Skip to main content
sharethis

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการปิดประตูไม่ให้ 'หยก' เข้าเรียน พร้อมออกแถลงการณ์ ระบุ หยกไม่มีผู้ปกครอง (มารดา) ที่แท้จริงมามอบตัวตามประกาศการรับนักเรียน ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2566 จึงไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนในปีการศึกษา 2566 'บุ้ง' ระบุ ทางโรงเรียนเองก็ไปตามหาตัวแม่หยกถึงบ้าน แต่ไม่พบเหมือนกัน

 

15 มิ.ย. 2566 เวลาประมาณ 08.40 น. ธนลภย์ ผลัญชัย หรือ หยก เยาวชนวัย 15 ปี ผู้ถูกดำเนินคดี 112 Live สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระหว่างมารอเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการในชุดไปรเวท แต่ไม่สามารถเข้าโรงเรียนได้ เนื่องจากมีการปิดประตูรั้วโรงเรียนและทางโรงเรียนไม่เปิดประตูให้หยกเข้าไป ขณะที่ระหว่างการ Live สดมีการเปิดประตูให้นักเรียนคนอื่นเข้าเรียน

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2566 ทางโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการได้ออก "แถลงการณ์ กรณี นางสาวธนลภย์ ผลัญชัย" ระบุ หยกไม่มีผู้ปกครอง (มารดา) มามอบตัวตามประกาศการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่โรงเรียนจะต้องยืนยันข้อมูลจำนวนนักเรียนในระบบ DMC ของกระทรวงศึกษาธิการ "แต่นักเรียนไม่ได้คำเนินการดังกล่าว
ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบ จึงไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในปีการศึกษา 2566" 

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของทางโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการได้ระบุว่า หยกไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบแนวปฏิบัติตามคู่มือนักเรียนของทางโรงเรียน เช่น ไม่แต่งกายชุตนักเรียน การทำสีผม การมาเรียนตามเวลา/รายวิชาตามความพอใจของนักเรียน รวมทั้งขอไม่เข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมหน้าเสาธง และกิจกรรมอื่นๆ พฤติกรรมตังกล่าวถือเป็นการไม่ยอมรับกฎระเบียบและไม่เข้าสู่กระบวนการของโรงเรียน

สุดท้ายโรงเรียนขอเน้นย้ำว่า "ไม่เคยปฏิเสธการรับนักเรียนเข้าเรียนและได้ให้การดูแลตามระบบ
ดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ถึงแม้นักเรียนไม่ได้ให้ความร่วมมือในการปรับปรุงพฤติกรรมตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น"

แถลงการณ์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

เนติพร หรือ บุ้ง ผู้ที่เซ็นชื่อในเอกสารมอบตัวในฐานะผู้ปกครองของธนลภย์เมื่อ 19 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ก็ได้ชี้แจงกับทางโรงเรียนแล้วว่าเธอยินดีจะดูแลจ่ายค่าเทอมและให้ที่พักแก่ธนลภย์จนกว่าจะเรียนจบ

เนติพรบอกว่าในวันมอบตัว เธอได้แจ้งกับครูที่โรงเรียนไปแล้วว่าพวกเธอติดต่อกับพ่อและแม่ของธนลภย์ไม่ได้ตั้งแต่ที่ธนลภย์ยังอยู่ในสถานพินิจแล้ว ทางโรงเรียนเลยให้เธอเป็นคนดำเนินการมอบตัวธนลภย์ไปก่อน ทางโรงเรียนก็แจ้งว่าการดำเนินการมอบตัวยังไม่เรียบร้อยและให้ตามหาตัวพ่อแม่ของธนลภย์มามอบตัวให้ได้

อย่างไรก็ตาม เนติพรก็รับว่าจะไปตามหาให้ แต่หลังจากนั้นสองสามวันก็ยังหาไม่ได้แม้จะไปตามหาถึงที่บ้านแล้ว และเธอเองก็ไม่ทราบว่ามีการย้ายที่อยู่หรือไม่ ส่วนทางโรงเรียนก็ยังติดตามเรื่องนี้กับทำเธอจนเป็นเรื่องที่ทำให้เธอร้อนใจปรึกษากับหลายคนจนมีประธาน กสม. เข้าไปคุยกับทางโรงเรียนให้และบอกกับทางโรงเรียนว่าสาระสำคัญของกฎหมายมันคือการที่ธนลภย์คือธนลภย์ได้เรียนหนังสือ ไม่ใช่ว่าใครเป็นคนพามามอบตัวแต่เป็นคนที่ธนลภย์ให้ความไว้วางใจ ซึ่งเธอเองก็ยินดีดูแลเรื่องค่าเทอมไปจนกว่าจะเรียนจบ ส่วนเรื่องหาพ่อแม่มามอบตัวเป็นเรื่องรองลงมาถ้าหาไม่เจอการมอบตัวก็เสร็จสิ้นไปแล้ว และทาง ผอ.ก็รับว่าเป็นไปตามนั้นก็ได้

เนติพรกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นมาทางโรงเรียนก็ไม่ได้ติดต่อเรื่องนี้อีก จนวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางโรงเรียนก็โทรศัพท์แจ้งกับธนลภย์ว่าให้พาพ่อแม่ของเธอมาดำเนินการมอบตัวให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 10 ทางโรงเรียนก็จะตัดสิทธิแต่ธนลภย์ก็แจ้งแล้วว่าตามหาตัวไม่ได้ ครูที่ติดต่อมาก็จะไปตามหาตัวให้ถึงบ้านเลยแต่ก็ไม่พบตัว

ทั้งนี้ที่ทางโรงเรียนบอกว่าไม่มีข้อมูลในฐานข้อมูล เนติพรเห็นว่าถ้าทางโรงเรียนไม่ได้มีข้อมูลแล้วธนลภย์จะมีเลขประจำตัวนักเรียนได้อย่างไร ซึ่งเธอคิดว่ามีความพยายามจะทำให้ธนลภย์ไม่ได้เรียนต่อที่นี่

ผู้ดูแลของธนลภย์บอกว่าวันนี้ธนลภย์ก็ต้องปีนเข้าโรงเรียนไปอีกทางนั้นก็พยายามดันออกมาแต่ก็ธนลภย์ก็ปีนเข้าไปได้สำเร็จ แต่ก็ติดที่วันนี้มีพิธีไหว้ครูอยู่ซึ่งทางโรงเรียนก็พยายามไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมและตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้เข้าเรียนหรือไม่

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net