Skip to main content
sharethis

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการประวัติศาสตร์ ซึ่งลี้ภัยหลังรัฐประหาร คสช. และถูกกระทรวงดิจิทัลออกประกาศเป็น 1 ใน 3 บุคคลห้ามติดต่อทางอินเทอร์เน็ต ล่าสุดเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการเส้นเลือดในสมองแตก ด้านเกษียร เตชะพีระแต่งกลอนให้กำลังใจ "ไอ้โตเอ๊ยอย่าได้เป็นไรมาก กูไม่ยอมกูอยากเถียงมึงใหม่"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อายุ 60 ปี นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ล้มป่วยจากอาการเส้นเลือดในสมองด้านซ้ายแตก ทั้งนี้จากการเปิดเผยผ่านเฟสบุ๊กของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต โดยล่าสุดสมศักดิ์รับการรักษาตัวอยู่ที่สถานพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ด้านเกษียร เตชะพีระ นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์บทกวี "ถึงไอ้โต" เพื่อให้กำลังใจด้วย "ไอ้โตเอ๊ยอย่าได้เป็นไรมาก กูไม่ยอมกูอยากเถียงมึงใหม่ รักษากายหายป่วยด้วยเร็วไว แล้วกลับไทยให้กูวิพากษ์คืน" ตอนหนึ่งในบทกวีของเกษียรระบุ

โปสเตอร์และข้อความตามหาสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่บอร์ดในอาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ (SC) เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2557 (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

สำหรับสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ เคยเขียนบทความและแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เคยร่วมรายการตอบโจทย์ประเทศไทยในทางสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS ในปี 2556 และต่อมาถูกถอดจากผังรายการ

ต่อมาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในเวลานั้นเตือนว่าจะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาข้อความที่สมศักดิ์โพสต์ว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่

และจากนั้นไม่นานในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 มีคนร้าย 2 คนบุกยิงใส่รถยนต์และบริเวณหน้าบ้านของสมศักดิ์ด้วย โดยคนร้ายอ้างกับ รปภ.หมู่บ้านว่าจะมาเยี่ยมหงา คาราวาน ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ต่อมาภายหลังรัฐประหารของ คสช. เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 เขาได้ลี้ภัยออกจากประเทศไทย โดย คสช. มีคำสั่งที่ 65/2557 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2557 เรียกสมศักดิ์มารายงานตัวด้วย และในเดือนกรกฎาคม 2557 กระทรวงการต่างประเทศได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของเขา

ต่อมาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558 สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเวลานั้น ได้ลงนามในคำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ 356/2558 ลงโทษไล่ออกจากราชการ โดยมีผลไม่อนุมัติคำขอของสมศักดิ์เพื่อลาปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการ แต่ให้ลงโทษออกจากราชการแทนมีผลตั้งแต่ 19 ธันวาคม 2557 ขณะที่สมศักดิ์เผยแพร่หนังสือชี้แจงต่อมหาวิทยาลัยว่าไม่สามารถอยู่ปฏิบัติราชการเพื่อให้คณะบุคคลที่ทำการกบฏมาจับกุมตัวอย่างไม่ชอบธรรม (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ทั้งนี้สมศักดิ์ได้แต่งตั้งทนายความเพื่อฟ้องที่ศาลปกครอง กระทั่งเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2559 ตุลาการศาลปกครองอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลข บ.408/2558 โดยศาลพิพากษาว่าคำสั่งของอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการยกคำอุทธรณ์ของ ก.พ.อ.นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เพิกถอนคำสั่งไล่ออกดังกล่าวและเพิกถอนคำวินิจฉัยของ ก.พ.อ. ที่ยกอุทธรณ์ของสมศักดิ์ โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งและคำวินิจฉัยดังกล่าวนั่นคือวันที่ 19 ธันวาคม 2557 (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2560 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี ได้ออกประกาศเรื่อง การงดเว้นการติดต่อกับบุคคลบนสื่ออินเทอร์เน็ต" อ้างอิงคำสั่งศาลอาญาให้ระงับการแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันไม่เหมาะสม ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดย "ขอให้ประชาชนโดยทั่วไปงดติดตาม ติดต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดที่มีลักษณะเป็นการเผยแพร่ เนื้อหา ข้อมูล ของบุคคลตามประกาศ" ได้แก่ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และ Andrew MacGregor Marshall เพื่อไม่ให้เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net