Skip to main content
sharethis



ประชาไท - 24 ม.ค.49  นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 26 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการชี้แจงข้อมูลให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศในหัวข้อ "การสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาประเทศไทย" ซึ่งมีมูลค่าว่า 1.7 ล้านล้านบาท


 


โดยใช้รูปแบบการรับเหมาก่อสร้างในโครงการโมเดิร์นไนเซชั่น ซึ่งไม่ได้ยึดรูปแบบการประมูลด้วยระบบอี-ออคชั่น แต่จะเปิดกว้างให้นักลงทุนแต่ละรายเสนอเงื่อนไขพิเศษต่อรัฐบาล ซึ่งอาจจะเสนอเงินลงทุนก่อสร้างเกิน 1.7 ล้านล้านบาทก็ได้ แต่โครงการซึ่งเริ่มก่อสร้างในช่วงสุดท้ายจะต้องถูกตัดออกไป เพื่อไม่ให้หนี้สาธารณะของประเทศเกินร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)


 


สำหรับเงื่อนไขที่ให้นักลงทุนยื่นข้อเสนอในครั้งนี้จะไม่มีการร่วมลงทุนหรือรับสัมปทานภายใน 2 - 3 ปี แต่จะเป็นการให้รับจ้างทำการก่อสร้าง และเงื่อนไขก่อสร้างเอกชนอาจจะลงทุนด้วยตัวเองก่อน หรือให้รัฐบาลจัดงบประมาณก่อสร้างแล้วทยอยร่วมด้วย จากนั้นรัฐบาลจะทยอยชำระคืนให้แล้วแต่เอกชนจะเสนอมา โดยทุกหน่วยงานได้มีราคากลางอยู่ในใจแล้ว แต่จะไม่เปิดเผย


 


เบื้องต้น มีนักลงทุนต่างชาติลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านกระทรวงต่างประเทศแล้ว 998 คน เช่น โครงสร้างพื้นฐานในการก่อสร้าง 313 คน ทรัพยากรธรรมชาติ 200 คน เมื่อร่วมกับคณะรัฐมนตรีและภาคเอกชนไทยจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด 1,298 คน และทั้ง 11 กระทรวงได้เตรียมชี้แจงข้อมูลให้แก่นักลงทุนเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชน ระบบราง มอเตอร์เวย์ของกระทรวงคมนาคมที่ใช้เงินลงทุนสูง


 


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า หลังจากรับฟังข้อมูลแล้วจะให้นักลงทุนเสนอเงื่อนไขการก่อสร้างเพื่อให้คณะกรรมการบริหารและกำกับดูแลโครงการลงทุนพิเศษของรัฐ ซึ่งเป็นคณะกรรมการของกระทรวงต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการนโยบายโครงการลงทุนพิเศษของรัฐ หรือ กนค. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณา โดยเปิดเผยและถ่ายทอดทางวิทยุ โทรทัศน์ มีการเชิญผู้เสนอราคามาชี้แจง และจะเชิญนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญมาให้ความเห็น จนเมื่อได้ข้อสรุปก็จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป


 


ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดทำร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยโครงการพิเศษภาครัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะนำมารองรับการเปิดประมูลนานาชาติช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ว่า ล่าสุดเรื่องดังกล่าว ครม.ยังเห็นควรให้มีการปรับเปลี่ยนระเบียบบางประการที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ เช่น เรื่องของเทคนิคและการชำระเงิน ซึ่งรัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนเป็นผู้เลือกว่าจะให้ชำระด้วยเงินสดหรือแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรหรือบราเตอร์เทรด


 


         


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net