อัยการได้มีคำสั่งฟ้องครูฝึกค่ายเม็งรายมหาราช ฐานกระทำการโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หลัง 'พลทหารกิตติธร' เสียชีวิตจากการฝึกและถูกลงโทษ นับเป็นคดีแรกหลังเริ่มบังคับใช้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565

22 ธ.ค. 2566 สำนักข่าวเดอะรีพอร์ตเตอร์ รายงานความคืบหน้ากรณีพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต เสียชีวิตจากการฝึกและถูกลงโทษ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2566 ระบุ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา อัยการได้มีคำสั่งฟ้องครูฝึก ฐานร่วมกระทำการโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 นับเป็นคดีแรกหลังเริ่มบังคับใช้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 พ่อและภรรยาของพลทหารกิตติธรได้เข้ายื่นหนังสือต่อ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร (กมธฯ การทหาร) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จริงเกี่ยวกับการเสียชีวิต และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับครอบครัว

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมซึ่งให้ความช่วยเหลือทางคดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ค 2566 พ่อและภริยาของพลทหารกิตติธรเดินทางไปเพื่อรับพลทหารกิตติธรที่ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย และพบว่าพลทหารกิตติธรมีอาการอิดโรย ตัวซีด ไข้ขึ้น มีอาการร้อนและหนาวสลับกัน จากการสอบถามของภริยาของผู้ตายแจ้งว่าก่อนหน้านี้พลทหารกิตติธร มีบาดแผลที่บริเวณหัวเข่าซึ่งเกิดจากการฝึกและมีอาการป่วยมาหลายวัน พลทหารกิตติธรพยายามขอให้ทางผู้บังคับบัญชาส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่ไม่ได้รับการอนุญาต ในวันดังกล่าวภริยาของผู้ตายจึงยืนกรานขอให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช อาการไม่ดีขึ้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.ค 66 พลทหารกิตติธรถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ที่รักษาระบุว่า เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ส.ค 2566 พ่อและภริยาของผู้ตายจึงได้ร้องเรียนต่อพนักงานอัยการ ศูนย์ป้องกันการทรมาน-อุ้มหาย จ.เชียงรายว่า มีข้อสงสัยต่อการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธรเป็นอย่างมาก และได้ส่งร่างของพลทหารกิตติธรฯ ไปผ่าชันสูตรศพเพื่อค้นหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่