'กลุ่มกรุงเทพศึกษา' ออก จม.ถึงนายกฯ เผยเดินทัวร์ประวัติศาสตร์ข้างทำเนียบฯ ถูกชายอ้างเป็นตร.คุกคาม

ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ จากกลุ่มกรุงเทพศึกษา ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ เผยเดินทัวร์ประวัติศาสตร์ข้างทำเนียบฯ ถูกชายอ้างเป็นตำรวจขอถ่ายรูปแบบเซลฟี่เพื่อนำไปประกอบรายงานเจ้านาย ชี้เป็นการกระทำที่น่าตื่นตกใจและรุกรานต่อเรานักท่องเที่ยว สร้างความรู้สึกว่าถูกคุกคามอย่างยิ่ง หวังนายกฯ รับทราบพฤติกรรม

11 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับจดหมายเปิดผนึกจาก ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ จากกลุ่มกรุงเทพศึกษาและนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์การเมืองและรัฐศาสตร์ ระบุถึงเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีมีบุคคลอ้างเป็นตำรวจที่คุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชนที่บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล จากเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มกรุงเทพศึกษา ได้จัดกิจกรรมรายเดือน ครั้งนี้เป็นการ walking tour จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินตามถนนราชดำเนินกลาง-นอก ปลายทางที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อชมตึกไทยคู่ฟ้า แต่ระหว่างเดินที่ข้างทำเนียบรัฐบาล กลับปรากฏชายคนหนึ่งลงจากมอเตอร์ไซค์ อ้างว่าเป็นตำรวจ ขอถ่ายรูปแบบเซลฟี่เพื่อนำไปประกอบรายงานเจ้านาย ซึ่งธำรงศักดิ์ มองว่าเป็นการกระทำที่น่าตื่นตกใจและรุกรานต่อเรานักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างยิ่ง เสมือนประเทศเราไม่มีเสรีภาพในการเดินทางท่องเที่ยวอย่างเสรี ต้องตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว

"ยังถามเราว่า มาประท้วง หรือมายื่นหนังสือร้องเรียน หรือมาเที่ยวเฉยๆ คำถามนี้ สร้างความรู้สึกว่าเราถูกคุกคามอย่างยิ่ง รวมทั้งมีเหล่าชายฉกรรจ์แสดงตนถ่ายรูปพวกเราอย่างเปิดเผยตามจุดต่างๆ รวมทั้งขี่มอเตอร์ไซค์ตามถ่ายรูปพวกเรา" ธำรงศักดิ์ ระบุในจดหมายพร้อมทั้งเรียกร้องไปยัง เศรษฐา ซึ่งอาจยังไม่เคยรับทราบพฤติกรรมคุกคามสิทธิเสรีภาพเช่นนี้มาก่อน จึงเสนอมาเพื่อให้รับทราบ และหวังว่า รัฐบาลจะช่วยทำให้ปลอดพ้นจากการคุกคามของบุคคลเหล่านี้

โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์กิจกรรมกลุ่มกรุงเทพศึกษา

จดหมายเปิดผนึกของกลุ่มกรุงเทพศึกษาถึงนายกฯ

เรื่อง บุคคลอ้างเป็นตำรวจที่คุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชนที่บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล

ถึง คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

เมื่อวันอาทิตย์ 10 ธันวาคม 2566 วันรัฐธรรมนูญ กลุ่มกรุงเทพศึกษา ได้จัดกิจกรรมรายเดือน ครั้งนี้เป็นการ walking tour จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินตามถนนราชดำเนินกลาง-นอก ปลายทางที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อชมตึกไทยคู่ฟ้า

อาคารไทยคู่ฟ้า หรืออดีตบ้านนรสิงห์ของเจ้าพระยารามราฆพ ทำเนียบตราไก่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งที่แห่งนี้ได้กลายเป็นทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่นั้นมา นับว่าเป็น soft power ด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย มีประวัติศาสตร์มาถึงศตวรรษ เหมือนกับเราไปวอชิงตัน ดี ซี สหรัฐอเมริกา เราก็จะไปยืนชมและถ่ายรูปที่หน้าทำเนียบขาวของประธานาธิบดีอเมริกา

แต่การเดินท่องเที่ยวของเราในบางกอก ดูเสมือนถูกคุกคามด้วยสายลับมากหน้าหลายตาที่แสดงออกมาให้เรารู้เห็นตามจุดต่างๆ รวมทั้งขี่มอเตอร์ไซค์วนไปมาเหมือนแก๊งวัยรุ่นที่เรารู้สึกกังวลใจ

ที่ข้างทำเนียบรัฐบาล ชายคนหนึ่งลงจากมอเตอร์ไซค์ อ้างว่าเป็นตำรวจ ขอถ่ายรูปแบบเซลฟี่เพื่อนำไปประกอบรายงานเจ้านาย นับว่าเป็นการกระทำที่น่าตื่นตกใจและรุกรานต่อเรานักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างยิ่ง เสมือนประเทศเราไม่มีเสรีภาพในการเดินทางท่องเที่ยวอย่างเสรี ต้องตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว

ทั้งยังถามเราว่า มาประท้วง หรือมายื่นหนังสือร้องเรียน หรือมาเที่ยวเฉยๆ!!! คำถามนี้ สร้างความรู้สึกว่าเราถูกคุกคามอย่างยิ่ง รวมทั้งมีเหล่าชายฉกรรจ์แสดงตนถ่ายรูปพวกเราอย่างเปิดเผยตามจุดต่างๆ รวมทั้งขี่มอเตอร์ไซค์ตามถ่ายรูปพวกเรา

ผมคิดว่า คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อาจยังไม่เคยรับทราบพฤติกรรมคุกคามสิทธิเสรีภาพเช่นนี้มาก่อน ผมจึงเสนอมาเพื่อให้รับทราบ โดยหวังว่า รัฐบาลของท่านจะช่วยทำให้เราปลอดพ้นจากการคุกคามของบุคคลเหล่านี้ ทำให้แผ่นดินบ้านเมืองของเราได้มีสิทธิเสรีภาพในร่างกายและการเดินทางของประชาชนไทยอย่างแท้จริง

รองศาสตราจารย์ ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์
กลุ่มกรุงเทพศึกษา
11 ธันวาคม 2566

ข่าว