Skip to main content
sharethis

แรงงานผู้ประกันตน ยื่นฟ้อง รมว.กระทรวงแรงงาน กระทรวงแรงงาน และปลัดกระทรวงแรงงาน กรณีไม่เร่งดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม เพิกถอนกฎระเบียบเลือกปฏิบัติแรงงานข้ามชาติ ให้แรงงานข้ามชาติมีสิทธิเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม

 

2 พ.ค. 2566 ทีมสื่อมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) รายงานวันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ธนพร วิจันทร์ พร้อมผู้แทนผู้ประกันตน ทั้งแรงงานสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น จำนวน 6 คน ได้ยื่นฟ้องกระทรวงแรงงาน เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และ บุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 เพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 คน ดำเนินการจัดการเลือกตั้งเพื่อให้มีผู้แทนฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตน (ลูกจ้าง) เป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม ขอให้มีการเพิกถอนระเบียบกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตนเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม พ.ศ. 2564 ที่กำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องมีสัญชาติไทย และผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคมต้องมีสัญชาติไทย

(ที่มา: เฟซบุ๊ก Nongmai Vijan)

ที่มาของคดีนี้ สืบเนื่องจาก 

1. ราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ลงประกาศ พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 มาตรา 8 กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการประกันสังคม" ประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐ กับตัวแทนฝ่ายนายจ้างและตัวแทนฝ่ายผู้ประกันตนฝ่ายละ 7 คน โดยให้ผู้แทนของฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตน ต้องมาจากการเลือกตั้ง โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงของฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้กันตน สัดส่วนระหว่างหญิงและชาย รวมทั้งการมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิผลของคนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด 

2. ต่อมาได้มีราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ประกาศ ระเบียบกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตนเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม พ.ศ.2564 ซึ่งบทบัญญัติของระเบียบฯ ส่วนหนึ่งได้ 

กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ปัจจุบัน เป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีแล้วนับแต่มีการประกาศบังคับใช้ระเบียบฯ ที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามมิได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้ประกันตนเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม ย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามจงใจปล่อยปละละเลย หรืองดเว้นกระทำการตามหน้าที่ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งหกได้รับความเสียหาย และยังขัดต่อหลักการขององค์การระหว่างประเทศ (ILO) ที่กำหนดหลักการในการส่งเสริมแรงงานให้มีระบบไตรภาคี โดยจุดมุ่งหมายให้ตัวแทนฝ่ายนายจ้าง ตัวแทนฝ่ายลูกจ้าง และรัฐบาล เข้ามีส่วนร่วมในการเจรจาทางสังคม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย อันจะทำให้การบริหารแรงงานมีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองสภาพเศรษฐกิจและสังคมเพื่อความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ

กำหนดคุณสมบัติมีสิทธิเลือกตั้ง และผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม ต้องมีสัญชาติไทยนั้น ย่อมไม่สอดคล้องกับคำนิยามคำว่า "ผู้ประกันตน" ที่หมายความว่า ผู้ซึ่งจ่ายเงินสมทบอันก่อให้เกิดสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานประกันสังคมมีลูกจ้างที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมกัน จำนวน 24,386,011 คน ดังนั้น การกำหนดคุณสมบัติของผู้ประกันตนดังกล่าว ย่อมเป็นการกีดกันและเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกันตนที่ลูกจ้างต่างชาติและเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 27 และหลักกติการะหว่างประเทศ อาทิ อนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม หรือ International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights (CESCR) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือ International Covenant on Civil and Political Rights (ICCPR)  

จิรารัตน์ มูลศิริ ทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา เห็นว่า การมายื่นฟ้องต่อศาลปกครองในครั้งนี้ นับเป็นการใช้สิทธิการเข้าถึงกลไกของฝ่ายตุลาการเป็นหน่วยงานสุดท้าย จึงขอเรียกร้องให้ ศาลปกครอง ที่มีอำนาจอิสระ ตามแบบแม่บทประชาธิปไตย ในการพิจารณาและมีคำพิพากษาออกคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามเร่งดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้ง พร้อมทั้งให้มีการเพิกถอนกฎและระเบียบที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกันตนและชัดต่อหลักกการของรัฐธรรมนูญ 2560 กฎหมายปกครอง และกฎหมายสิทธิมนุษยชนมนุษยชนระหว่างประเทศ เพื่อให้สร้างบรรทัดฐานทางสังคม (Social Norms) ที่ให้มีการเคารพหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชนโดยไม่เลือกปฏิบัติ 

เอกสารยื่นฟ้องร้องกระทรวงแรงงานที่ศาลปกครอง (ที่มา: Nongmai Vijan)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net