกสี่ราย แต่มาตราการที่กำหนดให้ผู้ที่อาศัยในพื้นที่สองตำบล นำอาวุธปืน และเครื่องกระสุนทุกชนิด รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือทุกประเภทมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อตรวจสอบนั้นกลับก่อให้เกิดผลกระทบและความหวาดกลัวในวงกว้างกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งอาจเป็นมาตรการที่ขัดกับหลักความได้สัดส่วน (Principle of proportionality)เนื่องจากก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนเกินสมควร อันขัดต่อมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560

"ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีหลายมิติ การใช้อำนาจตามกฎหมายความมั่นคงมาตั้งแต่ปี 2547 นับตั้งแต่การประกาศใช้กฎอัยการศึก ตามมาด้วย พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 และ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรพ.ศ. 2551 ในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากจะไม่สัมฤทธ์ผลและยังไม่เห็นปลายทางในการแก้ไขปัญหาแล้ว ในทางตรงกันข้ามกลับพบว่ากระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายกลับสร้างผู้ได้รับผลกระทบและสร้างความซับซ้อนในการแก้ไขปัญหามากขึ้นอีก  กระบวนการยุติธรรมที่เคารพสิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม (Right to fair trial)และหลักนิติรัฐเท่านั้นที่จะเป็นหนึ่งในหนทาง ที่จะนำมาซึ่งสันติภาพได้" พูนสุข กล่าวทิ้งท้าย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net