แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังปราบไม่หมด ก็เกิด “คลิปคอล 15 ล้าน” ยอมรับตัวจริงเสียงจริง แต่อ้างว่าหยอกกันเล่น แล้วโดน “ไอ้กิ๊ก” แอบอัดไปตัดต่อ

เด็กอมมือเชื่อหรือไม่ ต้องส่งศาลฎีกาตัดสินจริยธรรมไหม เพื่อให้ “ดร.เสกสกล” พ้นอำนาจหน้าที่ปราบลอตเตอรี่แพง ซึ่งอาจให้คุณให้โทษกับผู้มีโควตาลอตเตอรี่ อย่างที่พูดในคลิป มีอำนาจกระทั่งผู้บริหาร “มังกรฟ้า” จะเปิดแถลงข่าว ตำรวจก็ขอหมายจับเอาตัวไปก่อน

มาตรฐานจริยธรรมของประยุทธ์อยู่ตรงไหน เมื่อเกิดข้อครหาอันอาจเป็นมลทินมัวหมองต่อรัฐบาล ทำไมไม่สั่งให้พ้นจากอำนาจหน้าที่ไปก่อน ประยุทธ์กลับไปย้อน “พิสูจน์ได้หรือยังว่าเขาทำผิด แล้วก็อวดตัวเองเป็นคนดี ไม่ปกป้องใคร ผิดว่าไปตามผิด

ไม่กี่วันก่อน ครม.มีมติเห็นชอบ ครูถูกกล่าวหาเรื่องชู้สาว ล่วงละเมิดทางเพศ ถ้ามีหลักฐานชั้นต้นเพียงพอ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ย้อนถามประยุทธ์หน่อยไหม “พิสูจน์ได้หรือยังว่าเขาทำผิด”

มันคือมาตรการทางวินัย เพราะการสอบสวนต้องใช้เวลาผู้บังคับบัญชาต้องให้พ้นจากอำนาจหน้าที่ที่อาจเกิดความเสียหาย เช่นเดียวกับสารวัตรไซเบอร์ โดนข้อหาอุ้มรีด ก็ให้ออกจากราชการไว้ก่อน

แต่ผู้บังคับบัญชาอย่างประยุทธ์ไม่รับผิดชอบการกระทำของลูกน้องของคนที่ตนแต่งตั้ง มีข้อครหามีมลทินก็โยนเป็นเรื่องของกฎหมาย ถ้าไม่โดนศาลตัดสินจำคุก ก็อยู่กับประยุทธ์ตลอดไป พอโดนศาลพิพากษาอย่างปารีณา กลับคุยได้ว่ารัฐบาลไม่เลือกปฏิบัติ

ใครผิดว่าตามกฎหมาย แล้วจำได้ไหม เสกสกลไม่ไปศาลจนคดีหมดอายุความ ลอยนวลทั้งที่มีหมายจับ ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ถูกตัดสินจำคุกก็ยังโผล่มาโหวตในสภา

ประยุทธ์ไม่รู้จักความรับผิดชอบทางจริยธรรม ธรรมนัสโดนสื่อออสเตรเลียแฉว่าติดคุกเพราะ “แป้ง” แทนที่จะปลดเพราะทำให้ครม.มัวหมอง เสียภาพลักษณ์ประเทศ กลับมาปลดเพราะแค้น รวบรวม ส.ส.จะโค่นตัวเอง กาหัวจองล้าง ไม่มีทางได้กลับมาเป็นรัฐมนตรี

ว่าที่จริง บทบาทของเสกสกลก็น่าสนใจไม่เบา สื่อหลายสำนักวิเคราะห์ว่าการปราบลอตเตอรี่แพง เป็นอาวุธทางการเมือง กระทบชิ่งฝ่ายแค้นในรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้าน

ยิ่งกว่านั้น เสกสกลยังเป็นตัวตั้งตัวดี ไปทำพรรครวมไทย สร้างชาติรองรับประยุทธ์ โดยมีกระแสข่าวว่า พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่เพิ่งลาออกจากพลังประชารัฐจะไปเป็นแกนนำ

มองภาพกว้างๆ แล้วน่าสนใจมาก เสกสกลจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง “เสกประยุทธ์” กลับมาอีกครั้ง โดยคงจะสามัคคีอดีตหมู่บ้านเสื้อแดง “กตัญญูทักษิณ” กับอดีต กปปส.บางส่วนและข้าราชการเกษียณ

หันไปดูอีกที ใครบ้างยืนเคียงข้างประยุทธ์สุดจิตสุดใจอยู่ตอนนี้ เสกสกล ธนกร รัฐมนตรี พปชร.บางคน แต่คนที่เป็น ส.ส. มีกลุ่มก้อนของตัวเอง ถึงเวลาเลือกตั้งไปทางไหนก็ได้ ไม่เหมือนเสกสกล ธนกร ที่ตอนนี้เป็น “สายตรง”

เปรียบเทียบแล้วน่าขัน 8 ปีประยุทธ์ ใช้ใครมาบ้าง หม่อมอุ๋ย ไม่กี่วันก่อนเพิ่งวิจารณ์นโยบายการคลังว่า เหมือนไม่มีนโยบายมีแต่ใช้เงินไปเรื่อยๆ สมหมาย ภาษี ก็ถูกธนกรด่า อคติ สักแต่วิจารณ์ มีผลงานอะไร สมคิด อุตตม สนธิรัตน์ หลังเลียแผลเพราะถูกเขี่ยออกมา ก็ตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ฯลฯ พวกนี้อยู่กับประยุทธ์ไม่ได้ทั้งนั้น ไม่เก่งอย่างเสกสกล ธนกร

8 ปีตั้งแต่รัฐประหาร ที่ปลุกสังคมเกลียดนักการเมืองเลว ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ถึงวันนี้เป็นไงบ้าง รอบข้างประยุทธ์มีแต่นักการเมืองในแบบที่เคยประณาม ต่างคนต่างทำ หาประโยชน์หาเสียงสร้างภาพ กระทั่งทะเลาะกันกลางวง

ความสำเร็จของประยุทธ์คือ ทำให้เห็นว่าการเมืองวนกลับไปที่เก่า หรือยิ่งแย่ลง แต่คราวนี้มาอยู่รอบตัวประยุทธ์ แล้วพวกที่เชียร์ประยุทธ์ก็อ้างว่า มีแต่ประยุทธ์เท่านั้นที่จะคุมนักการเมืองรอบตัวได้ ไม่เชื่อเรื่องปลาในข้องเดียวกัน

8 ปีระบอบประยุทธ์ทำให้ทุกอย่างเสื่อมหมด ความเชื่อถือศรัทธาต่ออำนาจต่างๆ ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม เหมือนทุกอย่างไม่มีความหวัง ไม่สามารถเปลี่ยนได้ อยู่กันไปวันๆ

ประยุทธ์ขี่อยู่บนสถานการณ์ “ต้มกบ” โดยไม่มีความรับผิดชอบ มีแต่แอบอ้างผลงาน เช่นคุยว่า 8 ปีสั่ง สปสช. 50 เรื่อง จนพัฒนาถึงวันนี้บัตรทองรักษาที่ไหนก็ได้ โถ คงคิดว่าคนไทยความจำสั้น ใครวะ บ่นตลอดว่าบัตรทองสิ้นเปลืองเป็นภาระ โรงพยาบาลเจ๊ง แต่ล้ม 30 บาทไม่สำเร็จ ชิงเป็นผลงานเสียเลย

คุยโม้ไปเรื่อย ปี 2570 ประเทศไทยจะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งที่ถ้าอ้างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (ซึ่งไม่มีใครเชื่อ) ก็วางเป้าไว้ปี 2579 โน้น วันดีคืนดีก็ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนรักสามัคคี ทั้งที่ตัวเองเป็นประเด็นสร้างความแตกแยก ฯลฯ

ประยุทธ์อยู่ได้อย่างนี้เพราะทำให้คนกลัวความเปลี่ยนแปลง แม้แต่คนที่ไม่เชียร์ประยุทธ์ แต่ถ้าไม่เชื่อมั่นประชาธิปไตยก็กลัวความไม่แน่นอนของอนาคต ในโลกปัจจุบันที่ผันผวนกลัวเปลี่ยนแล้ววุ่นวาย หรือกลัวเปลี่ยนแล้วรั้งไม่อยู่ อยู่อย่างนี้กันไปก่อน ฯลฯ

คนศรีลังกาก็น่าจะคิดอย่างนี้มาก่อนเหมือนกัน จนกระทั่งน้ำในหม้อมันเดือดไม่รู้ตัว

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ khaosod.co.th/politics/news_6989928