Skip to main content
sharethis


อุณหภูมิเชียงใหม่ในตอนกลางวันช่วงนี้ยังคงอบอ้าว เร่าร้อนอยู่ในระดับ 33 องศาเซนเซียส ในขณะที่อุณหภูมิทางการเมืองที่เชียงใหม่หลังการประกาศยุบสภาก็ยังคงเร่าร้อนไม่แพ้กัน ยิ่งในวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา จะมองเห็นบรรยากาศของความขัดแย้ง การแบ่งขั้วกันอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างกลุ่มผู้ต่อต้านทักษิณ และไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่หลั่งไหลทยอยกันเข้าสู่สนามกีฬากลาง 700 ปีกันอย่างเนืองแน่น เหมือนกับว่าเป็นกลุ่มเชียร์ทีมปีศาจแดงอย่างไรอย่างนั้น


 


นักวิชาการ ร่วมกันถก"วิกฤตการเมืองไทย :


ทางเลือกของทักษิณ ทางรอดของประชาธิปไตย"


เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์สตรีศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีกลุ่มนักวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน  อาทิ รศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง ศ.ดร.อานันท์ กาญจนพันธ์ รศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ์ รศ.สมเกียรติ ตั้งนะโม ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ เอกมล สายจันทร์ อาจารย์ ฉลาดชาย รมิตานนท์ รศ.วิระดา สมสวัสดิ์ อาจารย์ ไพสิฐ พาณิชย์กุล ทพ.อุทัยวรรณ กาญจนกมล อาจารย์ ชัชวาล บุญปัน และ ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี เข้าร่วมเสวนา


 


เป็นการรวมตัวกันในนาม "เครือข่ายวิชาการเพื่อประชาธิปไตย (เชียงใหม่) เพื่อร่วมกันถกเสวนาในหัวข้อ "วิกฤตการเมืองไทย: ทางเลือกของทักษิณ ทางรอดของประชาธิปไตย"โดยได้ย้ำว่า การเสวนาในครั้งนี้ เพื่อช่วยให้การทำความเข้าใจ สถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงทุกขณะ


ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3  แสดงจุดยืนหลังการยุบสภาฯ


หลังการเสวนา "เครือข่ายวิชาการเพื่อประชาธิปไตย(เชียงใหม่) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ เพื่อแสดงจุดยืนหลังการยุบสภาฯ ว่า ตามที่ พตท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ใช้วิธีการยุบสภาฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประชาชนกับนายกรัฐมนตรี แทนที่จะลาออกตามการเรียกร้องของประชาชน และรัฐบาลจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 เมษายน 2549 นั้น


 


โดยความเห็นของที่ประชุมเครือข่ายวิชาการเพื่อประชาธิปไตย (เชียงใหม่) ได้แสดงจุดยืนดังต่อไปนี้
1.
การเลือกตั้งเป็นกระบวนการหนึ่ง ในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนในทางการเมือง เช่นเดียวกับการชุมนุม การอภิปราย และอื่นๆ มิได้มีความหมายว่าบุคคลที่กระทำความผิดใดๆ หากได้รับเลือกตั้งแล้วก็จะมีความบริสุทธิ์ในทันที ดังนั้นข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นกับนายกฯ ในขณะนี้ก่อให้เกิดความสงสัยในความชอบธรรมของตัวนายกฯ ที่ถึงแม้จะได้รับการเลือกตั้งกลับมา หากมิได้มีการตรวจสอบเกิดขึ้น นายกฯก็ยังคงปราศจากความชอบธรรมในการทำหน้าที่ทางการเมืองเช่นเดิม



2.
ขอให้มีการเลื่อนวันเลือกตั้ง เพราะการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปเป็นวันที่ 2 เมษายน 2549 นั้น เป็นการบีบบังคับประชาชนให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในระยะเวลากระชั้นชิด ไม่มีเวลาเพียงพอในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และการนำเสนอปัญหา และความต้องการของประชาชน และแม้กระทั่งพรรคการเมืองอื่นๆ ก็ยังปฏิเสธการเข้าร่วมการเลือกตั้ง เพราะถูกพรรครัฐบาลเอารัดเอาเปรียบ จึงเสนอให้มีการขยายเวลาการเลือกตั้งไปเท่ากับที่กฎหมายกำหนดคือ ระยะเวลา 60 วัน



3.
ต้องมีองค์กรที่ประกอบด้วยบุคคลที่น่าเชื่อถือจำนวนหนึ่ง ทำการไต่สวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของประชาชนที่มีต่อนายกรัฐมนตรี พตท.ทักษิณ ชิตวัตร ในเรื่องความไม่โปร่งใสในการบริหารประเทศ และมีพฤติกรรมที่เอื้ออำนวยต่อผลประโยชน์ของครอบครัว และพวกพ้อง ถ้าหากรัฐไม่ดำเนินการ ขอสนับสนุนให้สถาบันทางการศึกษาต่างๆ จัดให้มีองค์กรตรวจสอบภาคประชาชนดำเนินการไต่สวน เพื่อให้มีแต่ผู้นำประเทศที่มือสะอาด


 


เครือข่ายวิชาการเพื่อประชาธิปไตย (เชียงใหม่) ขอย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆที่จะเกิดขึ้น ต้องเป็นไปตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยโดยขอปฏิเสธ และต่อต้านอำนาจนอกระบบทุกรูปแบบ ที่จะเข้ามามีอำนาจทางการเมืองชั่วคราวไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ

 
รวมพลคนเสื้อแดงนับหมื่นเต็มสนามกีฬา 700 ปี เชียร์ทักษิณ



ในขณะเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บริเวณภายในสนามฟุตบอล ของสนามกีฬาสมโภชน์ 700 ปี จ.เชียงใหม่ ก็ได้มีกลุ่มผู้นำท้องถิ่นและประชาชนในเขตอำเภอต่างๆ ของ จ.เชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงได้เดินทางมาร่วมชุมนุม สนับสนุนนายกฯ นับหมื่นคน โดยทุกคนจะสวมเสื้อสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

โดยผู้สื่อข่าว ของ www.chiangmai108.com ได้รายงานพร้อมรูปเหตุการณ์ภายในสนามกีฬา 700 ปี ว่า ได้มี ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย ทั้งในเขตเชียงใหม่ และจากจังหวัดอื่นๆ ขึ้นมาปราศรัยเพื่อสนับสนุน กันเป็นระยะ รวมทั้งมีการไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากพระธาตุดอยสุเทพด้วย


 


ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการนำป้ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และยังป้ายผ้าที่กล่าวหาโจมตี นายสินธิ ลิ้มทองกุล และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ให้เห็นด้วย


 


ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น "ไทยนิวส์" ได้รายงานว่า นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ สมาชิกระดับนำของไทยรักไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นายกฯจะส่งผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นคนเดิมลง ส.ส.เขตเลือกตั้ง โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางเขตบางคนบ้าง ส่วนความศรัทธาของประชาชนนั้น มั่นใจว่าจะมีเหมือนเดิม เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีการหยั่งเสียงดูแล้วว่าจะชุมนุมใหญ่ต่อต้านกลุ่มที่มาขับไล่ ปรากฏมีประชาชนแสดงความจำนงมากเกินคาด


 


เผยเกณฑ์ชาวเขาชุมนุมเชียร์ "แม้ว"


ในขณะที่ ผู้สื่อข่าวผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า มีชาวบ้านผู้หวังดีมาแจ้งให้ทราบว่า พบกลุ่มคนมาจ้างพวกไทใหญ่และชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง ถูกจ้างให้ใส่เสื้อสีแดงและไปชุมนุมที่สนามกีฬา 700 ปี โดยให้ค่าหัวคนละ 300 บาท ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวเชื่อและยอมไปร่วมชุมนุม แต่เมื่อไปถึงกลับได้เงินแค่คนละ 60 บาท อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านเชื่อกันว่า พวกที่มาจ้างให้ไปนั้นเก็บเงินที่เหลือไว้เองและแบ่งส่วนเพียงแค่ 60 มาให้ผู้ที่หลงเชื่อไปชุมนุม



และเมื่อเปิดดูเวบไซต์ของ www.chiangmai108.com ได้มีผู้เข้าชมเว็บแสดงความคิดเห็นว่า "มันจ้างมาทั้งนั้นแหละ ส่วนที่พวกมาโดยสมัครใจก็มีแต่พวกหน้า....ทั้งนั้น" ซึ่งก็มีการโต้ตอบกันว่า "คนข้างบนนี้ดูถูกชาวเชียงใหม่แต้ๆ ฮาก็ไปฮาไปด้วยใจ๋ลองไปผ่อแหละ" และอีกคนหนึ่งได้แสดงความเห็นเอาไว้ว่า "เมื่อไหร่คนจะตื่นจะภวังค์ซะที...ว่าบางครั้ง เงินก็ไม่ใช่พระเจ้าเสมอไป"


 


 


"กลุ่มคนฮักทักษิณ"ออกแถลงการณ์โต้กลุ่มเคลื่อนไหวไล่ทักษิณ


หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น"ไทยนิวส์" ยังรายงานอีกว่า อย่างไรก็ตาม ได้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มใหม่ในเชียงใหม่ชื่อ "เครือข่ายประชาชนต่อต้านกลุ่มสร้างความไม่สงบในชาติ จ.เชียงใหม่" โดยเปิดตัวและออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 วันที่ 24 ก.พ. แจกจ่ายถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่


 


ใจความสรุปว่า ตามที่ปรากฏความเคลื่อนไหวของกลุ่มโจมตีรัฐบาลและสร้างความไม่สงบในบ้านเมือง ตั้งแต่ 11 ก.พ. 49 เป็นต้นมา และนัดชุมนุมใหญ่ 26 ก.พ.นั้น พวกเราในนามกลุ่มประชาชนผู้รักความสงบสุขในชาติบ้านเมือง ประกอบไปด้วยคนหนุ่มสาวในวัยศึกษา วัยทำงาน คนทำมาหากินโดยสัมมาชีพ และรักความสงบสุขชอบธรรมในบ้านเมือง ไม่สามารถอดทนนิ่งเฉยได้ต่อไป จึงรวมตัวกันจัดตั้งเครือข่ายดังกล่าวขึ้น เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มต่างๆที่กำลังเคลื่อนไหวทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีเจตนาสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ด้วยการจัดชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกมา เจตนาขับไล่ก็ไร้เหตุผล ไม่รับฟังข้อเท็จจริงและให้ความยุติธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาตามหลักนิติธรรม และรัฐธรรมอันชอบ ต้องการสร้างความไม่สงบในชาติด้วยการใช้พลังคนที่ไม่พอใจ ไม่ถูกใจนายกฯทักษิณ เป็นการส่วนตัว ชักจูงให้ชุมนุมกันแล้วนำไปสู่ความรุนแรง ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชาติด้วยระบบกฎหมู่ตามความพอใจ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อชาติบ้านเมือง

"เครือข่ายประชาชนต่อต้านกลุ่มสร้างความไม่สงบในชาติ" แจ้งว่า ได้เริ่มต้นการดำเนินงานที่เชียงใหม่ โดยทำงานในนามเสียงส่วนใหญ่ของชาวเชียงใหม่ และประชาชนส่วนใหญ่ที่รักสันติสุข จากนี้จะขยายเครือข่ายปฏิบัติงานไปยังจังหวัดอื่นๆ ในท้ายแถลงการณ์ เครือข่ายฯ ประกาศประณามสาปแช่งพรรคการเมืองบางพรรคที่ฉวยโอกาสใช้สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของพวกต่อต้านรัฐบาลเพื่อประโยชน์ทางการเมือง และสาปแช่งว่ากลุ่มแก๊งกวนเมืองกวนชาติในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่และที่อื่นๆ จงวอดวายพินาศหมดไปโดยเร็ว


 


"เจ๊แดง"จับมือ "ยุทธ ตู้เย็น"เตรียมจัดเวทีไฮปาร์คที่เชียงราย


ในขณะที่ หนังสือพิมพ์ "เชียงใหม่นิวส์" รายงานว่า ชาวเชียงรายเคลื่อนไหว ขึ้นป้ายปลุกระดมคนรักทักษิณชนม็อบสนธิ ขณะที่ "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" หัวหน้ากลุ่มวังบัวบานนำทัพ เตรียมจัดเวทีไฮปาร์นำ ส.ส.ในพื้นที่เชียงรายขึ้นปราศรัย

ซึ่งก่อนหน้านั้น ได้มีกลุ่มตัวแทนสมาพันธ์ประชาธิปไตย ซึ่งมีสมาชิกเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้ตระเวนออกติดตั้งป้ายผ้าระบุข้อความ "บ้านเมืองพินาศบรรลัยเพราะฝีมือคนชื่อสนธิ" นำออกไปติดไว้ตามสี่แยกไฟแดง ย่านชุมชุนการค้าสำคัญ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนและประชาชน ที่ขับรถไปมา ต่างจอดรถอ่านกันเป็นทิวแถว พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองไปต่างๆนานา

ขณะเดียวกันที่บริเวณศูนย์จำหน่ายสินค้าโอทอป ห้างสรรพสินค้าไอทีดีพลาซ่า ตั้งอยู่บริเวณกำแพงเมืองเชียงราย ห้าแยกพ่อขุนเม็งราย ก็ได้มีการติดตั้งป้ายคัตเอ๊าท์สีแดงขนาดใหญ่ มีข้อความระบุว่า" สนธิไล่นายกออก ไผจะจ่วยคนตุ๊ก" พร้อมทั้งเปิดศูนย์รับลงทะเบียนกลุ่มคนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อนำรายชื่อทั้งหมดส่งต่อไปให้นายกทักษิณ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ต่อสู้กับม็อบนายสนธิต่อไป ซึ่งตลอดช่วงสายที่ผ่านมา มีกลุ่มบุคคลที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ ทยอยเดินทางมาลงรายชื่อไม่ขาดสาย

นายวรการ เทพวัลย์ 1 ในสมาชิก อบจ.เชียงราย คนสนิทของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กลุ่มพลังสมาชิก อบจ.ฝ่านค้าน จ.เชียงราย รวมทั้งกลุ่มชาวบ้านที่ทุกข์ยากจากทั่วพื้นที่ พร้อมเป็นกำลังให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ยืนหยัดกับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย เพื่อมาสานต่อภารกิจช่วยเหลือประชาชนและนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง อย่างเช่นที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องจนมีผลงานที่เป็นรูปธรรมปรากฏออกมา ซึ่งเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกอย่าง เพื่อให้นายกรัฐมนตรีคนดีของเราได้กลับช่วยเหลือบ้านเมืองอย่างถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงพรรคไทยรักไทย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 27 ก.พ.นี้ จะมีการรวมตัวเปิดเวทีไฮปาร์คครั้งใหญ่ของบรรดาแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่บริเวณสนามกีฬากลาง จ.เชียงราย ภายใต้การนำโดย "เจ๊แดง"นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มวังบัวบาน น้องสาวนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้ดูแลฐานเสียง ส.ส.ทั้งหมด 11 เขตจาก 2 จังหวัด คือ จ.เชียงราย และ จ.พะเยา โดยมีกลุ่ม ส.ส.เชียงราย พรรคไทยรักไทยทั้ง 8 เขต ร่วมนำทัพประชาชน มาร่วมเปิดเวทีไฮปาร์คให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี รวมทั้งกล่าวหาเสียงเพื่อสร้างความไว้วางใจ ในนโยบายพรรคไทยรักไทยต่อกลุ่มประชาชนชาว จ.เชียงราย ไปในตัว ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 2 เม.ย.49 นี้


 


อย่างไรก็ตาม อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ท่านหนึ่งได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การยุบสภาคือการหนีปัญหาส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเป็นการแก้เผ็ด ส.ส.ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ได้ผุดได้เกิด


 


 


มช.ถ่ายทอดสดการชุมนุมสนามหลวง หน้าคณะสังคมฯ


 



 


หลังจากนั้น เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป กลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดการถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ ขึ้นที่บริเวณลานหน้าตึกคณะสังคมศาสตร์ โดยมีนักศึกษา อาจารย์ นักวิชาการ และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมชมการถ่ายทอดประมาณ 500 คน ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก เมื่อได้รับชมตัวแทนของแต่ละเครือข่ายขึ้นบนเวทีปราศรัยกล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มีการปรบมือกันเป็นระยะๆ


 


อดีตนักศึกษาสาขาวิชาจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ว่า ไม่ชอบทักษิณ เพราะเขาใช้เงินซื้อใจคน แต่เขาไม่ได้พัฒนาคน เพราะการแจกเงินนั้น ถึงอย่างไรก็หมด พอเงินหมดก็จะยิ่งทำให้ชาวบ้านจนมากกว่าเดิม เพราะทำอะไรไม่เป็น


 



 



 


คนรุ่นใหม่ใน มช.คึกคัก ร่วมกันแจกแถลงการณ์ จัดเวทีวัฒนธรรมการเมือง


ทั้งนี้ บรรยากาศภายในลานหน้าตึกคณะสังคมศาสตร์ที่จัดการถ่ายทอดสดนั้น ทางกลุ่มงืด ละอ่อนปฎิวัติ นักศึกษาอิสระ มช.และชมรมนักศึกษากับการเมืองเพื่อพัฒนา คณะรัฐศาสตร์ มช.และกลุ่มก้าวที่กล้าเพื่อประชาธิปไตย มช.ได้มีการตั้งโต๊ะแจกสติ๊กเกอร์ "เฮาก้ายนายกฯ ทักษิณ" และ "ทักษิณ คืออุปสรรคในการปฏิรูปการเมือง" ของ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย


 


นอกจากนั้น ยังมีการแจกแถลงการณ์ของ "เครือข่ายนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย(เชียงใหม่) เอกสารเปิดโปง "วงจรชีวิต พรรคไทยรักไทย" และ "ไล่ทักษิณ แล้วล้างบ้าน"ของสถาบันสหสวรรษ ที่นำเอาคำบรรยายของ ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ มาแจกจ่ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมในงานนี้ด้วย


 


ต่อจากนั้น ได้มีการจุดเทียนไล่ความมืดดำ ก่อนแสดงเวทีวัฒนธรรมการเมืองด้วยการอ่านบทกวีและร้องเพลง "ดอกไม้จะบาน" และ "กำลังใจ" ก่อนแยกย้ายการชุมนุม


 


โดยในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบได้มาสังเกตการณ์ดูการชุมนุมเคลื่อนไหวในครั้งนี้อยู่ห่างๆ


 



 


นักวิชาการ มช.ชี้ต้องล้มทักษิณ ชี้ให้สังคมรู้ว่าคือ "อาชญากรแผ่นดิน"


ด้านนายอานันท์ กาญจนพันธ์ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ได้แสดงความคิดเห็นกรณีการยุบสภา และมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 เม.ย.นี้กับผู้สื่อข่าวINN ว่า ขณะนี้กฎเกณฑ์ต่างๆ ถูกบิดเบือน เพื่อประโยชน์ของคนบางคนเท่านั้น และเห็นว่าน่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลรักษาการขึ้นมาทำการปฏิรูปการเมืองเสียก่อนการเลือกตั้ง


 


"ดังนั้น ทำอย่างไรจึงจะทำการล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้ จึงจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ให้มีความหมายได้ โดยขอเสนอให้มีการเคลื่อนไหวตั้งประเด็นความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมา และฟ้องว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทำผิดกฎหมาย และเป็นอาชญากรแผ่นดิน เพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้รับรู้รับทราบ และให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติบทบาททางการเมืองไปก่อน จนกว่าจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด" นายอานันท์ กล่าว


 


 


กลุ่มอาจารย์รัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ มช.แถลงจุดยืน


ไม่ทำวิจัยแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนกว่าทักษิณลาออกจากนายกฯ


 


ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น ทางด้านคณาจารย์รัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนเรื่องการไม่รับทำการวิจัยเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตามแถลงการณ์ฉบับนี้ระบุว่า ตามที่ปรากฏ ในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า "ที่ประชุมคณบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้คณะสังคมศาสตร์รับผิดชอบโครงการศึกษาวิจัยแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะศึกษาให้แล้วเสร็จช่วงหลังสงกรานต์ และจะไม่ขอรับงบประมาณการวิจัยจาก สกอ." นั้น

กลุ่มคณาจารย์สาขารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้ร่วมกันลงชื่อ 11 คน ไม่ขอเกี่ยวข้องใดๆ กับการทำวิจัยข้างต้นจนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่ประชาคมทางวิชาการและประชาชนทั่วประเทศเรียกร้องอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้เพราะ

1.
ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่เป็นผู้นำทางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมแบบอำนาจนิยมอย่างสูงและใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยไม่เคารพต่อสิทธิและเสรีภาพของความเป็นมนุษย์และหลักการประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังใช้เงินเป็นเครื่องมือในการมองคนทั้งหลาย

2.
มีพฤติกรรมบริหารประเทศที่เอื้ออำนวยต่อผลประโยชน์ของวงศาคณาญาติ และพวกพ้องในหลายกรณีและหลายโอกาส

3.
มีการแสดงออกถึงการคุกคามและพยายามควบคุมสื่อต่างๆ ทั้งโดยการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินเป็นเครื่องมือในการดำเนินการ

4.
ในฐานะเป็นผู้นำทางการบริหารของประเทศ แต่มีการดำเนินการที่แสดงถึงการกระทำเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว และเครือญาติตนเองมากกว่าการคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม โดยเฉพาะกรณีการซื้อขายหุ้นของครอบครัว

5.
การคุกคามเสรีภาพทางวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา โดยการสั่งการให้อธิการบดีทั่วประเทศเข้าไปรับนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งแม้แต่รัฐบาลเผด็จการในอดีต ก็ยังไม่เคยมีการสั่งการให้มหาวิทยาลัยรับใช้การเมืองเช่นนี้

ด้วยเหตุนี้วิกฤตการณ์ทางการเมืองอันดับแรก ที่สร้างความปั่นป่วนทางการเมืองให้แก่สังคมไทยในขณะนี้ คือ ความไม่ชอบธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

ทั้งนี้คณาจารย์รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เห็นว่า การที่รัฐบาลเสนอให้สถาบันการศึกษาทำการศึกษาวิจัย เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเกมทางการเมือง เพื่อเบี่ยงเบนการเคลื่อนไหวของประชาคมทางวิชาการ และพลังประชาชนที่ไม่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่ขาดความชอบธรรม

ดังนั้น ไม่ว่านักวิชาการจะรับศึกษาวิจัยแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะขอรับหรือไม่รับงบประมาณในขณะนี้ ก็เป็นการขาดจรรยาบรรณทางวิชาการเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งคณาจารย์รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้ร่วมกันลงชื่อในแถลงการณ์นี้ จึงไม่ขอยุ่งเกี่ยวใดๆ กับการวิจัยนี้ จนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

สำหรับคณาจารย์ 11 คน ที่ร่วมลงชื่อ ประกอบด้วย อาจารย์เอกกมล สายจันทร์, อาจารย์บุญชู ณ ป้อมเพ็ชร,อาจารย์ ดร.วรรณภา ลีระศิริ,ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล,อาจารย์ศักดิ์ชาย จินะวงค์,รศ.ดร.โกสุมภ์ สายจันทร์,อาจารย์ราม โชติคุต,อาจารย์จันทร์จุฑา สุขขี,อาจารย์มาลินี เอื้อธารพิสิฐ,อาจารย์กัญญณัฏฐา อิทธินิติวุฒิ,อาจารย์ ดร.จันทนา สุทธิจารี และ รศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net