Skip to main content
sharethis

สภาทนายความ จ.ชลบุรี พา 13 วัยรุ่นกลุ่มคนรักลุงตู่ เข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างบันดาลโทสะจึงดักทุบคาร์ม็อบแรงงานชลบุรี หลังเห็นป้ายข้อความที่เเขวนไว้ข้างรถยนต์ ทนายฯ ยันไม่ได้วางเเผนล่วงหน้ามาก่อน

15 ก.ย.2565 ความคืบหน้ากรณีกลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก ถูกบุกก่อกวน ทำร้าย ทุบตีรถยนต์โดยกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย ขณะจัดกิจกรรมกิจกรรม "คาร์ม็อบไล่ประยุทธ์ 8 ปีแล้วนะไอสัส" ที่เคลื่อนขบวนมายังบริเวณถนนเขาสามมุข-อ่างศิลา จ.ชลบุรี เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ฉบับคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สุขาติ ชมกลิ่น เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา จนมีรถยนต์เสียหายและผู้บาดเจ็บ 2 ราย นั้น

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านามา ผู้ก่อเหตุ เข้าประสานเพื่อขอมอบตัวไปยัง สภาทนายความจังหวัดชลบุรี และเดินทางมาที่ สภ.เเสนสุข เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ชยางกูร ธรรภรณ์ อายุ 66 ปี ผู้รับว่าจ้างให้ขับรถเครื่องเสียงแก่กลุ่มพัฒนาแรงงานสัมพันธ์ตะวันออก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายจากการทำลายทรัพย์สินและข่มขู่ของกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งวันเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย วันนี้ได้เดินทางมาเพื่อถอนคดีความ อีกทั้งยังได้กล่าวกับทางสื่อว่า ตนได้รับคำขอโทษแล้ว ไม่ติดใจเอาความ อยากให้โอกาสคนไทยด้วยกัน

ด้าน พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผู้กำกับ สภ.แสนสุข สรุปเหตุการณ์ว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มคนรักลุงตู่" เกิดบันดาลโทสะจากการเห็นป้ายข้อความที่เเขวนไว้ข้างรถยนต์ในขบวนคาร์ม็อบว่า "ควยประยุทธ์" โดยได้เก็บอาวุธเช่น ไม้หน้าสาม ก้อนหิน จากข้างทางเพื่อมาทุบทำลายรถ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามผู้กำกับ สภ.แสนสุขต่อว่า เนื่องจากไลฟ์สดเหตุการณ์ในวันนั้น กลุ่มคนร้ายยังได้ใช้อาวุธ เช่น ไม้กอล์ฟ ไม้เบสบอล เข้าทุบตีรถ พฤติการณ์แบบนี้ถือเป็นการวางแผนเตรียมอุปกรณ์ไว้แล้วเพื่อมาก่อเหตุหรือไม่นั้น ผู้กำกับ สภ.แสนสุข กล่าวว่า ไม่ทราบที่มาของอาวุธดังกล่าว ตามสำนวนคดีแล้วระบุว่า เก็บอาวุธมาจากข้างทาง เป็นเหตุบันดาลโทสะ ซึ่งจะเป็นอำนาจของศาลต่อไปในการพิจารณาคดี ทั้งนี้หลังจากการสืบสวนเสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปในชั้นศาลเป็นลำดับถัดไป

ผู้สื่อข่าว Dot easterners ได้ทำการสัมภาษณ์ทนายของผู้ก่อเหตุ หลังจากการสอบสวนเสร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยสรุปได้ว่า กลุ่มวัยรุ่นได้ติดต่อเพื่อเข้ามอบตัว และขอความช่วยเหลือเพื่อจัดหาทนายความ ที่สภาทนายความจังหวัดชลบุรี ทั้งนี้มีผู้มามอบตัวจำนวน 13 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเเจ้งข้อกล่าวหา ว่าเป็นการร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ เเละมีเรื่องของ พ.ร.บ.จราจร ไม่สวมหมวกกันน็อค ปิดบังเเผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งข้อหา พ.ร.บ.จราจรสามารถลงโทษปรับได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวไปส่งฟ้องต่อศาล เเละทนายความยืนยันว่า กลุ่มวัยรุ่นไม่ได้วางเเผนล่วงหน้ามาก่อน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net