Skip to main content
sharethis

หลายคนคงทราบข่าวกลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และชาวบ้านจาก ต.แม่เมาะ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง จำนวน 128 คน มายื่นหนังสือร้องต่อศาลปกครอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อยื่นฟ้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ได้ละเมิดชาวบ้านด้วยการตั้งโรงไฟฟ้าติดกับชุมชน จนเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้าน ทำให้ล้มป่วยและเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โดยชาวบ้านกลุ่มนี้ ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เกี่ยวกับสุขภาพเป็นเงินจำนวน 1,069,778,433 ล้านบาท

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้เรียกร้องสิทธิในการฟ้องร้องต่อศาล

ก่อนนั้น เมื่อปี 2541 ชาวบ้านในกลุ่ม ต.นาสัก และ ต.สบป๊าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตรกรรม ได้รวมตัวกันยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งจังหวัดลำปาง เพื่อเรียกร้องคดีพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะปล่อยออกมา โดยในขณะนั้น ชาวบ้านได้ลงทุนควักเงินส่วนตัวเพื่อว่าจ้างทนายความเอกชนกันเอง เพื่อต่อสู้คดีกับฝ่าย กฟผ. จนในที่สุด ศาลแพ่งจังหวัดลำปาง ได้พิจารณาตัดสินให้ กฟผ.จ่ายค่าชดเชยความเสียหายให้แก่ชาวบ้านกลุ่มนี้ โดยไม่มีการอุทธรณ์

นั่น,ถือว่าชาวบ้านได้รับชัยชนะ หากนำคำพิจารณาตัดสินของศาลมายืนยันความชอบธรรม ทว่า ทาง กฟผ.ยังคงเดินหน้าขยายโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีก และพยายามนำเสนอว่า ทาง กฟผ.ได้ทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยทำการติดตั้งเครื่องเครื่องกรองสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ พร้อมรับรองว่า ไม่มีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เล็ดลอดออกมาสู่ชุมชนรอบๆ โรงไฟฟ้า

หลังจากนั้น ชาวบ้านได้มีการรวมตัวกันมากขึ้น และได้ตั้งกลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ขึ้นมา เพื่อเรียกร้องสิทธิ หลังจากรับรู้ว่า ชาวบ้านเริ่มล้มป่วยและเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ จนมีการนำผู้ป่วยไปตรวจรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง จากโรงพยาบาลศิริราช จึงพบว่า ผู้ป่วยทั้งหมดล้วนได้รับผลกระทบจากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่เกิดจากเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าแม่เมาะทั้งสิ้น

ปี 2546 กลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ จำนวน 152 คน ได้รวมตัวกันไปยื่นหนังสือฟ้องร้องต่อศาลแพ่งจังหวัดลำปาง กันอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายในด้านสุขภาพ โดยชาวบ้านจำนวน 152 คน ร่วมกันเป็นโจทย์ ยื่นฟ้องรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น พร้อมผู้บริหาร กฟผ.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ เป็นจำเลย รวมทั้งหมด 14 ราย

ทว่าศาลแพ่งจังหวัดลำปางไม่สามารถรับคำฟ้องดังกล่าวได้ เพราะขัดต่อระเบียบศาลปกครอง เนื่องจากเป็นการฟ้องร้องหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเท่านั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางกลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ จึงไปยื่นหนังสือฟ้องร้องต่อศาลปกครอง จ.เชียงใหม่ กรณีการเรียกค่าเสียหายเกี่ยวกับสุขภาพ ที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เป็นเงิน 1,069,778,433 ล้านบาท

ซึ่งทางศาลปกครองได้เรียกค่าธรรมเนียมในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะจากชาวบ้านที่ทำเรื่องฟ้องร้อง ในอัตราร้อยละ 2.5 ซึ่งหมายความว่า ชาวบ้านเสียค่าธรรมเนียมในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงินสูงถึงรายละ 1 แสนบาท ซึ่งชาวบ้านล้วนมีฐานะความเป็นอยู่ที่ยากจน

ชาวบ้านจึงได้ทำเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความในการฟ้องร้องแบบไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งว่าสามารถทำได้โดยให้ฟ้องแบบอนาถา

นอกจากนั้น ทางศาลปกครองได้เสนอให้ทำเรื่องฟ้องแบบอนาถาไว้ โดยให้ไปปรึกษากันว่าจะรวมกันฟ้องแบบทั้งหมดทีเดียวหรือจะแยกกันเป็นกลุ่มๆ เพื่อความรวดเร็วในการไต่สวน และภายใน 30 วันศาลปกครองจะนัดชาวบ้านทั้ง 128 คนมาสาบานต่อหน้าศาลและไต่สวนเรื่องฐานะความยากจนจึงต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะแบบอนาถาต่อไป

นายธนู เอกโชติ ทนายความประจำสภาทนายแห่งประเทศไทย ตัวแทนทนายความฝ่ายชาวบ้านแม่เมาะ จ.ลำปาง ได้กล่าวภายหลังรับฟังคำวินิจฉัยว่า การปรับเปลี่ยน พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ถือเป็นพัฒนาการทางกฎหมาย และเป็นผลจากการเรียนร้องต่อสู้ของชาวบ้าน จนทำให้มีการฟ้องร้องอย่างอนาถาได้ในศาลปกครองได้

หากการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากภาครัฐและ กฟผ.ครั้งนี้ ทางศาลปกครองได้พิจารณาตัดสินให้รัฐและกฟผ.ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 1,069,778,433 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ จำนวน 128 คน ก็จะถือเป็นกรณีศึกษาให้สังคมไทยได้รับรู้ และมองเห็นถึงพัฒนาการของกระบวนการยุติธรรมของศาลปกครองไทย นอกจากนั้น อาจทำสังคมได้เห็นน้ำตาแห่งชัยชนะของคนแม่เมาะ กับผลพวงแห่งความพ่ายแพ้ของ กฟผ. ได้ในไม่ช้า

องอาจ เดชา/color]

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net