Skip to main content
sharethis

11 พ.ย. 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการแต่งตั้งทหารเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ซึ่งถูกมองว่าเป็นการแบ่งผลประโยชน์กันในขณะนี้ว่า อย่าไปมองเช่นนั้น ทุกองค์กรต้องมีความเป็นธรรม และต้องไม่มีการโกงกิน หรือคอร์รัปชั่น


 


เพราะฉะนั้นทุกองค์กรจึงต้องประกอบด้วยคนที่หลากหลายสาขาอาชีพเข้าไปทำงาน เพราะถ้าเอาคนกลุ่มเดียวกันต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน จึงเฉลี่ยกันลงไปเพื่อคานซึ่งกันและกัน เป็นการใช้ความหลากหลายมาตรวจสอบกันเอง ในส่วนของทหารก็ทำหน้าที่ในการเฝ้าระวัง เพราะทหารมีหน้าที่เรื่องความมั่นคงอยู่แล้ว ทั้งนี้ ทุกเรื่องเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ไม่ได้มีเฉพาะการสื่อสาร หรือการโทรคมนาคมเท่านั้น


 


ส่วนกรณีที่ทหารอาจถูกมองว่าไม่มีความรู้ลึกซึ้งในเรื่องเหล่านี้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า คนเราใช้ประสบการณ์ ประสบการณ์ทันกันหมด ไม่มีอะไรที่ศึกษาไม่ได้ และแม้ว่ากระแสดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ คมช. ค่อนข้างมาก แต่ คมช. ต้องมั่นคงกับสิ่งที่พิจารณาแล้วว่าอะไรควรจะเป็น เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ


 


"บิ๊กจิ๋ว" ติงทหารไม่ควรยุ่งเกี่ยวธุรกิจ-แนะโยกย้ายข้าราชการต้องยึดหลักกติกาและความถูกต้อง


ด้าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะมีความเป็นห่วงประเทศชาติบ้านเมือง ขณะเดียวกันทุกคนก็เป็นกำลังใจให้คมช.ทำงานบรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาของชาติที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ประชาชนเริ่มจับตามองว่าการปฏิวัติของคมช.เพื่อต้องการสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้องนั้น เป็นเรื่องที่ คมช.จะต้องเร่งแก้ไขว่ามีสิ่งใดที่ทำให้ประชาชนมองเห็นเป็นเรื่องอย่างนั้น


 



"เช่นเวลานี้ผมได้ข่าวมาว่า ได้มีการแต่งตั้งนายทหารเข้าไปดำรงตำแหน่งในบอร์ดของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเกือบหมด ถ้าสิ่งที่ผมได้รับรู้มาเป็นจริงตามที่มีข่าวออกมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดี เรื่องไหนที่ คมช.รู้ว่าไม่ดี ก็ควรจะต้องเร่งแก้ไข เพราะเรื่องที่คมช.มอง อาจจะมองภาพที่เกิดขึ้นไปเพียงด้านเดียว และมีความเป็นห่วงเรื่องนั้นเรื่องนี้ เรื่องนี้ทุกคนให้อภัยกันได้ หากมีการทำความเข้าใจให้ตรงกัน"


 


"สำหรับผมมองว่าทหารไม่ใช่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญไปเสียทุกเรื่อง ลักษณะนิสัยก็มีนิสัยหัวชนฝา เอาแต่งานเป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่มาชื่นชมทหารว่าดีไปหมดทุกคน โดยตรงนี้คือความห่วงใยของผมและทุกๆ คน มีความเป็นห่วงคนที่รับงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จะต้องระมัดระวังตัวให้ดี สำหรับผม หากจะถามถึงเรื่องนี้บอกได้อย่างเดียวว่า ทหารที่ผมเห็นนั้น ส่วนใหญ่จะทำงานหัวชนข้างฝาอย่างเดียว และไม่ค่อยรู้เรื่องการทำมาหากินอะไรกับใคร ทหารส่วนใหญ่จะเป็นคนจน ไปเทียบกับคนอื่นก็สู้เขาไม่ค่อยจะได้อยู่แล้ว"


 



ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ยังยอมรับว่าทหารไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจ "ใช่  เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะหากอยากจะเรียนรู้กันจริง ก็สามารถตั้งโรงเรียนขึ้นมาเรียนกันเองได้ อย่างไรก็รีบปรับแก้กันเสีย" เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ภาพที่เกิดขึ้นทหารถูกมองว่าการไปหาผลประโยชน์เพื่อตัวเองนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อาจจะไม่ใช่ตามที่เข้าใจกันก็ได้ มองว่าอาจจะต้องการเข้าไปดูแลว่ามีปัญหาอะไร หรืออะไรจะต้องเข้าไปปรับแก้หรือไม่ หรืออาจจะซื่อ ที่ต้องการเข้าไปผลักดัน ทำให้มันดีขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เราควรจะต้องเข้าใจเขาบ้าง


 


พล.อ.ชวลิต ยังเตือนถึงการโยกย้ายข้าราชการ โดยเน้นให้ยึดหลักที่ถูกต้องและสร้างความสมานฉันท์ด้วยว่า หลักสำคัญในการทำเรื่องนี้ จะต้องยึดกติกาและความถูกต้องเป็นหลัก เช่น อย่าให้มีความรู้สึกว่ารัฐบาลรุ่น 10 มาก็เอาแต่รุ่น 10 ขึ้นมา นี่เป็นตัวอย่าง ให้ฟังรุ่นอื่น กูไม่รู้ มึงไปก่อน เอารุ่น 10 ก่อน พอรัฐบาลรุ่น 6 มา ก็เอาแต่รุ่น 6 ก็เอารุ่นอื่นไป เอารุ่น 6 มา


 


เรื่องอย่างนี้มันไม่ถูกต้องด้วยเหตุและผล และความชอบธรรม เราจำเป็นจะต้องรักษาความชอบธรรมและความถูกต้อง เช่น เรายกเลิกกันทันทีได้หรือไม่ในการโยกย้ายตำรวจ ทหาร และราชการ วันนี้เรามาใช้กติกาหรือเอาซอฟต์แวร์ที่ต่างประเทศปฏิบัติกันมาใช้กันจะดีไหม โดยยึดเอาความรู้ความสามารถมาเป็นตัวกำหนด ไม่ใช่ทุกอย่างไปอยู่ที่นายคนเดียว เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ทำให้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net