เช้าวันนี้ (6 พ.ย.) ‘หยก’ ไปที่หน้า รร.เตรียมพัฒน์เพื่อทวงคำตอบปมถูกห้ามเข้าเรียน ครูให้รอเป็นชั่วโมงแต่ไม่มีคำตอบ เจ้าตัวจึงประกาศว่าจะไปยื่นจดหมายให้นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล

6 พ.ย. 2566 เวลา 9.31 น. หยก–ธนลภย์ ผลัญชัย เยาวชนนักกิจกรรมวัย 15 ปี และผู้ถูกกล่าวหาคดีมาตรา 112 โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันนี้ (6 พ.ย.) ตนได้เดินทางมาที่ รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เพื่อทวงคำตอบในประเด็นที่ทางโรงเรียนไม่ยอมให้เข้าเรียนและร่วมกิจกรรมต่างๆ ของทางโรงเรียน รวมถึงเอาตำรวจเข้ามาในโรงเรียนและการปล่อยให้ผู้ปกครองของเด็กคนอื่นเข้ามาถึงตนเองที่อยู่ในโรงเรียนได้ แต่ที่ผ่านมากลับไม่ได้รับหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร 

หยก ธนลภย์ โพสต์ระบุว่า

“เปิดเทอม 2 หนูยังคงไม่ได้เข้าไปเรียนเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เทอมแรกหนูก็เรียนไปแล้ว ทำไมเทอมสองถึงไม่ให้หนูเรียน จดหมายก็ยังคงไม่ได้รับคำตอบ วันนี้หนูจึงได้ไปทวงถามถึงจดหมายที่ได้เขียนสอบถาม คุณครูที่อยู่ข้างในรั้วจึงบอกให้รอหนูก็รอบ รอเป็นชั่วโมง ระหว่างรอหนูก็ได้ทวงถาม แต่คำตอบที่ได้คือ ให้รอ แล้วครูคนนั้นก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว อีกสักพัก หนูจะไปยื่นจดหมายให้นายกที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบและคืนความเป็นธรรม” 

ทั้งนี้ หยก ธนลภย์ ยื่นจดหมายดังกล่าวถึงผู้อำนวยการ รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เพื่อถามข้อสงสัยดังกล่าวตั้งแต่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ

ในหนังสือที่ธนลภย์ส่งถึงโรงเรียนมีคำถามที่ต้องการให้โรงเรียนตอบทั้งหมด 5 ข้อ ระบุว่า

1. ช่วงตลอดเทอมและภายหลังที่ข้าพเจ้า(ธนลภย์) ไปเรียนในโรงเรียน ใครเป็นผู้อนุญาตให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองร้อยควบคุมฝูงชนเข้ามาในโรเงรียนได้และอนุญาตให้เข้ามาด้วยเหตุใด
2. ใครเป็นผู้ตัดสินใจว่าการมอบตัวของข้าพเจ้าไม่สมบูรณ์และได้มีการจัดหาทางออกให้ข้าพเจ้าอย่างไร นอกเหนือจากบอกให้ข้าพเจ้านำคุณแม่มาเจอโรงเรียน
3. ใครเป็นผู้สั่งและตัดสินใจให้โอนเงินคืนข้าพเจ้า เมื่อวันใด และเหตุใดไม่แจ้งข้าพเจ้า
4. โรงเรียนมีแผนการจะมอบผลสอบให้ข้าพเจ้าหรือไม่ และใครเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับการไม่ให้ผลสอบข้าพเจ้า
5. ครูที่ยอมให้ผู้ปกครองเข้ามาพูดคุยกับข้าพเจ้าและวิ่งตามข้าพเจ้าในเวลาที่ข้าพเจ้าเข้ามาเรียนคือใครและใครเป็นผู้มีมติอนุญาตให้ผู้ปกครองหลายคนเข้ามาพูดคุย หรือไล่ข้าพเจ้าได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและถ้าหากได้คำตอบใดๆ แล้ว ขอให้แจ้งข้าพเจ้าโดยตรง โดยแจ้งมายังเบอร์หรือไลน์ติดต่อของข้าพเจ้าหรือเมื่อข้าพเจ้ามาติดต่อสอบถามได้ 

วอยซ์ออนไลน์รายงานว่า เวลา 10:00 น. ’หยก ธนลภย์‘ และ บุ้ง เนติพร เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลประตู 1 เพื่อเข้ายื่นหนังสือถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยต้องการให้ช่วยตรวจสอบ และคืนความเป็นธรรมกรณีที่ยังถูกโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ปฏิเสธไม่ให้สิทธิ์ในการเข้าเรียน

ทั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตู พร้อมกับชี้แจงขั้นตอนการยื่นเรื่องให้ทั้งคู่ทราบ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าการยื่นเรื่องร้องเรียนมายังสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นจะต้องยื่นเรื่องที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล จึงจะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องดำเนินการและสามารถเข้ามาติดตามความคืบหน้าได้ และเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมห้องไว้ให้แล้ว

อย่างไรก็ตามบุ้งแจ้งว่าตนได้เดินทางไปยังทำเนียบอีกฝั่งหนึ่งแล้วแต่เจ้าหน้าที่แนะนำให้มาที่ประตูนี้ แต่เห็นว่าคงไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่เรื่องยากถ้านายกรัฐมนตรีจะส่งรองนายกรัฐมนตรีมาเป็นผู้รับหนังสือพร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองเดินทางมาในวันนี้เป็นการมาดี

ระหว่างการพูดคุยเจรจาพบว่ามีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงในชุดลำลองมาประจำการอยู่ใกล้บริเวณประตู 1 ผมจึงสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่หญิงที่มานั้นมาเพื่ออะไรและขอให้ออกไปจากบริเวณนี้เพราะวันนี้ไม่ได้จะมาทำเพียงแค่ต้องการยื่นหนังสือเท่านั้นและขอให้เจ้าที่อย่ามาแตะต้องตัวของหยก ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินไปแจ้งกับกลุ่มเจ้าหน้าที่หญิงที่มาประจำการและขอให้กลับออกจากพื้นที่ไป

โดยระหว่างนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ หยกและบุ้ง ยังยืนยันที่จะยื่นหนังสือที่เดิม ส่วนทางเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันให้เดินทางไปยื่นตามขั้นตอนปกติ

“เราไม่แน่ใจว่าหากไปยื่นตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เรื่องจะคืบหน้าหรือไม่ เลยต้องการให้มีการประสานให้รองนายกฯ หรือผู้ที่มีอำนาจตัดสินจริงๆ ใจมารับเรื่องแทน และคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากหาจะมีการประสาน“ บุ้ง กล่าว

ต่อมาเวลา 11.45 น. ไม่มีความคืบหน้าว่ามีการประสานผู้มีอำนาจตัดสินใจมารับหนังสือ ทั้งคู่จึงเลือกที่จะไปยื่นเรื่องที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลแทน โดยมีเจ้าหน้าตำรวจพาทั้งซ้อนมอเตอร์ไซค์มาส่ง

เวลา 12.05 น. สมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เดินมามารับหนังสือ พร้อมแจ้งว่า ภายใน 7 วันจะดำเนินการเรื่องให้พร้อมจะทำหนังสือกลับไปแจ้งความคืบหน้า ทั้งนี้ บุ้งเปิดเผยด้วยว่า หากใน 7 วันยังไม่มีอะไรคืบหน้าก็จะเดินทางมาสอบถามอีกครั้ง