Skip to main content
sharethis

ตร.อ้างภาพกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานจับ “เป้” นักข่าวประชาไท และ “ยา” ช่างภาพสเปซบาร์ กล่าวหาว่าร่วมวางแผน ทั้งสองคนยืนยันก็แค่ได้รับแจ้งหมายข่าวก็ไปทำข่าวตามปกติ “ยา” แจงคุยกับแหล่งข่าวเพื่อหาข่าวก็เป็นการทำงานตามปกตินักข่าว

1 ในชุดภาพที่ตำรวจอ้างว่าเป็นภาพจากกล้อง CCTV บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งปรากฏอยู่ในรายงานข่าวของรายการ “ข่าวเที่ยงเนชั่น” และ เพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ภาพจากเพจ กรรมกรข่าว

13 ก.พ.2567 รายการ “ข่าวเที่ยงเนชั่น” ที่เผยแพร่ทางช่องยูทูป Nation STORY(ปัจจุบันเทปถูกตั้งเป็นส่วนตัว) และเพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานตรงกันถึงการเปิดหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดของตำรวจที่อ้างใช้เป็นหลักฐานการจับกุม ณัฐพล เมฆโสภณ หรือเป้ นักข่าวประชาไทและณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ หรือ ยา ช่างภาพของสเปซบาร์จากเหตุไปทำข่าวนักกิจกรรมพ่นสีกำแพงวัง

ผู้ในรายงานของทั้งสองแห่งระบุว่า ทางตำรวจได้เปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดการกระทำที่นำไปสู่การออกหมายจับ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังอ้างว่ามีเบื้องหลัง พยานและหลักฐานก่อนเข้าจับกุมดำเนินคดีณัฐพล เมฆโสภณ หรือว่าเป้ ผู้สื่อข่าวประชาไทตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 22 พ.ค.2566 ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนทำให้โบราณสถานเสียหายจากการขีดเขียนข้อความ พ่นข้อความคัดค้านมาตรา 112 ที่กำแพงวัดพระแก้ว

ในรายงานข่าวระบุอีกว่า หลักฐานของตำรวจเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งยืนยันว่าณัฐพล เมฆโสภณที่อ้างว่าทำหน้าที่สื่อนั้นแท้ที่จริงแล้วได้ร่วมประชุมวางแผนกับกลุ่มผู้ก่อเหตุพ่นสีกำแพงวัดพระแก้วตั้งแต่ก่อนก่อเหตุ 1 วัน หลักฐานกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเย็นถึงค่ำก่อนเกิดเหตุพ่นสี ณัฐพลกับพวกที่มีบางคนร่วมกันก่อเหตุพ่นสีวัดพระแก้วได้ไปหารือวางแผนและสำรวจสถานที่ก่อเหตุที่หน้าศาลฎีกาสนามหลวง

รายงานข่าวระบุต่อไปว่า จากนั้นในวันเกิดเหตุคนกลุ่มเดิมก็ไปรวมตัวกันในเวลา 16.00 น. กระทั่งเวลา 14.00-18.00 น. ทุกคนเข้าประจำจุดแล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ระหว่างที่ศุทธวีร์ผู้ต้องหาที่พ่นสี ก็ดำเนินการก่อเหตุ ณัฐพลมีหน้าที่ถ่ายภาพ ส่วนเพื่อนร่วมกลุ่มอีกคนที่เป็นผู้หญิงทำหน้าที่ไลฟ์สด อีกคนหนึ่งเป็นชายทำหน้าที่ถ่ายวิดีโอเพื่อนร่วมกลุ่มอีกคนหนึ่งทำหน้าที่ถ่ายภาพนิ่งและสุดท้ายก็คือตะวันเป็นคนกระจายคลิปและภาพต่างๆ ลงสื่อสังคมออนไลน์ ภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้เห็นว่าณัฐพลได้เข้าที่เกิดเหตุก่อน ก่อนที่จะมีการก่อเหตุและมีพฤติกรรมรอถ่ายภาพให้ศุทธวีร์เตรียมดำเนินการและกำลังดำเนินการ ถ้าไม่ทราบแผนมาก่อนก็จะไม่สามารถนำอุปกรณ์มาถือรอถ่ายภาพขณะเกิดเหตุได้ และยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดในเรื่องของการนัดพบปะกันของคนกลุ่มนี้ล่วงหน้าด้วย

นักข่าวก็ต้องคุยกับแหล่งข่าวเป็นปกติ

จากรายงานของ The Reporters และในเพจกรรมการข่าวมีการรายงานการให้สัมภาษณ์ของเป้(ณัฐพล เมฆโสภณ) และ ยา (ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์) ได้รับการปล่อยตัวจากศาล ได้ให้สัมภาษณ์ตอบสื่อมวลชนที่รอทำข่าวต่อกรณีที่ตำรวจอ้างหลักฐานกล้องวงจรปิดเพื่อจับกุมพวกเขา

ยาให้สัมภาษณ์ก่อนว่าตนได้เจอนักกิจกรรมที่มาพ่นสีระหว่างกิจกรรม “ยืน หยุดขัง” ที่หน้าศาลฎีกา แต่จำไม่ได้ว่าก่อนเหตุการณ์พ่นสีกี่วัน แต่การพูดคุยกับแหล่งข่าวก็เป็นเรื่องปกติ เป็นการหาข่าว ไม่ได้เป็นหลักฐานที่จะยืนยันได้ว่าเป็นพวกเดียวกัน ส่วนเรื่องที่ทราบว่ามีกิจกรรมนี้ก็เนื่องจากเป้แจ้งมา

ทั้งนี้ยายังตอบคำถามนักข่าวเรื่องผู้ก่อเหตุแจ้งล่วงหน้าหรือไม่ด้วยว่า ตนทราบก่อนเกิดการทำกิจกรรมเพียง 10 นาที และตนก็เพียงแค่ไปรายงานสถานการณ์บันทึกภาพ ไม่ได้ขัดขวางการปฏิบัติของตำรวจ และไม่ได้นัดแนะปรึกษากัน ส่วนหลักฐานสู้คดีก็ต้องดูหลักฐานที่ตำรวจนำมาใช้กล่าวหาตนก่อน แต่ไม่น่าจะมีเพราะไม่ได้มีการนัดกันจริงๆ

เป้ กล่าวตอบคำถามสื่อว่า ตนยืนยันว่าวันนั้นเป็นเพียงการไปทำข่าวไม่ได้มีส่วนรวมกับกิจกรรม เป็นการนำเสนอไปว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นและเขายืนยันว่าไม่มีการชี้นำหรือส่งเสริมการกระทำความผิด เพราะนักข่าวจะมีการกระทำแบบนี้ไม่ได้ และที่เขาไปเพราะได้รับแจ้งหมายข่าวมาก็ไปทำงานตามปกติที่สามารถเลือกได้ว่าจะไปหรือไม่ไปทำข่าวนั้น ส่วนหลักฐานกล้องวงจรปิดที่อ้างว่ามีการนัดแนะกัน ก็ไม่สามารถตีความได้มากขนาดนั้นว่าเขาเกี่ยวข้องกับการทำกิจกรรมได้ และเขาก็รู้แค่ว่าจะมีการจัดกิจกรรมโดยไม่ได้ทราบรายละเอียด จากนี้ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

“ผมก็คงจะทำงานเหมือนเดิมก็คงไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วก็คนที่อยู่หน้างานก็น่าจะได้เจอผมเหมือนเดิมในที่ชุมนุม การเป็นนักข่าวก็คงไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้” เป้กล่าวตอบคำถามถึงเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบการทำงานหรือไม่ ส่วนเรื่องจะทบทวนการทำงานหรือไม่นั้นก็คงต้องคุยกับกองบรรณาธิการก่อน

เป้ยังตอบคำถามนักข่าวถึงเรื่องที่เขาถูกแยกขังที่ สน.ฉลองกรุงด้วยว่า ก็รู้สึกเหงานิดหน่อยและไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแยกขังไกลขนาดนั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็อ้างเพียงเรื่องว่าจะมีคนตามมา

ทั้งนี้เมื่อมีผู้สื่อข่าวขอให้ฝากถึงองค์กรวิชาชีพสื่อและกล่าวถึงสถานการณ์เสรีภาพสื่อในไทย เป้ตอบว่าไม่ได้มีอะไรจากฝากถึง ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมผิดก็ว่าตามผิดถูกก็ว่าตามถูก ส่วนเรื่องเสรีภาพก็ขอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นคนให้คำตอบแทน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net