Skip to main content
sharethis

โฆษกรวมไทยสร้างชาติโต้ สส.ก้าวไกล ยกเคสนำข้อมูลเก่าที่ กฟผ.คาดการณ์ไม่ตรงกับข้อมูลปัจจุบัน โดยนำตัวเลขคาดการณ์ตั้งแต่ ต.ค. 2566 ที่ กฟผ.ได้มีการจำลองสถานการณ์เพื่อให้รัฐบาลเฝ้าระวัง ซึ่งปัจจุบันสถานะทางการเงินของ กฟผ. ไม่ได้เกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ เพราะอัตราแลกเปลี่ยน หรือราคาเชื้อเพลิง ราคาแก๊ส ราคาต้นทุนต่าง ๆ มีการปรับเปลี่ยนไปมาก ทำให้สถานะเงินสดของ กฟผ.ดีขึ้นมาก

6 ม.ค. 2567 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่า อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณี สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายในสภาวาระรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับตัวเลขกระแสเงินสดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) โดยระบุว่า การให้ข้อมูลดังกล่าว คาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เป็นการนำตัวเลขคาดการณ์ประมาณการตั้งแต่ ตุลาคม 2566 ที่ กฟผ.ได้มีการจำลองสถานการณ์เพื่อให้รัฐบาลเฝ้าระวัง ซึ่งปัจจุบันสถานะทางการเงินของ กฟผ. ไม่ได้เกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ เพราะอัตราแลกเปลี่ยน หรือราคาเชื้อเพลิง ราคาแก๊ส ราคาต้นทุนต่าง ๆ มีการปรับเปลี่ยนไปมาก ทำให้สถานะเงินสดของกฟผ.ดีขึ้นมาก จากที่เคยประมาณการณ์ ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์เหมือนอย่างที่ สส.ก้าวไกลได้หยิบข้อมูลมาอภิปราย ตนจึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกหรือตกใจ พร้อมระบุว่า หาก สส.ก้าวไกลไม่มั่นใจในข้อมูลก็สามารถสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ หรือสอบถามมายัง รมว.พลังงาน ซึ่งยินดีตอบข้อซักถาม และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับพรรคฝ่ายค้าน ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกลอย่างเดียว

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เวลามีการอภิปรายในสภาฯ อยากให้รับฟังข้อมูลทั้งผู้อภิปราย และผู้ที่ชี้แจง ตรงนี้เป็นสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย เพื่อจะได้รับข้อมูลทั้งสองฝ่ายแล้วให้นำเอาข้อมูลมาถ่วงดุลกัน อย่าเชื่อทางใดทางหนึ่งไปเลย ฝากประชาชนต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง 

'พีระพันธุ์' แจงปมฐานะทางการเงิน กฟผ. ยังมีกระแสเงินสดกว่า 9 หมื่นล้าน

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่าจากกรณที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงพาดพิงถึงการอภิปรายของ นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เกี่ยวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ไม่ถูกต้อง จึงจำเป็นต้องชี้แจงเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 

โดยนายพีระพันธ์ กล่าวว่า ตามที่ นายศุภโชติ อ้างว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในรัฐบาลสมัยที่แล้ว มาจากพรรคเดียวกันจึงมีความเกรงใจนายทุน แก้ปัญหาแบบเดิม แม้ครงสร้างปัจจุบันตนเองก็ไม่พอใจ แต่ไม่มีทางอื่น ต้องปรับตามโครงสร้างปัจจุบัน ถึงอย่างไรก็เชื่อว่าพี่น้องประชาชนพึงพอใจในผลงานที่ทำมา

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ยังระบุว่าตกใจเพราะเมื่อฟังตัวเลขที่ นายศุภโชติ ชี้แจงไป กับตัวเลขที่ตนได้รับการชี้แจงจาก กฟผ. เมื่อวานนี้ และเพิ่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นคนละตัวเลขกันเลย พร้อมยืนยันว่ากระแสเงินสดของ กฟผ. ในปี 2566 ประมาณ 90,000 ล้านบาท 

และประมาณการใช้จ่ายของ กฟผ. ที่ นายศุภโชติ อ้างว่า ตั้งแต่ ม.ค. จะลงไปถึงระดับ 10,000 ล้านบาท ไม่ใช่ความจริง และเป็นไปไม่ได้ กระทรวงพลังงานจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้น เพราะต้องรักษาระดับเงินสดไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านบาทเป็นมาตรฐานของ กฟผ.

สำหรับกรณีหนี้ของ กฟผ. กับ ปตท. ยอดกว่า 30,000 ล้านบาท นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ได้รับชำระหนี้หมดแล้ว ที่ผ่านมาต้องเข้าใจ และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกับรัฐบาลชุดนี้ในการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ไม่ทราบว่าใครจะไม่พอใจ แต่มั่นใจว่าประชาชนพอใจเรื่องการลดภาระค่าใช้จ่าย ทุกคนพร้อมใจกันช่วยลดภาระตรงนี้ ขอบคุณในสิ่งที่สมาชิกเป็นห่วง แต่เรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้นจริง และตัวเลขที่อ้างก็ไม่ตรงกับความจริง

โดยข้อมูลต่างๆ ที่​ นายพีระพันธุ์​ นำมาชี้แจงยืนยันว่าได้มาจากรองผู้ว่าการ กฟผ. ฝ่ายการเงิน หรือ CFO ที่ให้ข้อมูลตอนที่นำงบการเงินปี 2564 -2565 ของ กฟผ. รายงานต่อ ครม. เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2567  ซึ่งชี้ชัดในข้อเท็จจริงจากสถานะการเงิน ณ สิ้นปี 2566 กฟผ. มีเงินสดในมือประมาณ 91,000 ล้านบาท  จึงเป็นไปไม่ได้ที่ ณ เดือนมกราคม 2567 เพียงหนึ่งเดือนให้หลังกระแสเงินสดของ กฟผ. ก่อนหักค่าใช้จ่ายจะเหลือเพียง 39,234 ล้านบาท   

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net