ประชาไท—21 ก.ค. 2549 การสู้รบระหว่างเลบานอนและอิสราเอลยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์ รัฐบาลของนานาประเทศจึงได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกายกเลิกการสนับสนุนทางทหารแก่รัฐบาลอิสราเอล เพื่อยุติการโจมตีกองกำลังฮิซบอลลาห์ของเลบานอน

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษและสำนักข่าวในแถบยุโรป ได้แสดงความคิดเห็นว่าอเมริกาไม่ควรให้ท้ายอิสราเอลมากเกินไป เพราะการกระทำของกองกำลังฮิซบอลลาห์ไม่ใช่การกระทำของชาวเลบานอนทั้งหมด

ขณะเดียวกัน รัฐบาลฝรั่งเศสและรัฐบาลรัสเซียได้เรียกร้องให้มีมติหยุดยิงระหว่างฮิซบอลลาห์กับอิสราเอลโดยถือว่าการหยุดยิงคือขั้นตอนแรกที่จำเป็นอย่างยิ่งในการแก้ไขวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตะวันออกกลางในขณะนี้

ทว่า แดนนี อะยาลอน เอกอัครราชฑูตอิสราเอลประจำสหรัฐอเมริกาได้กล่าวตอบโต้รัฐบาลฝรั่งเศสโดยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เยดิโอธ (Yedioth) และระบุว่าความพยายามที่จะแทรกแซงให้สหรัฐฯ ยุติความสนับสนุนกับทางอิสราเอลเป็นเรื่องที่คิดไปเองทั้งสิ้น พร้อมทั้งยืนยันว่ารัฐบาลจอร์จ ดับเบิลยู บุช จะต้องดำเนินการสนับสนุนอิสราเอลต่อไป เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ได้เข้าประชุมร่วมกับที่ประชุมองค์การสหประชาชาติ (UN) ในวันที่ 20 ก.ค. 49 เพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ทั้งในส่วนของอิสราเอล เลบานอนและปาเลสไตน์ โดยจะประเมินสถานการณ์จากความเคลื่อนไหวล่าสุด เพื่อให้ทุกฝ่ายทราบและหาหนทางแก้ไขปัญหาต่อไป

นอกจากนี้ ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้กล่าวโจมตีรัฐบาลซีเรียด้วยว่าซีเรียอาจจะกำลังพยายามขยายอิทธิพลกลับไปยังเลบานอนอีกครั้ง หลังจากที่ถูกสหประชาชาติกดดันให้ถอนทหารออกจากเลบานอนมาได้ครบ 1 ปี และมีความเป็นไปได้ว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อการควบคุมกลุ่มฮิซบอลลาห์ให้ได้เท่านั้น ซึ่งโลกจะต้องหาทางรับมือกับฮิซบอลลาห์ ซีเรีย และอิหร่านต่อไป

ล่าสุด อิสราเอลยังคงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ทางตะวันออกและตอนใต้ของเลบานอนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 41 คน และยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในเลบานอนอยู่ที่ 277 ศพ และผู้เสียชีวิตในอิสราเอลมีจำนวน 25 ศพ