Skip to main content
sharethis
  • สปสช. ย้ำ 3 ช่องทางลงทะเบียน “ระบบ Home Isolation” ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่บ้าน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่สายด่วนติดต่อกลับ หากโทร 1330 แต่สายไม่ว่าง พร้อมชี้แจง ผู้ป่วยโควิด-19 ลงทะเบียน HI ไม่เสียสิทธิรักษาใน รพ. หากอาการแย่ลงมีระบบส่งต่อ ส่วนกรณีออกใบรับรองแพทย์สามารถประสานติดต่อหน่วยบริการที่ดูแล       
  • เปิด “คลินิกแก้ปัญหาเบิกจ่าย” หลังคลินิกเอกชนร้องไม่ได้รับค่าบริการดูแลผู้ป่วย HI/CI เผยเหตุจากข้อมูลส่งเบิกจ่ายไม่ครบถ้วน ย้ำหากแก้ไขส่งข้อมูลถูกต้อง สปสช.พร้อมโอนจ่ายค่าบริการในรอบเบิกจ่าย พร้อมเตรียมเชิญหน่วยบริการร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ ชี้แจงระบบเบิกจ่าย 

16 ก.พ.2565 ทีมสื่อ สปสช. รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ผศ.ภญ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  กล่าวว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ด้วยเป็นการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนทำให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก แต่ทั้งนี้ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังและติดตามตามนโยบาย HI- CI - ATK first ของกระทรวงสาธารณสุข โดย สปสช. จัดทำระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน (Home Isolation : HI) ในการจับคู่หน่วยบริการดูแลและขณะนี้ยังคงให้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อประชาชนตรวจ ATK ด้วยตนเองและมีผลติดเชื้อโควิด-19 สามารถลงทะเบียนระบบ HI ดังนี้  

กทม. : โทร.เบอร์สายด่วนของแต่ละเขต (เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์หรือเฟสบุ๊ก กรุงเทพมหานคร: https://bit.ly/3FBOgvw ) หรือ โทรสายด่วนศูนย์เอราวัณ 1669 กด 2 หรือเพิ่มเพื่อนทาง Line @BKKCOVID19CONNECT 

ต่างจังหวัด : โทร. Call Center ของจังหวัดหรืออำเภอ (เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์หรือเฟสบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขของแต่ละจังหวัด)  

ทั้ง กทม.และต่างจังหวัด หากไม่ทราบหรือไม่สะดวกโทร.ตามรายละเอียดข้างต้น   

1.โทร.สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 หรือ  

2.ลงทะเบียนด้วยตนเองที่ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือ 

3. ไลน์ สปสช. โดยเพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 

- เลือกเมนูบริการเกี่ยวกับโควิด-19 

- เลือกลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้าน (Home Isolation)  

นโยบายของรัฐบาลให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่การรักษาที่บ้าน (Home Isolation) หากสภาพบ้านไม่พร้อม จะเข้าสู่การรักษาในระบบชุมชน (Community Isolation) แต่ถ้าหากอาการรุนแรงขึ้น คนไข้จะถูกส่งต่อเข้าโรงพยาบาลตามความเร่งด่วนของคนไข้แต่ละราย  

หลังจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 โทรแจ้งตามระบบแล้ว จะมีเจ้าหน้าหน้าที่โทรกลับเพื่อประเมินอาการภายใน 6 ชั่วโมง หากภายใน 6 ชั่วโมงยังไม่มีการติดต่อกลับ ให้โทร.แจ้งที่ สายด่วน สปสช. 1330 อีกครั้ง  

“กรณีโทรสายด่วน 1330 ไม่ติด เนื่องจากมีประชาชน โทร.เข้ามามาก ไม่ต้องกังวล สปสช.จัดเจ้าหน้าที่โทรกลับสายที่โทรไม่ติดเพื่อรับข้อมูลเข้าระบบ หรือใช้ช่องทางลงทะเบียนด้วยตนเองตาม link ข้างต้น หรือผ่านช่องทางไลน์ สปสช. พิมพ์ @nhso” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว 

ผศ.ภญ.ดร.ยุพดี กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีข้อมูลจากทีมเครือข่ายจิตอาสาที่มาร่วมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แจ้งว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งเกิดเข้าใจผิดว่า เมื่อลงทะเบียน HI แล้วจะเสียสิทธิการจองเตียงเข้ารักษาในโรงพยาบาล ขอชี้แจงว่าระบบ HI เป็นการติดตามและดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เฉพาะกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว เพื่อแยกผู้ป่วยสีเหลืองและแดงเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ช่วยลดความแออัดและให้มีเตียงเพียงพอรองรับผู้ป่วยอาการหนักและจำเป็น ซึ่งในระหว่างการดูแลในระบบ HI หากผู้ป่วยมีอาการแย่ลงก็จะมีการส่งต่อผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาล ไม่ได้เสียสิทธิการเข้ารักษาในโรงพยาบาลแต่อย่างใด 

ส่วนกรณีการขอใบรับรองแพทย์ช่วงรักษาตัวในระบบ HI นั้น ให้ประสานกับหน่วยบริการที่ดูแลซึ่งจะออกใบรับรองแพทย์ให้ตามการให้บริการจริง   

เปิด “คลินิกแก้ปัญหาเบิกจ่าย” ย้ำหากข้อมูลบริการครบถ้วน พร้อมโอนจ่าย  

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีคลินิกชุมชนอบอุ่นและคลินิกเอกชนกว่าร้อยแห่ง ที่ได้ร่วมในระบบดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่บ้านและในชุมชน (Home Isolation, Community Isolation : HI/CI) ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ยังไม่ได้รับการจ่ายค่าชดเชยบริการนั้น จากข้อมูลที่ปรากฎ สปสช.ในฐานะหน่วยงานที่จัดระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านและในชุมชนขอเรียนว่า สปสช.จะเชิญคลินิกและหน่วยบริการที่เกี่ยวข้อง มาร่วมประชุมหารือผ่านระบบออนไลน์เพื่อชี้แจงระบบการจ่ายเงินของ สปสช. ยืนยันว่าหากท่านส่งข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน สปสช.จะจ่ายได้ภายในรอบการจ่ายเงินปกติ 

ทั้งนี้ จากการายงานเบื้องต้นพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากข้อมูลการเบิกจ่ายที่หน่วยบริการส่งเข้ามา พบว่ามีหน่วยบริการบางส่วนที่ส่งข้อมูลไม่ครบถ้วน บางส่วนข้อมูลก็มีความคลาดเคลื่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง สปสช.ได้แจ้งผลการตรวจสอบเบื้องต้นให้กับหน่วยบริการที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามหากได้ข้อมูลเบิกจ่ายครบถ้วนแล้ว สปสช.พร้อมที่จะจ่ายค่าบริการ 

นพ.จเด็จ กล่าวถึงคลินิกเอกชนและหน่วยบริการที่ยังไม่ได้รับค่าบริการว่า ขณะนี้ขอให้ท่านเข้าไปดูรายการการตรวจสอบเบื้องต้นก่อน และขอให้แก้ไขกลับเข้ามาโดยเร็ว เพื่อที่ สปสช. จะได้จ่ายค่าบริการให้ตามผลการให้บริการได้ ทั้งนี้ สปสช.จะเปิดคลินิกแก้ไขปัญหาการเบิกจ่ายเงินให้กับหน่วยบริการเป็นการเฉพาะ เพื่อสร้างความเข้าใจโดยตรงกับหน่วยบริการ  

“การจ่ายเงินกรณีโควิดเป็นเรื่องใหม่ สปสช.จำเป็นต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดและรอบคอบก่อนการจ่ายเงินตามนโยบายของรัฐบาล เพราะเงินในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับการจัดสรรจากภาษีของประชาชน หากตรวจสอบไม่ครบถ้วนก็อาจเกิดความเสียหายในภายหลังได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net