Skip to main content
sharethis

สำนักข่าวปฎิรูปที่ดินภาคอีสานเผยหลังชาวบ้านปักหลักชุมนุมหน้าอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ป่าไม้รุกเจรจาถอนหมุดออกจากพื้นที่ชุมชนและที่ทำกินของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ลงมาเจรจากับชาวบ้าน มีมติถอดหลักหมุดออกจากพื้นที่ชุมชนและที่ดินทำกินของชาวบ้านพร้อมทำข้อตกลง (MOU) ร่วมกัน

สำนักข่าวปฎิรูปที่ดินภาคอีสานแจ้งข่าวเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2566 ว่าจากกรณีเจ้าหน้าที่เข้ามาปักหมุดเวนคืนพื้นที่อุทยานฯ เป็นเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์ทับบนพื้นที่ดินทำกินของคนในชุมชน ส่งผลให้ชาวบ้านไม่สามารถเข้าทำประโยชน์เพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติสุข อีกทั้งในการประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ( อช.ภูผาม่าน) ไม่ปฎิบัติตามข้อตกลง ในการถอนหลักหมุดที่รุกล้ำออกไป และทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) อ้างเหตุผลว่าไม่มีอำนาจสั่งการ ทำให้ชาวบ้านลุกเดินออกจากห้องประชุมและตัดสินใจปักหลักชุมนุมหน้าบริเวณที่ทำการ อช.ภูผาม่าน ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

วันที่ 20 เม.ย. 2566 ชาวบ้านผู้เดือดร้อนยุติการชุมนุมที่ปักหลักมา 3 วัน หลังจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดขอนแก่น,อำเภอชุมแพ,อช.ภูผาม่าน,อบต.นาหนองทุ่ม,กำนันตำบลนาหนองทุ่มและผู้ใหญ่บ้านซำผักหนาม พร้อมด้วบผู้แทนชาวบ้านบ้านซำผักหนาม,ผู้แทนชาวบ้านชุมชนหนองจาน ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และตัวแทนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ อช.ภูผาม่าน ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ในการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของชาวบ้าน โดยให้ทำการแก้ไขปรับปรุงแนวเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ตามแนวเขตผ่อนปรน แนวเขตจอมป่า เเป็นเกณฑ์ในการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของผู้เดือดร้อนในเขต อช.ภูผาม่าน ทั้งหมด

ข้อตกลง ระบุด้วยว่า ผู้อยู่อาศัยและทำกินรอบเขต อช.ภูผาม่าน ต้องมีส่วนร่วมในการดูแล และจัดการทรัพยากรฯ ร่วมกับทางอุทยานฯ เพื่อให้เกิดความมั่นคงของชาวบ้านและชุมชนให้สามารถอยู่ร่วมกันในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างยั่งยืน และร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในทุกด้าน ต้องไม่มีเรื่องที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง และปัญหาที่ยังมีความเห็นต่าง

สำหรับพื้นที่ที่ทาง อช.ภูผาม่าน ปักหลักหมุดรุกล้ำขอบเขตรวมทั้งหมด 21 แปลง จำนวน 599 ไร่ โดยเป็นพื้นที่วัด,โรงเรียน,แปลงสาธิต,ป่าชุมชน และพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน ซึ่งเมื่อวันที่ 20 เม.ย. เจ้าหน้าที่ป่าไม้พร้อมด้วยชาวบ้านร่วมกันถอนหมุดได้จำนวน 11 แปลง รวมประะมาณ 200 ไร่ ส่วนที่เหลือ ทางหัวหน้าอุทยานฯ แจ้งว่าในวันที่ 21 เม.ย. จะเร่งดำเนินการถอนให้เสร็จสิ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net