Skip to main content
sharethis

สื่อมาเลเซียกินีรายงานเรื่องที่การทำไร่ทุเรียนมูซังคิงในมาเลเซียเป็นเหตุทำให้เกิดการถางป่าในเมืองเราบ์ รัฐปะหัง ของมาเลเซีย ส่งผลให้เสือโคร่งมลายูเสี่ยงต่อการเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มากขึ้น

เสือโคร่งมลายูในสวนสัตว์ซินซินนาติ สหรัฐฯ (ที่มา:วิกิพีเดีย)

ในรัฐปะหัง ของประเทศมาเลเซียกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวสิงคโปร์และชาวจีนนิยมเดินทางไป "ทัวร์ทุเรียน" ส่งผลให้เกิดความต้องการทุเรียนมูซังคิงสูงขึ้น และทำให้เกิดไร่ทุเรียนเพิ่มขึ้นตามมา

มีการคาดการณ์ว่าบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลปะหังจะตัดไม้บนภูเขาฮูลูเซมปัมราว 12.13 ตารางกิโลเมตร หรือราว 7580 ไร่

สิตี สุไรดาห์ อบิดิน จากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประจำมาเลเซีย ก็เปิดเผยว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกวางไว้ให้เป็นพื้นที่ๆ เป็นที่อยู่อาศัยของเสือ และตั้งอยู่ในเขตที่ติดกับพื้นที่คุ้มครองที่มีเสืออาศัยอยู่ ซึ่งเสือโคร่งมลายูหรือ Malayan Tiger จัดอยู่ในสถานะมีความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ (critically endangered) โดยมีเหลืออยู่เพียงน้อยกว่า 300 ตัวเท่านั้น ซึ่งการถางป่าบนฮูลูเซมปัมจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางเคลื่อนย้ายของสัตว์ป่า

แต่กรมป่าไม้ของปะหังก็ระบุว่าโครงการนี้ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากทางกรม รายงานข่าวระบุอีกว่าความต้องการทุเรียนในจีนทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น นำมาซึ่งการขยายตัวของสวนทุเรียนระดับใหญ่ๆ ในมาเลเซียในช่วงปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ อีกทั้งยังมีการนำเข้าทุเรียนสดเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ต่อปีในช่วงสิบปีที่่ผ่านมา จนกระทั่งในปี 2559 มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 36,000 ล้านบาท)

อนาคตทุเรียนไทยภายใต้ความท้าทาย ราคาดีปีนี้อีก 5 ปีอยู่ตรงไหน

อย่างไรก็ตามความต้องการของทุเรียนนี้ก็ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับความต้องการของน้ำมันปาล์มที่ก่อให้เกิดการทำลายที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อย่างลิงอุรังอุตัง การเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนก็ชวนให้กังวลว่าจะเป็นการทำลายประชากรเสือที่ใกล้จะสูญพันธุ์เช่นกัน

นอกจากรายงานเรื่องเสือแล้ว ชาวบ้านเชื้อชาติเทเมียร์ในรัฐกลันตันก็กำลังต่อสู้กับเจ้าของสวนทุเรียนในเรื่องสิทธิที่ดินทำกินที่ชาวเทเมียร์อ้างว่าเป็นที่ดินบรรพบุรุษของพวกเขา ชาวเทเมียร์ทำการปิดถนนเพื่อไม่ให้คนตัดไม้และคนทำสวนปาล์มเข้าไปได้ขณะที่สวนทุเรียนเป็นสิ่งใหม่ที่พวกเขากังวล ส่วนทางการรัฐกลันตันบอกว่าที่ดินดังกล่าวไม่ได้เป็นของชาวบ้านเทเมียร์

มีบริษัทสวนทุเรียนมูซังคิงผ้องร้องดำเนินคดีกับกลุ่มนักกิจกรรมเทเมียร์ในเรื่องการปิดถนนและเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาเลเวียเข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้ โดยคดีที่พวกเขาฟ้องร้องจะมีการไต่สวนภายในวันที่ 28 ต.ค. ที่จะถึนี้

เรียบเรียงจาก

Musang King durian plantations putting Malayan tigers at risk, says report, Malaysiakini, Oct. 24, 2018

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net