20 ธ.ค. 2562 เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส. หรือ พีมูฟ) ครั้งที่ 2/2562 โดยมี เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทน วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการ
ที่ประชุมมีการหารือวาระเรื่องพิจารณา 2 เรื่อง คือ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานภายใต้คณะกรรมการ ฯ จำนวน 10 คณะ และการแก้ไขปัญหากรณีเร่งด่วน 19 กรณี อาทิ กรณีพื้นที่สวนป่าคอนสารทับที่ทำกิน และที่อยู่อาศัย ตำบลทุ่งพระ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ, กรณีชุมชนหลังเวทีสะพานหิน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต, กรณีชุมชนทับยาง ตำบลท้ายเหมือง จังหวัดพังงา, กรณีนางแสงเดือน ตินยอด บ้านแม่กวัก ตำบลบ้านอ้อน อำเภองาม จังหวัดลำปาง และคดีอื่น ๆ รวม 22 คดี มีผู้เดือดร้อนประมาณ 300 ครอบครัว, กรณีสิทธิสถานะบุคคล,
กรณีขอให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2561 เรื่องพื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่่ไม้ และแนวทางการยกระดับการดำเนินงานโฉนดชุมชนและโครงการจัดที่ดินชุมชนให้เป็นการรองรับสิทธิชุมชนภายใต้กลไกคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.), กรณีชุมชนน้ำแดงพัฒนา ตำบลคลองน้อย อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี, กรณีชุมชนสระต้นโพธิ์ ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต, กรณีปัญหาของเครือข่ายสลัม 4 ภาค, กรณีที่สาธารณะประโยชน์โคกภูถ้ำพระ ตำบลกุดแห อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร, กรณีที่สาธารณะประโยชน์โคกปออีกว้าง ตำบลกุดเชียงหมี อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร
กรณีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน จำนวน 10 คณะ ซึ่งมีรัฐมนตรีเป็นประธาน ตามมติการประชุมครั้งที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2562 แต่ในปัจจุบันยังไม่มีการแต่งตั้ง โดยคณะกรรมการฝ่ายรัฐแจ้งว่าได้นำเรียนรองนายกรัฐมนตรี แล้ว 9 คณะ เหลืออีก 1 คณะ กำลังทบทวนรายชื่อคณะกรรมการ ที่ประชุมมีมติเร่งรัดการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานอย่างเร่งด่วน โดยน่าจะมีคำสั่งแต่งตั้งในสัปดาห์หน้า และหลังจากมีการแต่งตั้งจะประสานกระทรวงต่าง ๆ ให้มีการจัดประชุมภายใน 1 เดือน
สำหรับกรณีการแก้ไขปัญหากรณีเร่งด่วน 19 กรณี เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงาน ทำให้ยังไม่มีการคลี่คลายปัญหา และยังไม่ได้ข้อสรุปในระดับกระทรวง อีกทั้งขาดเจ้าภาพประสานงานระหว่างหน่วยงาน บางหน่วยงานอ้างว่าติดขัดข้อกฎหมาย และขั้นตอนการปฏิบัติของราชการ โดยเฉพาะในพื้นที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นจึงกำหนดการประชุมวงเล็กเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ในวันที่ 23 ธ.ค. และ 25 ธ.ค. เวลา 09.00 น. รวมทั้ง จะมีการหารือนอกรอบกับ วิษณุ เครืองาม ในฐานะประธานคณะกรรมการ ก่อนการประชุมครั้งหน้า ซึ่งทางพีมูฟยืนยันว่าประธานคณะกรรมการ ซึ่งมีอำนาจสั่งการกระทรวงต่าง ๆ ต้องมาทำหน้าที่ประธานในการประชุม
จำนงค์ จิตรนิรัตน์ ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ไม่ค่อยมีความคืบหน้า เนื่องจากยังไม่มีการตั้งอนุกรรมการ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหา ทำให้ต้องทบทวนข้อมูลกันใหม่ และยกยอดไปประชุมคราวหน้า ประธานไม่ได้มาประชุม แต่รองประธานที่ทำหน้าที่แทนพยายามชงเรื่องถึงประธานตัวจริงให้เร็ว และมีการพูดคุยหาทางออกนอกรอบ
ด้านอรนุช ผลภิญโญ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ไม่มีความคืบหน้า คณะกรรมการฝ่ายรัฐอ้างว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ โยนให้เป็นความรับผิดชอบของเจ้ากระทรวง ในขณะที่ยังไม่มีการแต่งตั้งอนุกรรมการ ทั้งที่มีมติมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ทำให้ชาวบ้านต้องเสียสิทธิ กรณีบ่อแก้ว องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ไม่ได้ทำตามที่ได้หารือกับคณะทำงานยุทธศาสตร์ กระทรวงทรัพยากร ฯ ที่ได้ตกลงกันว่าจะจัดที่ดินให้ชาวบ้าน 131 ราย ในเนื้อที่ 812 ไร่ เฉลี่ยคนละประมาณ 6 ไร่ แต่อ้างว่ามีพื้นที่เหมาะสม ที่สามารถจัดให้ชาวบ้านได้เพียง 366 ไร่ เฉลี่ยคนละไม่ถึง 3 ไร่ ในขณะที่คนที่มีอำนาจสามารถถือครองที่ดินในเขตป่าได้คนละหลายสิบไร่หลายพันไร่ กรณีที่สาธารณะประโยชน์โคกภูถ้ำพระ และโคกปออีกว้างมีการเจรจากันมายาวนาน แต่ต้องกลับไปหารือในอนุกรรมการก่อน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)