Skip to main content
sharethis

"มีเสา แต่ไร้สาย" ชาวชาติพันธุ์คนรุ่นใหม่แม่ฮ่องสอนจี้ถามนายอำเภอสบเมย-อบต. แม่สวด ถามความคืบหน้าพัฒนาระบบไฟฟ้า พร้อมติดตามเรื่องภายใน 15 วัน ด้านนายอำเภอ ไม่นิ่งนอนใจ รับดำเนินการแล้ว ย้ำปีนี้มีไฟฟ้าใช้ 

 

3 ส.ค. 2566 กลุ่มคนรุ่นใหม่ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ และปกาเกอะญอ ใน ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ในนามสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ - P-move) เคลื่อนไหวเรียกร้องการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ชุมชน โดยใช้โอกาสครบรอบ 13 ปี มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 ส.ค. 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ในการผลักดันข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อนายอำเภอสบเมย และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน 

บรรยากาศการชุมนุม ยื่นหนังสือ
 

เอกราช วิมานตระการ ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) จ.แม่ฮ่องสอน เล่าว่า แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากถึง 86 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ เพราะไม่ว่าจะทำโครงการอะไรหน่วยงานก็จะอ้างว่าติดเขตป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการขยายไฟฟ้าเข้าไปในชุมชนบ้านกองอูมและบ้านแม่คะ หมู่ที่ 3 และบ้านแม่หลุย หมู่ที่ 4 ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีความคืบหน้าครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2558 โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำเสาไฟฟ้าไปปักในชุมชนแล้ว แต่ผ่านมา 8 ปีไม่มีความคืบหน้า

"นี่คือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับชาวแม่ฮ่องสอนที่มีป่าถึง 86 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณภาพชีวิตของเราไม่ได้ดี จะพัฒนาอะไรก็ติดเขตป่า ถ้าใครอยากจะเห็นว่าว่าการที่มีเสาไฟตั้งหน้าบ้าน แต่ไม่มีสายไฟมันเป็นยังไง ให้มาดูที่นี่ แม่สวด สบเมย แม่ฮ่องสอน ถามผู้นำคนไหนไปก็บอกแต่ว่าไม่รู้ๆ" เอกราช กล่าว

เสียงคนรุ่นใหม่ ขีดเส้น 15 วัน ไม่คืบหน้าพร้อมเคลื่อนไหวติดตาม

มัลลิกา ศิริโสภาวัฒนา เยาวชนจากบ้านแม่คะ หมู่ที่ 3 ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาที่มีเสาไฟฟ้าตั้งอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ เป็น 8 ปีที่ชาวบ้านรอคอยอย่างมีความหวัง ในขณะที่ระหว่างการรอคอยนั้นมีชาวบ้านต้องสูญเสียโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่มีผู้นำทางการคนไหนสามารถชี้แจงได้ว่าความคืบหน้าไปถึงไหน ติดปัญหาอุปสรรคอะไรจึงไม่ดำเนินการต่อ ต่อไปนี้คนในพื้นที่จะไม่ทนรออีกแล้ว ให้เวลาหน่วยงานชี้แจงภายใน 15 วันเท่านั้น

"เราได้สอบถามไปยังผู้นำ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะมา แต่นี่กี่ปีแล้วที่เรารอคอย คนรุ่นใหม่จะลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิความเป็นมนุษย์ที่ไม่ต่างจากคนในเมือง เราให้เวลาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง15 วัน หลังจากนี้ ถ้ายังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เราจะออกมาเยอะกว่านี้" มัลลิกา กล่าว

นอกจากนั้น เยาวชนบ้านแม่คะยัง ย้ำว่า อบต. แม่สวด เป็นองค์กรที่อยู่ใกล้กับชาวบ้าน การเข้าไม่ถึงโครงสร้างพื้นฐานเป็นความอยุติธรรมรูปแบบหนึ่ง 

"ถ้าแก้ไขปัญหาได้ คุณภาพชีวิตของพี่น้องจะดีขึ้นแน่นอน ทุกวันนี้มีบางบ้านที่พี่น้องซื้อตู้เย็นไปแล้ว แต่ไม่สามารถใช้ได้ หลายครั้งได้ประสานงานไปถามความคืบหน้า แต่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ ซึ่งเป็นผลกระทบที่พวกเราคนในชุมชนต้องเจอ" เยาวชนบ้านแม่คะ ย้ำ

ยื่น 2 ข้อเรียกร้องพัฒนาคุณภาพชีวิตชาติพันธุ์ ต.แม่สวด

หลังจากนั้น ชาวบ้าน ต.แม่สวด ได้ยื่นหนังสือถึงนายก อบต.แม่สวด และนายอำเภอสบเมย ระบุว่า เนื่องในวันครบรอบ 13 ปี มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 ส.ค. 2553 จึงมีข้อเรียกร้องมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านทางนายอำเภอสบเมย และ นายก อบต. แม่สวด ดังนี้

1. ให้นายอำเภอสบเมย และ นายก อบต. แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประสานไปยังหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการขยายระบบไฟฟ้าเข้าไปในพื้นที่บ้านกองอูม และบ้านแม่คะ หมู่ 3 และบ้านแม่หลุย หมู่ 4 ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามความคืบหน้า หรืออุปสรรคในการดำเนินโครงการดังกล่าว แล้วรายงานให้ชุมชนทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 15 วันนับจากวันยื่นหนังสือ

2. ให้เร่งรัดดำเนินการประสานงานให้เกิดการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ทุกชุมชน ใน ต.แม่สวด อ. สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งการพัฒนาถนน ระบบน้ำประปา และไฟฟ้าที่มีคุณภาพ

นายก-รองนายก อบต.แม่สวด ไม่มารับเรื่อง ด้านนายอำเภอสบเมยรับ ยันแก้ปัญหาแล้ว ย้ำปีนี้มีไฟฟ้าใช้แน่

หลังจากประชาชนได้ยืนรอยื่นหนังสือถึงนายก อบต. แม่สวด และได้รับรายงานว่านายก อบต. ติดภารกิจที่อื่น ได้มีการต่อรองว่าขอยื่นหนังสือกับรองนายก อบต. แต่ปรากฏว่าไม่มีใครสะดวกมารับหนังสือ ประชาชนจึงตัดสินใจยื่นหนังสือผ่านทาง เนตรดาว วงศ์พญา หัวหน้าสำนักปลัด อบต. แม่สวด โดยได้กล่าวกับชาวบ้านว่าจะรายงานความคืบหน้าตามข้อเรียกร้องภายใน 15 วัน

ด้าน อัครพันธุ์ พูลศิริ นายอำเภอสบเมย ได้มารับหนังสือ กล่าวว่า เข้าใจถึงปัญหาที่พี่น้องที่ได้รับผลกระทบเรื่องระบบสาธารณูปโภค โดยตนเพิ่งมารับตำแหน่งวันที่ 18 เม.ย. 2566 และไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้เฉพาะแม่สวด แต่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล มีปัญหาเรื่องไฟฟ้า สัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งได้ทำการสำรวจแล้ว โดยใน อ.สบเมย นั้นไม่มีไฟฟ้าใช้จำนวน 35 หมู่บ้าน ได้มีการเรียกประชุมไฟฟ้าแม่ฮ่องสอน เมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ค. 2566) ได้ทราบปัญหาและได้ลงพื้นที่แล้ว พบว่ามีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายหลายอย่าง แต่อำเภอได้แก้ปัญหาให้แล้ว

ตัวแทน P-move ยื่นหนังสือถึง อัครพันธุ์ พูลศิริ นายอำเภอสบเมย (ซ้าย)

"เราได้แก้ไขปัญหาแล้ว อาจจะติดขัดเรื่องการสื่อสาร ประชุมกันแล้วได้เร่งรัด อบต.แม่สวด ทำหนังสือไปยังกรมป่าไม้โดยใช้มาตรา 19 ขอใช้พื้นที่ กำลังเร่งรัดกรมป่าไม้ในการใช้ประโยชน์พื้นที่" อัครพันธุ์ กล่าว และยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจ และชาวบ้านจะมีชีวิตอยู่ดีกินดี

"นายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ จะรีบดำเนินการ ยืนยันว่าพี่น้องจะกินดีอยู่ดี คิดว่าปีนี้จะได้ใช้ไฟ ผมจะดำเนินการเร่งรัดให้" นายอำเภอสบเมย ย้ำ
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net