Skip to main content
sharethis

กกต.แจงคดีเลือกตั้ง สส.จาก 360 เรื่อง ณ วันที่ 15 พ.ย. 66 เหลือต้องลุ้นอีก 80 คดี ยืนยันให้ความเป็นธรรม เปิดโอกาสทุกฝ่ายยื่นหลักฐานชี้แจงข้อเท็จจริง - สื่อเผยเบื้องหลัง กกต.แจกใบแดงแรกช้า ต้องพ่วงคดีอาญา-ให้สิ้นกระแสความ

17 พ.ย. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้อง สำนวน การวินิจฉัย และการดำเนินคดีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เป็นการทั่วไป พ.ศ.2566 โดยข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ย. 2566 มีคำร้อง ความปรากฏข้อมูลเบาะแสจำนวน 360 เรื่อง แบ่งเป็น คำร้อง 280 เรื่อง, ความปรากฏ 39 เรื่อง, ข้อมูลเบาะแส 41 เรื่อง, ดำเนินการเสร็จแล้ว 280 เรื่อง ประกอบด้วย พิจารณาคำร้อง 239 เรื่อง, สั่งไม่รับ 158 เรื่อง, สั่งยุติเรื่อง 81 เรื่อง, การวินิจฉัยชี้ขาดสำนวน 41 สำนวน, ยกคำร้อง 37 สำนวน, ดำเนินคดีอาญา 3 สำนวน, ยื่นคำร้องต่อศาล 1 สำนวน และอยู่ระหว่างดำเนินการ 80 เรื่อง

อย่างไรก็ตาม ในการสืบสวน ไต่สวน กกต.ต้องให้โอกาสผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงแสดงพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย สำหรับเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

สื่อเผยเบื้องหลัง กกต.แจกใบแดงแรกช้า ต้องพ่วงคดีอาญา-ให้สิ้นกระแสความ

ทั้งนี้ กกต.พึ่งแจกใบแดงแรกให้กับเกศกานดา อินช่วย ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ เขตคลองสามวา และผู้ช่วยหาเสียง ดวงฤดี พันธุ์สมตน ข้อหาแจกเงินซื้อเสียงประชาชน คนละ 500 บาท พร้อมทั้งยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี หรือ เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญากับทั้ง 2 คน

โดยพฤติกรรมความผิด จากการไต่สวนของ กกต.รับฟังได้ว่า ระหว่างวันที่ 17-19 เม.ย. 2566 ที่หมู่บ้านร่มทิพย์ ซ.หทัยราษฎร์ ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ดวงฤดีซึ่งเป็นประธานหมู่บ้านร่มทิพย์ และเป็นผู้ช่วยหาเสียงของเกศกานดา ได้ไปพบปะและติดต่อผู้ร้องที่บ้านเพื่อหารายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยจะให้เงินคนละ 500 บาท เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่เกศกานดา โดยมีคลิปเสียงและคลิปวิดีโอเป็นหลักฐาน

เว็บไซต์ไทยโพสต์ ได้อ้างแหล่งข่าวจาก กกต. ชี้แจงเรื่องนี้ว่าคำร้องในการเลือกตั้งครั้งนี้ส่วนใหญ่คือเรื่องนโยบาย ซึ่งคำร้องทุจริตการเลือกตั้งมีประมาณหนึ่ง โดยกฎหมายใหม่ไม่ว่าจะแจกใบเหลือง ส้ม แดง หรือดำ กับ สส. หรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะต้องพ่วงด้วยการดำเนินคดีทางอาญาด้วย ดังนั้นการสอบสวนจึงต้องดำเนินการคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคือ "ทำให้สิ้นกระแสความ" ซึ่งแตกต่างกับในสมัยก่อนที่ไม่จำเป็นต้องเล่นคดีอาญา แค่ใช้นิยามที่ว่า "มีข้อสงสัยว่าการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม"

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าด้วยเหตุใด กกต.จึงต้องใช้เวลาสอบสวนที่นาน และตีตกคำร้องไปพอสมควร เพราะการสืบสวนต้องสืบให้ละเอียดจนฝ่ายตรงข้ามโต้ไม่ได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net