Skip to main content
sharethis

หลายองค์กรทางการแพทย์ รวมถึงองค์กรสภาเสี้ยววงเดือนแดง (red crescent) ซึ่งเปรียบเสมือนกับกาชาดของชาวมุสลิม เผยอิสราเอลจงใจโจมตีรถพยาบาล และสถานพยาบาล ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมสงคราม และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะที่ทรัพยากร รพ.ในกาซา เข้าขั้นวิกฤตแล้ว

 

เมื่อ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ทาลาล ทาฮา และทีมแพทย์พยาบาลของเขาที่โรงพยาบาล อัลชีฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในกาซา ได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินเมื่อช่วงเย็นวันหนึ่ง และรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ ทว่าในช่วงเช้าของวันดังกล่าวเป้นวันเดียวกับที่อิสราเอลทำการโจมตีกาซ่าอย่างหนัก หลังจากที่กลุ่มกองกำลังฮามาส ประเคนจรวดนับพันเข้าใส่ และบุกเข้าไปในอิสราเอล

ทีมแพทย์ขึ้นรถ 3 คันมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุใกล้กับสุสานทางฝั่งตะวันออกของเมือง ทีมแพทย์คอยติดตามเสียงร้องขอความช่วยเหลือในช่วงที่เมืองกำลังมืดลงเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้นเอง พวกเขากลับถูกโจมตีจากอิสราเอล

"จู่ๆ พวกเราก็ถูกโจมตี (ทางอากาศ) แล้วพวกเราก็หนีเพื่อความปลอดภัย" ทาฮา กล่าว 

ทีมแพทย์กลุ่มนี้กระโดดขึ้นรถของพวกเขาที่ถนนซาลาห์อัลดิน รถแล่นไปได้ไม่กี่เมตรก่อนที่จะมีเหตุโจมตีเกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นเหตุให้เพื่อนร่วมงานของทาฮา เสียชีวิต 3 ราย และทาฮา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

"ปฏิบัติการของพวกเราเป็นปฏิบัติการเชิงมนุษยธรรม พวกเราแค่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แล้วพวกเราก็ถูกโจมตีแบบไม่มีเหตุผล โดยที่ไม่มีข้ออ้างใดๆ เลย" ทาฮา กล่าว

เรื่องที่เกิดกับทาฮา ไม่ใช่แค่เหตุการณ์เดียวที่มีการโจมตีบุคลากรทางการแพทย์ในกาซา องค์กรการแพทย์และหน่วยงานสาธารณสุขในกาซาต่างก็กล่าวหาว่า อิสราเอล จงใจทิ้งระเบิดใส่รถพยาบาลและสถานพยาบาลในพื้นที่กาซา ที่ถูกปิดล้อมโดยอิสราเอล การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายนานาชาติ และนับเป็นอาชญากรรมสงคราม

สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ (PRCS) แถลงเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา ประณามการที่อิสราเอล "จงใจตั้งเป้าหมายโจมตีทีมแพทย์พยาบาล" จนกลายเป็นการสังหาร "หน่วยกู้ชีพ 4 รายภายในช่วงต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงภายในวันนี้ ถึงแม้ว่าจะมีการประสานงานเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว"

PRCS ระบุว่า การโจมตีบุคลากรทางการแพทย์นับเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ทาง PRCS ได้เรียกร้องให้มีการหาผู้รับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามนี้ รวมถึงให้มีการสืบสวนเรื่องนี้โดยทันทีและให้ความยุติธรรมแก่เหยื่อ

กระทรวงสาธารณสุขของกาซา ประณามสิ่งที่อิสราเอล ทำ โดยระบุว่าเป็น "การโจมตีโดยตรงและอย่างเป็นระบบต่อรถพยาบาล" คำประณามระบุว่า "การโจมตีรถพยาบาลนับเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าขัดต่อกฎหมายนานาชาติและสนธิสัญญาที่ให้การคุ้มครองสถานพยาบาลและการรักษาพยาบาลในพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ"

จากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมาระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ที่ฉนวนกาซ่าและเวสต์แบงค์จากความขัดแย้งล่าสุดพุ่งสูงถึงอย่างน้อย 2,383 รายแล้ว รวมถึงมียอดผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 10,814 ราย

กระทรวงสาธารณสุขของกาซ่าระบุอีกว่ามีรถพยาบาลอย่างน้อย 15 คัน และสถานพยาบาลอย่างน้อย 9 แห่งที่ถูกโจมตีโดยอิสราเอล ได้แก่ รีมาล คลินิก, ศูนย์ตานานาชาติ และอาคารกระทรวงสาธารณสุข เองด้วย

แพทย์ไร้พรมแดนเรียกร้องอิสราเอล "แสดงให้เห็นความเป็นคนบ้าง"

องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) แถลงว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ถูกสังหารแล้วอย่างน้อย 16 ราย และมีรถพยาบาลถูกทำลายไปแล้วอย่างน้อย 18 คัน นับตั้งแต่ที่มีเหตุโจมตีปาเลสไตน์

ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการใหญ่ของ MSF แคลร์ มาโกเน เรียกร้องให้อิสราเอล "แสดงให้เห็นความเป็นคนบ้าง" หลังจากที่อิสราเอล สั่งเตือนให้ผู้คนนับล้านในพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซาอพยพออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง แล้วให้เคลื่อนย้ายไปที่ทางตอนใต้ของประเทศในช่วงที่มีการยกระดับสงครามอิสราเอล-กาซา ที่จุดชนวนจากการที่กลุ่มกองกำลังฮามาสจากปาเลสไตน์ สังหารหมู่พลเรือนในอิสราเอล ตามมาด้วยการโจมตีโต้ตอบกลับโดยกองทัพอิสราเอล

MSF ระบุว่า คำสั่งให้เคลื่อนย้ายอพยพฝูงชนโดยอิสราเอลนั้น ทำให้เกิดความกังวลว่ามีผู้คนจำนวนมากไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้บาดเจ็บ คนป่วย หรือผู้พิการ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์เองด้วย จากที่ต้องคอยทำการรักษาผู้บาดเจ็บและผู้ป่วย ในช่วงที่โรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้ต้องการการรักษาพยาบาล และกำลังขาดแคลนยาแก้ปวด มีผู้คนที่ร้องระงมอย่างเจ็บปวด มีผู้ป่วยบางคนที่ไปโรงพยาบาลไม่ได้ หลายคนตกอยู่ในภาวะหวาดกลัวที่กลายเป็นเหยื่อการถูกทิ้งระเบิด

องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงในเรื่องเดียวกันว่า "การสั่งอพยพผู้คนโดยทางการอิสราเอลต่อโรงพยาบาลในทางตอนเหนือของกาซา เทียบได้กับเป็นการสั่งปลิดชีพคนป่วยและคนที่บาดเจ็บ" WHO ประณามที่อิสราเอลสั่งย้ายผู้ป่วยมากกว่า 2,000 ราย จากโรงพยาบาล 22 แห่งทางตอนเหนือของกาซ่า ระบุว่าเท่ากับเป็นการทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมและหายนะทางสาธารณสุขในกาซ่าที่ย่ำแย่อยู่แล้วเลวร้ายลงไปกว่าเดิม

โซฮาอิบ ซาฟี ผู้ประสานงานทางการแพทย์ของ MSF ในกาซ่า กล่าวว่าระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็น "หลักฐานที่เห็นได้ชัดมาก" ว่ามีอิสราเอลจงใจโจมตีความช่วยเหลือทางการแพทย์ในกาซ่า

ซาฟี กล่าวว่ามีเหตุการณ์ที่รถพยาบาลพยายามจะเข้าไปที่พื้นที่ๆ เกิดเพลิงไหม้แล้วถูกโจมตี เสมือนเป็นการส่งสัญญาณจากอิสราเอล ว่าไม่ให้มีใครเข้าไปเคลื่อนย้ายผู้คนที่บาดเจ็บหรือติดอยู่ในซากอาคาร เรื่องนี้ทำให้มีการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและแท็กซี่ในการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลมากขึ้นเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต

ถึงแม้อิสราเอล จะยืนยันว่าพวกเขาเตือนพลเรือนให้อพยพออกจากอาคารก่อนโจมตี แต่มีชาวปาเลสไตน์จำนวนมากที่ถูกโจมตีโดยปราศจากคำเตือน ซึ่งอิสราเอลได้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขากำลังเตรียมการเพื่อการบุกโจมตีทางบก

โจนาธาน คอนริคัส โฆษกของกองทัพอิสราเอลกล่าวว่ากองทัพอิสราเอลมีภารกิจที่จะต้อง "ทำให้ฮามาสไม่เหลือสมรรถภาพทางการทหารที่จะใช้คุกคามหรือสังการพลเรือนอิสราเอลได้อีกต่อไป เมื่อสงครามจบลง"

ทรัพยากรโรงพยาบาลร่อยหรอ

ขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาล อัลชีฟา ก็กำลังเผชิญกับปัญหาผู้คนล้นโรงพยาบาล และปัญหาทรัพยากรร่อยหรอ ซึ่งที่โรงพยาบาลไม่ได้มีแค่ผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังมีชาวกาซาคนอื่นๆ ที่เข้ามาพักพิง เพราะหวังว่าจะไม่ถูกโจมตี

กัสซัน อาบู-สิตตาห์ ศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลอัลชีฟา กล่าวว่า สภาพในโรงพยาบาลย่ำแย่ลงเรื่อยๆ มีคนไข้จำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะที่เป็นเด็กถูกส่งเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส บางคนเป็นหญิงวัยรุ่นที่มีแผลบนหน้า แม่ของเธอเป็นหมอที่อัลชีฟา ถูกสังหารตอนบ้านพวกเขาถูกทิ้งระเบิดใส่

อาบู-สิตตาห์ บอกอีกว่า โรงพยาบาลกำลังขาดแคลนทรัพยากร เนื่องจากระบบการสาธารณะสุขในกาซาล่มสลายลงแล้ว มีแผนกเด็กแรกคลอดที่พังไปส่วนหนึ่งจากการทิ้งระเบิดโดยรอบบริเวณสถานพยาบาล มีคนไข้มากกว่าเตียงเป็น 2 เท่า และคนไข้ก็ไม่สามารถใช้ห้องผ่าตัดได้

ในขณะที่โรงพยาบาลกำลังขาดแคลน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ก็สั่งปิดกั้นความช่วยเหลือไม่ให้เข้าถึงกาซา รวมถึงอาหาร เชื้อเพลิง และไฟฟ้า ทำให้โรงพยาบาลมีเชื้อเพลิงเหลือเอาไว้ปั่นไฟได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้น ซึ่งนอกจากผู้บาดเจ็บแล้ว ในกาซายังมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากซึ่งป่วยอยู่ก่อนแล้ว เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ที่ต้องการการรักษาทางการแพทย์

มาห์มูด ชาลาบี ผู้จัดการโครงการอาวุโสขององค์กรให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ต่อชาวปาเลสไตน์ (MAP) แสดงความเป็นห่วงในเรื่องที่มีการปิดกั้นกาซา ซึ่งการที่อิสราเอลทำเช่นนี้ เป็นไปได้ว่าพวกเขากำลังเตรียมการบุกโจมตีกาซ่าทางภาคพื้นดิน

ซาลาบี หวังว่า มันจะไม่เป็นเช่นนั้น ซาลาบี มองว่า ถ้าการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้น "มันก็จะกลายเป็นหายนะด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดที่ปาเลสไตน์ประสบนับตั้งแต่ปี 2491"

 

เรียบเรียงจาก

Gaza medics say Israel targeting ambulances, health facilities, Aljazeera, 12-10-2023
https://www.aljazeera.com/news/2023/10/12/war-crime-gaza-medics-say-israel-targeting-ambulances-health-facilities

MSF calls on Israel to 'show humanity', MSF, 15-10-2023
https://www.doctorswithoutborders.org/latest/msf-calls-israel-show-humanity

Evacuation orders by Israel to hospitals in northern Gaza are a death sentence for the sick and injured, WHO, 14-10-2023
https://www.who.int/news/item/14-10-2023-evacuation-orders-by-israel-to-hospitals-in-northern-gaza-are-a-death-sentence-for-the-sick-and-injured

Gaza and West Bank death toll reaches 2,383 Palestinians - ministry, Reuters, 15-10-2023
https://www.reuters.com/world/middle-east/gaza-west-bank-death-toll-reaches-2383-palestinians-ministry-2023-10-15/

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net