Skip to main content
sharethis

ส.ส.เพื่อไทย กรุงเทพฯ ลงตรวจความพร้อม รถไฟฟ้าสายสีแดง ชี้ยังอันตรายยังไม่ควรเปิดทางการ​ รฟท.ต้องแก้ปัญหาการลักลอบตัดสายไฟเส้นทางก่อน เพื่อให้เดินรถให้ปลอดภัย - โฆษกเพื่อไทยย้ำรัฐบาลประยุทธ์ ทำชาวนาลำบาก นโยบายหาเสียงเป็นแค่ภาพลวงตา ชี้หาก 'ยิ่งลักษณ์' ยังเป็นนายกฯ ไม่ปล่อยให้ชาวนาลำบากแบบนี้  

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2564 เว็บไซต์พรรคเพื่อไทย รายงานว่านายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การมหาชนพร้อมคณะ แถลงข่าวหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบการเปิดทดลองใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีรังสิต ผ่านสถานีกลางบางซื่อ ไปตลิ่งชันนั้น ซึ่งจากการรับฟังสภาพปัญหา ณ ปัจจุบันได้เปิดทดลองวิ่งโดยให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการฟรีมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม และมีกำหนดการจะเปิดให้บริการเก็บเงินภายในเดือนนี้

ซึ่งจากลงพื้นที่ตรวจสอบคณะกรรมาธิการฯ มีข้อสังเกตุและข้อทักท้วงไปยัง กระทรวงคมนาคมว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยในฐานะดูแลรถไฟฟ้าสายสีแดงนี้ยังไม่ควรเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการจนกว่าจะให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนผู้ใช้บริการได้เนื่องจากยังไม่มีความปลอดภัยโดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาตัดสายไฟของทางเดินรถไฟฟ้าที่บริเวณสถานี รังสิตและ บริเวณสถานี ตลิ่งชัน อีกทั้งยังมีผู้ลักลอบเข้ามาในพื้นที่รถไฟฟ้าและการรถไฟยังไม่สามารถปิดกั้นได้อย่าง 100% ทำให้เกิดความเสี่ยงสูง ต่อผู้ใช้บริการนอกจากนี้คณะกรรมาธิการยังพบว่าระบบรักษาความปลอดภัยอาทิตย์กล้อง CCTV เซ็นเซอร์จับผู้บุกรุกเข้ามาในแนวเขตทางวิ่งยังไม่มีคุณภาพเพียงพอให้น่าไว้ใจได้

เมื่อเข้าไปดูในห้องควบคุม จะเห็นว่ามีไฟเตือนภัยด้วยสัญลักษณ์สีแดงเข้มหลายจุดบนจอ นั่นหมายความว่าระหว่างเส้นทางวิ่งยังมีความเสี่ยงสูง ซึ่งหากเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ก็จะเป็นการผลักภาระความเสี่ยงให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่าจากการสอบถามผู้แทนของการรถไฟได้ชี้แจงว่ายอมรับว่ายังไม่สามารถปิดกั้นทางที่จะให้คนเร่ร่อนหรือขโมยเข้ามาลักลอบตัดสายไฟ ของรถไฟฟ้าได้ แต่กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอผู้บริหารให้เพิ่มเติมระบบรักษาความปลอดภัย

“ซึ่งตนเห็นว่าหากยังไม่มีการดำเนินการ ให้ความปลอดภัยสูงสุด ก็ไม่ควรเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการซึ่งหากมีอุบัติเหตุ มีคนเจ็บคนตาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องเป็นผู้รับผิดชอบ จึงอยากถามว่าพร้อมที่จะเสี่ยงหรือยัง” นายจิรายุกล่าว

โฆษกเพื่อไทยย้ำรัฐบาลประยุทธ์ ทำชาวนาลำบาก นโยบายหาเสียงเป็นแค่ภาพลวงตา ชี้หาก 'ยิ่งลักษณ์' ยังเป็นนายกฯ ไม่ปล่อยให้ชาวนาลำบากแบบนี้

ด้านทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2564 ว่านางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพฯ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกตกต่ำในขณะนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศเป็นอย่างมาก วันนี้ราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้า 5%  (ความชื้น 15%) เฉลี่ยอยู่ที่ 7,500 บาทต่อตัน ขณะที่ข้าวที่มีความชื้นมากกว่า 15% ราคาไม่ถึง 6,000 บาทต่อตัน แต่ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทำให้ข้าวมีความชื้นสูง จึงถูกกดราคารับซื้อให้ต่ำกว่าราคาที่กำหนดไว้ แม้จะมีโครงการประกันส่วนต่างของกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และแม้รัฐบาลกู้เงินมามากกว่า 5.8 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลไม่เคยให้สำคัญกับชาวนาเลย กู้เงินจำนวนมหาศาล  รัฐบาลนำไปใช้ในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ และอื่นๆ เป็นภาษีของประชาชน และเป็นภาระหนี้ที่แม้แต่ชาวนาก็ต้องรับภาระหนี้ด้วย ส่วนนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงไว้กับประชาชนว่าจะช่วยเหลือชาวนาทั้งในเรื่องต้นทุนการผลิตและราคา ไม่ถูกนำไปสู่การปฏิบัติ  เป็นได้แค่สร้างภาพลวงตาให้ประชาชนหลงไปกับคำพูดของ พรรคการเมืองที่เสนอให้พลเอกประยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า เวลานี้เป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่ของประเทศ รัฐบาลควรมีมาตรการแก้ไขปัญหาราคาข้าวให้กับชาวนาที่ชัดเจนมากกว่านี้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องประสบปัญหาขาดทุนจากราคาที่ตกต่ำมาตลอด ประกอบกับค่าครองชีพและราคาสินค้าอื่นกลับปรับราคาสูงขึ้น จนทำให้หลายครอบครัวต้องตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ต้องขายทรัพย์สิน ขายที่นาเพื่อพยุงชีวิตให้อยู่รอด 

“ชาวนาคือเส้นเลือดหลักหล่อเลี้ยงชีวิตคนไทยและคนทั่วโลก ข้าวจากประเทศไทยสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล ทุกวันนี้ชาวนาจำนวนไม่น้อยบ่นคิดถึง โครงการจำนำข้าวที่เคยเป็นที่พึ่งหลังเก็บเกี่ยวข้าว มีรายได้ที่แน่นอน หากนายกฯยิ่งลักษณ์ยังดำรงตำแหน่งอยู่ คงไม่ปล่อยให้คนไทยลำบากแบบนี้” นางสาวธีรรัตน์กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net