Skip to main content
sharethis

แกนนำ นปช. ในนาม คณะประชาชนทวงคืนความยุติธรรม 2553 และ คนรุ่นใหม่ ร่วมรำลึก '17 ปี ลุงนวมทอง ไพรวัลย์' เหวง ร้องรัฐบาล ทวงความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดงที่ถูกสลายชุมนุมและเสียชีวิตในเหตุการณ์ เม.ย.-พ.ค.53 โดยย้ำถึง 8 ข้อเรียกร้องเร่งตรวจสอบ ทวงคืนความยุติธรรม เหตุสลายการชุมนุม 

31 ต.ค.2566 เนื่องในวันครบรอบ 17 ปี ที่ นวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ วัย 60 ปี ผูกคอตายกับราวสะพานลอยบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก เยื้องกับที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดยจดหมายลาตายของนวมทอง ระบุไว้ด้วยว่าต้องการลบคำสบประมาทของ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค.หรือคณะรัฐประการขณะนั้น ที่ว่า "ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้" นั้น

ช่วงบ่ายวันนี้ (31 ต.ค.) คณะประชาชนทวงคืนความยุติธรรม 2553 จัดกิจกรรม “17 ปี ลุงนวมทอง ไพรวัลย์” บริเวณสดมภ์อนุสรณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ หน้าสำนักงานใหญ่ นสพ.ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต ดังกล่าว โดยมีผู้เข้ารวมทั้งเสื้อแดงและนักกิจกรรมทางการเมือง เช่น ธิดา ถาวรเศรษฐ เหวง โตจิราการ ประทีป อึ้งทรงธรรม สมยศ พฤกษาเกษมสุข วรชัย เหมะ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เป็นต้น 

โดยที่ เหวง กล่าวตอนหนึ่งถึงการเมืองการปกครองในปัจจุบันว่า ยังไม่ถือว่าเป็นประชาธิปไตยเนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา ต้องติดที่ สว. อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ เหวง ยังเรียกร้องให้รัฐบาลทวงความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดงที่ถูกสลายชุมนุมและเสียชีวิตในเหตุการณ์ เม.ย.-พ.ค.53 โดยย้ำถึง 8 ข้อเรียกร้องเร่งตรวจสอบ ทวงคืนความยุติธรรม เหตุสลายการชุมนุม 53 ให้ประชาชนที่เคยเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะการลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีเหตุการณ์ 2553 ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามที่อัยการศาล ICC ได้มาแจ้งไว้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2555 ดำเนินการเพื่อแก้ไขให้ได้รัฐธรรมนูญของประชาชนให้ได้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยการใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งประเทศ แก้ไขกฎหมายอื่นอันเป็นผลพวงมาจากการทำรัฐประหาร และกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 ที่เป็นเครื่องมือจัดการผู้เห็นต่างทางการเมือง รวมทั้งแก้ไขกฎหมายกรณีที่ทหาร และนักการเมือง ทำความผิดต่อประชาชน โดยให้ขึ้นศาลพลเรือนไม่ใช่ศาลทหาร ส่วนนักการเมืองขึ้นศาลนักการเมือง เป็นต้น

ด้านพรรคก้าวไกล รายงานด้วยว่า ศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ และปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล เข้าร่วมกิจกรรมรำลึกในวันนี้ด้วย โดย ศศินันท์ระบุว่า ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 17 ปีที่ลุงนวมทองเสียชีวิต โดยตอนนั้นตนยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งที่สนใจติดตามการเมือง และไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นการรัฐประหารกับตา ทั้งในปี 2549 และ 2557 แม้วันนี้ตนจะได้มาเป็น สส.แล้ว แต่ก็ยังคงมีความทรงจำถึงการเสียสละในวันนั้น จึงมาร่วมรำลึกเพื่อตอกย้ำและเตือนตัวเองว่าเรามาจากไหน มีภารกิจอะไร และจะต้องสานต่อสิ่งที่วีรชนรุ่นก่อนได้ทำไว้ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหลาย ๆ ครั้ง รวมทั้งในปี 2553 ด้วย

อย่างไรก็ตาม ตนคาดหวังว่าจะไม่มีคำว่าวีรชนเกิดขึ้นอีก เพราะมันหมายถึงการสูญเสีย ดังนั้น ทุกองคาพยพในสังคมไทย ทั้งพรรคการเมือง ประชาสังคม และประชาชนต้องร่วมกันหาทางทำให้การรัฐประหารไม่เกิดขึ้นอีก โดยในส่วนของพรรคก้าวไกลก็มีนโยบายการปฏิรูปกองทัพ แม้วันนี้จะไม่ได้มีบทบาทเป็นรัฐบาล แต่ในฐานะฝ่ายค้านก็จะพยายามขับเคลื่อนเท่าที่จะทำได้ ทั้งในส่วนของการผลักดันกฎหมายและการทำงานในกรรมาธิการต่าง ๆ 

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาและการแสดงออกของประชาชนในที่สาธารณะ ทำให้เราเห็นว่าคนรุ่นใหม่สนใจการเมืองมากขึ้น ประชาชนยังคงติดตามการเมืองและมีความตื่นตัวทางการเมืองสูง ดังนั้น ตนเชื่อว่าคนไทยเริ่มเข้าใจสถานการณ์การเมืองและข้อเสียของการรัฐประหารมากขึ้น หลังการรัฐประหารปี 2549 เราได้เห็นบรรยากาศหนึ่ง แต่ในปี 2557 เราเห็นการต่อต้านมากขึ้น และตนเชื่อว่าถ้ามีรัฐประหารอีกครั้ง ผลลัพธ์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 

“ทุกคนเห็นแล้วว่าการรัฐประหารทำให้เกิดผลลัพธ์อย่างไร และประเทศถอยหลังเพราะการรัฐประหารขนาดไหน ทุกครั้งที่ลงพื้นที่และได้เจอเด็กรุ่นใหม่ ใครจะคิดว่าวันหนึ่งจะมีเด็กสนใจการเมืองมากขนาดนี้ ตอนเป็นเสื้อแดง เราจำได้ว่าป้า ๆ ดีใจมากเวลาได้เห็นเด็กในที่ชุมนุม เพราะตอนนั้นคนรุ่นใหม่ยังสนใจการเมืองน้อย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปมากแล้ว เรามาไกลมากแล้ว” ศศินันท์กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net