Skip to main content
sharethis

หลัง 'พิธา' ถูกร้องถือหุ้นสื่อ รอง ผอ.ไทยพีบีเอส สรุป 7 ประเด็น 'ไอทีวี' ชี้รักษาสถานะเพื่อฟ้องร้องกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แม้หยุดประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ตั้งแต่ มี.ค.50 พร้อม ย้อนดู คดีไม่กี่วันก่อนศาลฎีกาเพิ่งคืนสิทธิ ผู้สมัครพรรค ปชป. หลังโดน กกต.ตัดสิทธิขาดคุณสมบัติปมถือหุ้น AIS

10 พ.ค.2566 จากกรณีวานนี้ (10 พ.ค.) เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า พบพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกฯของพรรค ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งสถานะนิติบุคคลยังดำเนินกิจการอยู่ มีรายได้ปี 2565 รวม 21 ล้านบาท และมีรายได้ปี 2564 รวม 24 ล้านบาท จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต.ตรวจสอบว่า เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่ ขณะที่ พิธา ยืนยันประเด็นดังกล่าวไม่มีความกังวล เพราะไม่ใช่หุ้นของตน เป็นของกองมรดก ตนเป็นเพียงผู้จัดการมรดกและได้แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไปนานแล้ว นั้น

ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ด้านปฏิบัติการและเทคโนโลยี โพสต์สรุปสาระสำคัญของบริษัทไอทีวี จากรายงานประจำปี 2565 จำนวน 7 ประเด็น ว่า

1. หยุดประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไอทีวีตั้งแต่ 24.00 น.วันที่ 7 มีนาคม 2550 สืบเนื่องจากการบอกเลิกสัญญาร่วมงานของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)

2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย delist ถอดหุ้นไอทีวีจากการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 24 กค.2557

3. ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการฟ้องร้องพิพาททางกฏหมายกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีที่อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดว่า การบอกเลิกสัญญาของ สปน. ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ให้ สปน.ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,890 ล้านบาท

3.1 ต่อมา สปน.ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของอาุญาโตตุลาการ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ สปน.

3.2 มกราคม 2564 สปน.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา

4. ปีบัญชี 2565 ไอทีวี มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ 20.5 ล้านบาท (ผลตอบแทนจากตราสารหนี้และตราสารทุน) กำไรสุทธิ 8.5 ล้านบาท

5. ไอทีวี มีบริษัทย่อย 1 บริษัท คือบ.อาร์ตแวร์มีเดีย ให้เช่าอุปกรณืผลืตรายการวิทยุโทรทัศน์ ผลิตรายการโทรทัศน์ ซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ และกิจกรรมการตลาดอื่นๆ สถานะปัจจุบันของบริษัท คือ หยุดประกอบกิจการ

6. กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่โดยพฤติการณ์มีอิทธิพบต่อการกำหนดนโยบายและการดำเนนิงานบ.ไอทีวีในปัจจุบัน คือบ.อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

7. การรักษาสถานะความเป็นนิติบุคคลของบ.ไอทีวี เพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับสปน. (ความเห็นผู้เขียน)

 

บางส่วนของไทม์ไลน์สถานะของบริษัทในรายงานประจำปี 2565 อ่านทั้งหมดได้ที่นี่

ย้อนดู คดีไม่กี่วันก่อนศาลฎีกาเพิ่งคืนสิทธิ ผู้สมัครพรรค ปชป. หลังโดน กกต.ตัดสิทธิขาดคุณสมบัติปมถือหุ้น AIS

อีกทั้งประเด็นถือหุ้นสื่อเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาเพิ่งมีคำพิพากษาให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.นครนายกคืนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ให้กับ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ จากที่ก่อนหน้านั้นถูกตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของตน โดยอ้างเหตุว่า ขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ัง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 42(3) และรัฐธรรมนูญปี 2560 เพราะเข้าข่ายมีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมาย 2 ฉบับ เนื่องจากถือหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ AIS โดยบริษัทดังกล่าวไปร่วมลงทุนกับ 2 บริษัท คือบริษัท เทเลอินโฟ มีเดีย จํากัด (มหาชน) และ บริษัท เยลโล่ เพจเจส คอมเมอรส์ จํากัด 

โดยศาลระบุว่า การที่ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท AIS จำนวนดังกล่าว ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ย่อมไม่มีอำนาจสั่งการให้บริษัท AIS ดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ร้องและพรรคการเมืองของผู้ร้องหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองอื่น เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของผู้ร้องหรือพรรคการเมืองของผู้ร้องได้ การตีความบทบัญญัติของกฎหมายตามลายลักษณ์อักษรให้ผู้ร้องมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพราะเหตุเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทแอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เพียง 200 หุ้น ย่อมไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดนครนายก จึงเป็นการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) จึงมีคำสั่งให้เพิ่มชื่อ ชาญชัย ผู้ร้อง และประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดนครนายก ของพรรคประชาธิปัตย์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net