ศาลอุทธรณ์ลงโทษ “อาร์ม” คดีม.112 จากคลิปหยอกแมวจำคุก 3 ปี สารภาพเหลือ 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงโทษยกเหตุเพื่อให้หลาบจำและไม่ให้คนอื่นเอาเยี่ยงอย่าง จากที่ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นเคยรอลงโทษไว้ 2 ปี เพื่อให้ปรับปรุงตัว
26 มี.ค.2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า วันนี้ที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชรนัดอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นอุทธรณ์คดีของ อาร์ม (สงวนชื่อสกุล) อายุ 22 ปี พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในเกาพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ในคดีที่อัยการฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากการเผยแพร่วิดีโอในแอพพลิเคชั่น TikTok
ด่วน! ศาลจังหวัดกำแพงเพชรอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดี #ม112 ของ "อาร์ม" หนุ่มจากเกาะพะงัน กรณีเผยแพร่คลิปใน Tiktok พูดคุยหยอกกับแมว
— TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (@TLHR2014) March 26, 2024
คดีนี้ เดิมศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี แต่อัยการอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาให้แก้เป็น #ไม่รอลงอาญา… pic.twitter.com/c3zC7aPhle
คดีนี้มีพุทธ พุทธัสสะ ชาวจังหวัดกำแพงเพชร เป็นผู้แจ้งแจ้งความดำเนินคดีกับอาร์มเนื่องจากเห็นว่าสิ่งที่อาร์มพูดในคลิประหว่างหยอกล้อกับแมวเมื่อ 13 ต.ค.2564 เป็นการหมิ่นประมาทกษัตริย์เพราะเป็นการจาบจ้วงหมิ่นประมาท ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ทำให้รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน เสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษอาร์มตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษ 3 ปี แต่เนื่องจากอาร์มสารภาพให้ลด 1 ปี 6 เดือน แต่ศาลอุทธรณ์ได้แก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้ลงโทษอาร์มโดยไม่รอลงอาญาแทน โดยศาลอุทธรณระบุเหตุผลว่าเพื่อให้จำเลยหลาบจำและไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น
ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันตัวชั้นฎีกาอยู่
10.45 น. ศาลจังหวัดกำแพงเพชรอนุญาตให้ประกันตัว "อาร์ม" ระหว่างฎีกาคำพิพากษา โดยให้วางหลักทรัพย์ประกัน 1.5 แสนบาท ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์
ก่อนหน้านี้ในศาลชั้นต้นเคยมีคำพิพากษาเมื่อ 8 ส.ค.2566 ให้ลงโทษอาร์มโดยให้เหตุผลในการพิพากษาลงโทษเอาไว้ว่าจำเลยกระทำไปด้วยความคะนึกคะนอง ทำให้ขาดการนึกคิด ขาดการยับยั้งชั่งใจ ไม่ได้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ประกอบกับจำเลยมีอาชีพและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงอาจไม่เกิดผลดีต่อสังคมหากจำคุกจำเลยไว้ จึงเห็นควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ มีกำหนด 2 ปี และให้คุมประพฤติ 1 ปี ให้ไปรายงานตัวกับเจ้าพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว และให้ทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์เป็นระยะเวลา 12 ชั่วโมง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)