รัฐไทยเฉลิมฉลองวันรัฐธรรมนูญ วันสิทธิมนุษยชนสากล โดยใช้กำลังสลายการชุมนุมของชาวจะนะ
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันสะท้อนว่าประชาธิปไตยไทยตกต่ำ สิทธิมนุษยชนถูกเหยียบย่ำ เหลือเพียงเครื่องหมายการค้า เช่นกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพแจกรางวัล “องค์กรสิทธิมนุษยชนต้นแบบ” ให้บรรษัทยักษ์ใหญ่ทำ PR
ม็อบจะนะ ซึ่งควรเรียกว่า “ผู้หญิงคนแก่มาร้องทุกข์” มา ทวง MOU ข้อตกลงที่รัฐบาลทำไว้ จะเถียงจะแถจะตระบัดสัตย์อย่างไร (ข้อตกลงไม่ใช่สัญญา ครม.รับทราบไม่ได้เห็นชอบ) เชิญพูดได้ตามสบายถ้าไม่อายปาก แต่ทำไมต้องใช้ คฝ.สลาย ไล่นักข่าว ใช้สปอตไลต์ส่อง ไม่ให้ถ่ายภาพถ่ายคลิปเป็นประจักษ์พยานความกล้าหาญของ คฝ.กับผู้หญิงคนแก่
ตำรวจอ้างว่าม็อบกีดขวางจราจร อัครมหาเสนาบดีเจ้าพระยาประยุทธ์โอชาเข้าทำเนียบไม่ได้? ทำเนียบมีตั้งหลายประตู ทำไมต้องใช้กำลัง
ใช่หรือไม่เป็นสันดานละเมิดสิทธิจนเคยชิน อ้างชุมนุมผิดกฎหมายก็ใช้กำลังทันที ใช้อย่างเมามัน ทั้งที่กฎหมายมีหลักความสมควรแก่เหตุ มีกรอบเกณฑ์ที่เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติ ไม่ใช่ชี้หน้าว่าใครผิดแล้วตำรวจใช้กำลังได้ตามอำเภอใจ
แต่ทำมาแล้วไง กับม็อบราษฎร ม็อบทะลุแก๊ซ ทั้งขับรถชน ถีบรถล้ม รุมตีรุมกระทืบคนมือเปล่า ทำแล้วย่ามใจ เพราะรัฐให้ท้าย ปราบม็อบแล้วได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง กระบวนการยุติธรรมก็ปกป้องกันเอง
สาวอุดรบอกประยุทธ์ พัฒนาไม่ได้ให้เกษียณ ตำรวจขอเยี่ยมบ้าน ไม่ยอมให้ไปเรียกทำประวัติ พอโดนสังคมด่าขรม จี้เอาผิดปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ผู้บังคับบัญชารีบปฏิเสธ ไม่จริ๊งไม่จริง แต่ความจริงคือนักเคลื่อนไหวตามจังหวัดต่างๆ ถูกตำรวจ “เยี่ยมบ้าน” พูดจาคุกคาม สร้างความหวาดกลัวให้ครอบครัวพ่อแม่ ห้ามออกมาม็อบ โดยเฉพาะเมื่อนายจะไปสัญจร
ใช้อำนาจโดยไม่มีกฎหมาย อาศัยความเคยชินยุครัฐประหาร ตำรวจทหารบุกบ้านโดยไม่ต้องขอหมายค้นหมายจับ เห็นชัดว่า 7 ปี สิทธิมนุษยชนเตี้ยต่ำลง
แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังคิดว่าสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของม็อบ ของ LGBTQ ช่างหัวมัน ตัวเองไม่เดือดร้อนอะไร ไม่ตระหนักว่าสิทธิมนุษยชนมีไว้คุ้มครองประชาชนผู้ด้อยโอกาสด้อยอำนาจ ไม่มีเส้นสาย ยิ่งรัฐมีอำนาจมาก ประชาชนยิ่งอันตราย ยิ่งให้ท้ายเจ้าหน้าที่ลุแก่อำนาจ เหิมอำนาจ ก็เป็นอย่าง “โจ้ ถุงดำ” ซึ่งถ้าไม่ตาย ถ้าไม่มีคลิป คงรอดได้สบายๆ ด้วยข้ออ้างทำเพื่อชาติใช้อำนาจเถื่อนเพื่อคุ้มครองสุจริตชน
10 ธันวา เป็นทั้งวันสิทธิมนุษยชนสากลและวันรัฐธรรมนูญ ซึ่ง 89 ปีผ่านไป กลับเกิดคำถามว่า ระบอบที่ปกครองประเทศอยู่ทุกวันนี้ใช่ “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” จริงๆ หรือ
เพราะคำว่า “ประชาธิปไตย” ถูกลดความหมายลดเพดานลง ทั้งด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยของศาล โดยเฉพาะคดี “ล้มล้าง” นี่ไม่ใช่ระบอบที่คนไทยเคยชินมา 30-40 ปีด้วยซ้ำ ทั้งที่ระบอบก่อนนี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มใบ (บางท่านเรียกว่าประชาธิปไตยใต้อำนาจนำ)
รัฐธรรมนูญ 10 ธันวา 2475 เกิดจากคณะราษฎรพยายามประนีประนอมกับเครือข่ายแวดล้อมสถาบัน ภายใต้หลักการประชาธิปไตย เทิดสถาบันพระมหากษัตริย์พ้นไปจากการใช้อำนาจทางการเมืองการบริหาร ซึ่งให้คุณให้โทษได้ เกิดคนพอใจไม่พอใจได้ อาจบริหารสำเร็จก็ได้ ล้มเหลวก็ได้ ฯลฯ ให้ไปอยู่นอกการใช้อำนาจเพื่อเป็นที่เคารพรัก ส่วนความเกลียดความชอบทางการเมืองให้เป็นเรื่องของรัฐบาลจากเลือกตั้ง ซึ่งถ้าประชาชนไม่พอใจก็ด่าได้
น่าเสียดายเครือข่ายอำนาจเดิมไม่ยอมรับหลักการนี้ พระยามโนรัฐประหารเงียบ พระยาพหลยึดอำนาจคืน ตามมาด้วยกบฏบวรเดช แต่ต่อมาก็เกิดรัฐประหาร 2490 ฉีกรัฐธรรมนูญ 2475 สิ้นสุดเจตนารมณ์คณะราษฎร
ในทางรัฐธรรมนูญ 2490 คือก้าวถอยหลังก้าวใหญ่ หลังจากนั้นอาจสลับไปมา แต่รัฐธรรมนูญ 2560 นี่เอง ที่ถอยไปก้าวใหญ่อีกครั้งในความหมาย “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจึงน่าทึ่ง-อึ้ง เพราะเป็นอะไรที่ไม่คาดคิด
คำว่า “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ” คำขวัญปฏิวัติสาธารณรัฐฝรั่งเศส ถูกยกมาประณามม็อบปฏิรูปสถาบัน คำว่า “อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย” มาตรา 1 ในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของ “ปฏิวัติสยาม” ถูกนำมาใช้รองรับความหมายอีกอย่าง ที่นักกฎหมายอ่านแล้วหัวร่อก๊ากๆๆ ทั้งน้ำตา
คุณค่า 10 ธันวากำลังถูกทำลายทั้งสองด้าน เหลือแต่ระบอบอำนาจที่กดเพดานประชาธิปไตย เหยียบย่ำสิทธิ มนุษยชน เพียงแต่แน่ละ คนยังมีชีวิตอยู่ได้ ในระบอบเสมือนยุคกลางแต่มี 5G สมาร์ตโฟน
เดิมพันของระบอบคือทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้หรือเปล่า มีรัฐบาลที่บริหารประเทศได้อย่างชาญฉลาด มีระบบราชการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ปากท้องอิ่ม ระหว่างบีบคั้นให้ยอมจำนนต่อเพดานประชาธิปไตยที่ลดต่ำลง
ถ้าเชื่อว่าประชาธิปไตยไม่เกี่ยวกับปากท้อง ผู้นำโง่ทำเศรษฐกิจดีได้ ก็เชิญเดินหน้าไป
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_6775611
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)