ธนาธร โพสต์กรณีเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส.บางนาฯ ก้าวไกล เลือกตั้งหน้า ยันไม่มีส่วนร่วมกระบวนการคัดเลือก ส.ส. แจงเคยคุยกับ ‘สมเกียรติ’ หลายคราหลังอนาคตใหม่ยุบ เจ้าตัวลังเลในการย้ายไป ‘ก้าวไกล’ และพูดเหยียดหยามน้ำใจแกนนำอนาคตใหม่ ด้านสมเกียรติ แจงไม่เคยพูดลักษณะดังกล่าว   

21 ก.ย. 2565 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กวานนี้ (20 ก.ย.) ชี้แจงกรณีสืบเนื่องจากพรรคก้าวไกล ส่งปิยรัฐ จงเทพ อดีตแกนนำมวลชนอาสา หรือ Wevo เป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตบางนา-พระโขนง แทนการส่ง สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.บางนาฯ คนปัจจุบัน จากพรรคเดียวกัน

ธนาธร ระบุว่า เบื้องต้น เขายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกระบวนการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล แต่ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เขาเคยพูดคุยกับสมเกียรติ ส.ส.บางนา-พระโขนง พรรคก้าวไกล ในหลายโอกาส หลายวาระ

ในสมัยพรรคอนาคตใหม่ยังไม่ถูกยุบ ผมพยายามสนับสนุนการทำงานของสมเกียรติเสมอ แต่เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ส.ส.ที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ได้แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเต็มใจย้ายไปพรรคก้าวไกล เพื่อสานต่ออุดมการณ์อนาคตใหม่ โดยไม่มีการเรียกร้องใดๆ เหลือเพียง ส.ส.ไม่กี่คนที่ยังลังเล ไม่ตัดสินใจ หนึ่งในนั้นคือสมเกียรติ ถนอมสินธุ์

ธนาธร ระบุต่อว่า ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค และคนบางนา จึงได้รับอาสาไปสอบถามสมเกียรติ ว่าจะเดินทางไปต่อกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ มีการพูดคุยกันหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับคำตอบจากสมเกียรติ มิหนำซ้ำ สมเกียรติยังกล่าวเหยียดหยามน้ำใจของอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ และตั้งแง่กับการทำงานต่อไปกับพรรคก้าวไกล

หลังจากนั้น เขาจึงไม่ได้ติดต่อกับสมเกียรติอีก และได้ทราบจากรายงานของสื่อมวลชนว่า สมเกียรติอาจจะย้ายไปร่วมกับพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาล แต่ผมไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และสุดท้าย สมเกียรติก็ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคก้าวไกล ซึ่งจะเป็นเพราะเหตุผลอะไรนั้น ไม่อาจทราบได้

ธนาธร เชื่อว่า กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล พยายามตัดสินใจอย่างรอบคอบและระมัดระวังที่สุดในการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ทุกคน เพื่อให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าจะได้ผู้แทนราษฎรที่ไม่ทรยศต่อความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ผ่านการเลือกตั้ง

'ธนาธร' มองก้าวไกล ส่ง 'ปิยรัฐ' รอบคอบแล้ว-ที่เหลือคือต้องพิสูจน์ตัวเอง

สำหรับ ปิยรัฐ จงเทพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บางนา คนใหม่ของพรรคก้าวไกล คนส่วนใหญ่คงคุ้นเคยแต่กับบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคุณโตโต้ แต่อันที่จริงแล้ว ปิยรัฐเคยทำงานกับพรรคอนาคตใหม่มาตั้งแต่ต้น และได้อาสากลับบ้านไปลงสมัครรับเลือกตั้งที่กาฬสินธุ์ให้เมื่อปี 2562 ส่วนในพื้นที่บางนา-พระโขนงนั้น ปิยรัฐเคยทำงานอยู่ที่การไฟฟ้านครหลวง และเคยเปิดร้านวัสดุฮาร์ดแวร์ที่บางนา จึงได้คลุกคลีกับประชาชนในย่านบางนาเป็นเวลาหลายปี  

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ปิยรัฐคงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ให้ชาวบางนา-พระโขนง เห็นว่าเขาสามารถเป็นผู้แทนราษฎรที่รับใช้ประชาชนได้ดีไม่แพ้ผู้แทนฯ พรรคก้าวไกลคนไหน ทั้งในด้านอุดมการณ์ทางการเมือง และการทำงานพื้นที่เข้าถึงประชาชน เพราะสิ่งที่จะตัดสินให้เขาได้เป็นผู้แทนราษฎรจริงๆ คือ เสียงของประชาชน

'สมเกียรติ' ตอบไม่เคยพูดเหยียดหยามน้ำใจ

วันเดียวกัน สมเกียรติ โพสต์ชี้แจงกรณีที่ธนาธร กล่าวถึงว่า ธนาธร โทรมาสอบถามในช่วงตอนพรรคอนาคตใหม่ จะถูกยุบหรือถูกยุบแล้ว (จำไม่ได้ ไม่แน่ใจแต่อยู่ในช่วงนั้น) เพียง 1 ครั้ง ว่าจะไปต่อกับพรรคไหม 

โดยสมเกียรติ ตอบกลับว่า เขาขอดูก่อนว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ในพรรคใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาควรรู้ถึงอนาคตของตัวเอง และความเป็นไปของพรรคใหม่ที่จะไปอยู่ต่อด้วย

ส่วนที่ธนาธร ระบุว่า มีการพูดคุยกันหลายครั้ง ขอชี้แจงว่าในช่วงนั้น เขาและธนาธรพูดคุยกันแค่ครั้งเดียวครั้งนั้นเท่านั้น และหลังจากนั้นเขาก็เข้าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล พร้อมกับเพื่อนๆ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 

จากกรณีที่ธนาธร กล่าวว่า สมเกียรติกล่าวเหยียดหยามน้ำใจแกนนำพรรคอนาคตใหม่นั้น สมเกียรติระบุว่า เขาไม่เคยพูดทำนองนั้น 

สุดท้ายการที่เขาไปต่อกับพรรคก้าวไกล และทำงานโดยให้ความร่วมมือกับพรรคมาตลอด งานในสภาก็ไม่เคยโหวตสวนมติพรรคเลย งานพื้นที่ก็ทำงานแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนได้สำเร็จหลายๆ เรื่อง ลงพื้นที่บรรเทาความเดือดร้อนในเขตบางนา-พระโขนง สม่ำเสมอ 

สมเกียรติ ทิ้งท้ายว่า สิ่งที่เขาทำ เขาเชื่อว่าเขาเป็นผู้แทนราษฏร ที่ไม่ได้ทรยศต่อความไว้วางใจที่ประชาชนเขตบางนา-พระโขนงมอบให้