Skip to main content
sharethis

มาร์ติน กริฟฟืธส์ ผู้ประสานงานด้านการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของสหประชาชาติกล่าวว่า สงครามกาซา "เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรก" และถ้าหากว่าอิสราเอลยังคงโจมตีกาซาต่อไป ก็เสี่ยงต่อการที่จะทำให้ความขัดแย้งจะขยายตัวออกไปจนกลายเป็นสงครามในระดับภูมิภาค

 

11 ม.ค. 2567 คำเตือนของมาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการกิจการด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติที่ทำงานเป็นผู้ประสานงานด้านการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน ออกมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา คำเตือนของเขาระบุว่า ถ้าหากอิสราเอลยังคงโจมตีกาซาต่อไป ก็เสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งขยายตัวไปออกในวงกว้างกลายเป็นสงครามในระดับภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างรวดเร็ว ซึ่งยูเอ็นประเมินว่าสภาพของกาซาที่เผชิญกับการโจมตีทางอากาศแทบจะตลอดเวลาและเผชิญกับการปิดกั้นการเข้าออกอย่างบีบคั้นนั้นได้กลายเป็นพื้นที่ๆ "อาศัยอยู่ไม่ได้" อีกต่อไป

กริฟฟิธส์แถลงว่า "มีเค้าลางอันตรายคืบคลานเข้ามา ในแง่ที่ว่า สงครามอาจจะทะลักออกไปในระดับภูมิภาคได้" โดยชี้ให้เห็นว่าในกาซาเกิดหายนะด้านมนุษยธรรม บวกกับการที่อิสราเอลโจมตีเวสต์แบงค์ และมีจรวดขีปนาวุธยิงใส่อิสราเอลทำให้เกิดความรู้สึกว่า "ความหวังไม่เคยริบหรี่ขนาดนี้มาก่อน"

กริฟฟิธส์ ผู้ที่เป็นนักการทูตมาเป็นเวลายาวนานพูดถึงสถานการณ์ในกาซาว่าเป็นวิกฤตมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยได้พบเจอ กริฟฟิธส์ออกแถลงการณ์ในครั้งนี้ในช่วงเวลาเดียวกับที่อิสราเอลและสหรัฐฯ มีปฏิบัติการโจมตีในเลบานอนและอิรักที่ส่งผลให้เกิดการสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มติดอาวุธฮามาสและผู้นำกลุ่มติดอาวุธที่อยู่ฝ่ายเดียวกับอิหร่าน

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มฮิชบอลเลาะห์ได้ทำการโต้ตอบอิสราเอล หลังจากที่อิสราเอลโจมตีพวกเขาด้วยโดรนต่อสำนักงานของฮิชบอลเลาะห์ที่กรุงเบรุตเมืองหลวงของเลบานอน ฮิชบอลเลาะห์โต้ตอบด้วยการยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพทางตอนเหนือของอิสราเอล เป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดความกลัวมากยิ่งขึ้นว่าการสู้รบจะยกระดับมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่

ในขณะที่รัฐบาล โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าพวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามในระดับภูมิภาค แต่พวกเขาก็ส่งอาวุธร้ายแรงให้กับอิสราเอลและขัดขวางความพยายามของนานาชาติในการเจรจาหยุดยิง ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่าการเจรจาหยุดยิงนี้มีความจำเป็นในการยุติความขัดแย้งไม่ให้แผ่ขยายออกไป นอกจากนี้ยังมีรายงานระบุว่าสหรัฐฯ กำลังร่างแผนการทิ้งระเบิดใส่เยเมนเพื่อโต้ตอบการที่กลุ่มกบฏฮูตีโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดงด้วย

กลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏอิสลามสุดโต่งนิกายชีอะฮ์ในเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน กล่าวว่า พวกเขาจะหยุดการโจมตีใส่เรือบรรทุกสินค้าที่ทะเลแดงก็ต่อเมื่ออิสราเอลยุติการโจมตีอย่างล้างผลาญต่อฉนวนกาซาแล้วเท่านั้น

กริฟฟืธส์กล่าวเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมาว่าสถานการณ์ในกาซานั้นย่ำแย่อย่างน่าตระหนก มีครอบครัวที่พลัดถิ่นต้อง "นอนอยู่ในที่โล่งท่ามกลางสภาพอากาศที่อุณหภูมิต่ำลง" และสถานพยาบาลที่เหลืออยู่ในพื้นที่ก็ "เผชิญกับการโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน"

กริฟฟิธส์เปิดเผยว่า ในกาซาโรงพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งที่ยังคงพอจะใช้งานได้บางส่วนนั้นก็เต็มไปด้วยเคสคนไข้ฉุกเฉิน และมีปัญหาขาดแคลนอย่างหนัก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยผู้คนที่มาใช้หลบภัย ทั้งนี้ยังมีปัญหาเรื่องโรคระบาดที่กำลังแพร่ไปในหมู่ผู้หลบภัยที่อยู่อย่างแออัดเนื่องจากท่อระบายน้ำทะลักด้วย มีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 180 รายที่คลอดลูกในช่วงที่ยังคงมีเหตุวุ่นวาย ผู้คนจำต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารในระดับสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา และใกล้จะเกิดปัญหาภาวะอดอยาก

กริฟฟิธส์กล่าวอีกว่าปัญหาเหล่านี้กระทบต่อเด็กๆ มากเป็นพิเศษ ในช่วง 12 สัปดาห์ที่ผ่านมามีแต่เรื่องที่สร้างความบอบช้ำต่อเด็ก ทั้งการขาดแคลนอาหาร, การขาดแคลนน้ำ, ไม่ได้ไปโรงเรียน ทุกอย่างรอบตัวไม่มีอะไรเลยนอกจากเสียงของสงครามที่น่าหวาดผวาอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน

พื้นที่กาซาจำนวนมากถูกทำลายราบโดยระเบิดของอิสราเอล ซึ่งมีจำนวนมากได้รับมาจากสหรัฐฯ องค์กรสอดส่องเรื่องสิทธิมนุษยชนยูโร-เมดิเตอร์เรเนียนฮิวแมนไรท์มอนิเตอร์กล่าวว่า มีบ้านเรือนประมาณ 68,000 หลังคาเรือนในกาซาถูกทำลายลงอย่างราบคาบโดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

ยูโร-เมดิเตอร์เรเนียนฮิวแมนไรท์มอนิเตอร์ประเมินว่านับตั้งแต่ที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีกาซาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 เป็นต้นมา ก็ส่งผลให้มีประชาชนถูกสังหารหรือหายสาปสูญมากกว่า 90,000 ราย คิดเป็นประชากรร้อยละ 4 ของกาซา

กริฟฟิธส์กล่าวว่า "มันถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องทำตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายนานาชาติ เช่นการปกป้องพลเรือนและทำให้พวกเขาเข้าถึงปัจจัยความต้องการพื้นฐานได้ รวมถึงให้มีการปล่อยตัวประกันโดยทันที ... มันถึงเวลาแล้วสำหรับประชาคมนานาชาติที่จะใช้อิทธิพลของพวกเขาในการทำให้เรืองนี้เกิดขึ้น สงครามนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรก แต่ในตอนนี้มันเกินเวลาที่จะจบสิ้นมานานแล้ว"

 

 

เรียบเรียงจาก

UN Relief Chief Says All-Out War Is 'Looming Dangerously Close', Common Dreams, 06-01-2024
https://www.commondreams.org/news/un-relief-chief-war

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net