Skip to main content
sharethis

กมธ.สันติภาพชายแดนภาคใต้ฯ ลงพื้นที่ปัตตานี ชี้มีเส้นบางๆ ระหว่างการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดสันติสุขหรือเพิ่มเงื่อนไขความขัดแย้ง ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 ยันดำเนินคดีนักกิจกรรมเป็นไปตามพยานหลักฐาน เชื่อการพูดคุยสันติสุขมีแนวโน้มที่ดี ส่วนประธาน The Patani ชี้ กอ.รมน.ภาค 4 มีส่วนสำคัญต่อการพูดคุย แต่การฟ้องนักกิจกรรมมันย้อนแย้งกับการแสวงหาสันติภาพ

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2567 ที่โรงแรมซีเอส จ.ปัตตานี นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการพบปะกับ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค4) และ พล.ต.ต.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และคณะ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการพูดคุยสันติภาพและการแก้ปัญหาความขัดแย้งจากผู้รับผิดชอบด้านความมั่นคงในพื้นที่โดยตรง ทำให้เห็นขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจนต่อไปแต่อาจมีความเหลื่อมกันอยู่บ้าง แต่เห็นแผนงานตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งจะพยายามหารือให้การทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน

นายจาตุรนต์ เปิดเผยว่า มีการหารือที่สำคัญคือการสร้างสภาวะแวดล้อม การหารือสาธารณะ การเปิดพื้นที่ทางการเมือง ทางคณะกรรมาธิการมีข้อห่วงใยเกี่ยวกับเยาวชน นักกิจกรรม นักศึกษาต้องการพื้นที่ทางการเมือง ต้องการเสนอความคิดเห็น การช่วยทำให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ซึ่งเขาห่วงว่าจะถูกบังคับใช้กฎหมายเกินกว่าเหตุ ซึ่งคณะพูดคุยสันติสุข แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมจะรับฟังเสียงสะท้อน ความเห็นของคณะกรรมาธิการ

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เข้าใจดีว่าเจ้าหน้าที่ต้องทำตามหน้าที่เป็นผู้รักษากฎหมาย เมื่อพบพยานหลักฐานก็ทำตามหน้าที่ แต่กำลังชวนกันคิดว่า การบังคับใช้กฎหมายต่างๆ นั้นก็เพื่อต้องการให้เกิดสันติสุข

“มีเส้นบาง ๆ แบ่งระหว่างการบังคับใช้กฎหมายแล้วทำให้ลดการก่อความไม่สงบ กับการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องเดียวกัน กลายเป็นเงื่อนไขความไม่พอใจและเกิดความไม่สงบ จึงเป็นเรื่องดีที่พบกัน มีแนวโน้มที่ดีไปหารือกันต่อไป เพื่อทำให้เกิดสันติสุข ความเป็นธรรม และมีส่วนร่วม เพราะคณะพูดคุยก็ต้องเปิดพื้นที่สาธารณะ ทางนักกิจกรรมและนักศึกษาก็ต้องการพื้นที่สาธารณะด้วย แต่คนละคลื่นความถี่กัน จึงต้องหารือเพื่อเปิดพื้นที่สาธารณะให้มากขึ้น"

ขณะ พล.ท. ศานติ สกุลนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ ในพื้นที่ หลังจากที่คณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลมาหลายส่วนแล้ว วันนี้มีแนวโน้มที่ดีที่จะปรับเข้าหากัน เราเข้าใจดีว่าทุกคนมีเป้าหมายเพื่อจะให้เกิดสันติสุข สิ่งไหนที่เราจะนำไปปรับปรุงแก้ไขก็เป็นหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะไปดำเนินการ รวมถึงคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขที่จะมีการพูดคุยกันเร็วๆนี้ ก็มีแนวโน้มที่ดี

ส่วนการดำเนินคดีกับนักกิจกรรมนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่า ทำไปตามพยานหลักฐานที่มี ตามหลักกฎหมาย ถ้าบริสุทธิ์ก็ให้นำพยานหลักฐานมาพิสูจน์กันในทางกระบวนการยุติธรรมและในศาล และเชื่อว่าเมื่อทำความเข้าใจกันแล้วก็จะน่าจะทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันอีกครั้ง

ประธาน The Patani ชี้ กอ.รมน.ภาค 4 มีส่วนสำคัญต่อการพูดคุย แต่การฟ้องนักกิจกรรมมันย้อนแย้งกับการแสวงหาสันติภาพ

ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญ กลุ่มนักกิจกรรมในพื้นที่ที่ถูกฟ้องคดีปิดปาก หรือ คดี SLAPP เข้ามาพูดคุยและรับฟังข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาในพื้นที่ด้วย ประกอบด้วยกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีกรณีแย่งศพ กรณีการชุมนุมทางวัฒนธรรมมลายู กลุ่มพ่อบ้านใจกล้า และกลุ่มที่ทำประชามติจำลอง 

 โดยนายอาเต็ฟ โซ๊ะโก ประธาน The Patani ให้สัมภาษณ์หลังจากการพูดคุยดังกล่าวกรณีการฟ้องนักกิจกรรมในพื้นที่ว่า การที่รัฐเลือกใช้กระบวนการสันติภาพในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการสันติภาพจริงๆ หรือเลือกไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำให้การต่อสู้ทางการเมืองของฝ่ายตรงข้ามไปต่อไม่ได้

โดยฝ่ายรัฐอาจประเมินว่าการต่อสู้ด้วยกำลังสามารถที่จะควบคุมทุกอย่างได้ เพราะฉะนั้นอีกเส้นทางหนึ่งก็คือการบีบให้พี่น้องประชาชนไม่สามารถส่งเสียงอะไรมากไปกว่านี้ได้ จึงมีการฟ้องร้องดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งคณะกรรมาธิการจะรวบรวมข้อเสนอของพวกเราเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายอาเต็ฟ เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของคดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนซึ่งเราจะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ให้เวลาพวกเราพอสมควรในการที่จะรวบรวมพยานหลักฐานหรืออ้างอิงบุคคลใด ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เดินทางไปพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

“คดีนี้สามารถที่จะถอนฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องก็ได้ขึ้นอยู่กับแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นคนที่มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มาแจ้งความดำเนินคดีพวกเรา”

นายอาเต็ฟ กล่าวว่า ในคณะพูดคุยสันติสุขก็มีตัวแทนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) อยู่แล้วก็คงต้องไปถามว่าเขามีความเข้าใจเรื่องการสร้างสันติภาพหรือสันติสุขอย่างไร ซึ่งกอ.รมน.ภาค 4 สน.ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้การพูดคุยระหว่างทั้งสองฝ่าย สามารถคลี่คลายความขัดแย้งได้ 

“แต่ในการหาทางออกทางการเมืองจะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าการแสดงออกทางการเมืองที่มีความชัดเจนว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธทำให้ถูกฟ้องร้องขึ้นมา นี่มันย้อนแย้งกับการแสวงหาสันติภาพและกระบวนการพูดคุย” นายอาเต็ฟ กล่าว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net