Skip to main content
sharethis

การบรรยายทางวิชาการ  เรื่อง 


คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.)  กับการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 


โดย นายอานันท์  ปันยารชุน  ประธาน กอส.


 


วันที่ 6 กรกฎาคม 2548    สถาบันการประชาสัมพันธ์ 



จัดโดย  สำนักการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ


 


ท่านอธิบดีและท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายครับ  ผมยินดีนะครับที่ได้รับเชิญมาที่กรมประชาสัมพันธ์ที่เป็นหน่วยงานของรัฐที่จะเผยแพร่ข้อเท็จจริงแก่ประชาชน  ตรงนี้เป็นหลักสำคัญมากกว่า  ถึงแม้กรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานราชการ  ถ้าหากกรมประชาสัมพันธ์ไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงและความถูกต้องแล้ว  ก็จะทำหน้าที่เป็นสื่อเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล  ก็จะถือเป็นการทำงานที่บกพร่อง  เพราะฉะนั้นที่ผมถูกเชิญมาวันนี้ผมถือว่าเป็นความพยายามของกรมประชาสัมพันธ์ที่จะให้ข้าราชการก็ดีและผู้ที่สนใจในข้อเท็จจริงในเรื่องปัญหาทางภาคใต้นั้นได้ทราบมุมมองได้ทราบข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่ง  ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นด้านของภาคราชการ


 


คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ   ก็เป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งโดยท่านนายกรัฐมนตรี  แต่ตอนที่นายกทักษิณเชิญผมไปคุยด้วยนั้น  ผมก็บอกขอคุยให้เป็นเรื่องเป็นราวชี้แจงเสียก่อนว่าจุดหมายปลายทางของเราอย่างเดียวกันนะ  แล้วแนวทางความคิดก็ต้องอย่างเดียวกันด้วย  เพราะการสร้างพื้นฐานของการสมานฉันท์มีทั้งระยะสั้นระยะยาว  ระยะสั้นก็เป็นเรื่องของรัฐบาล  ระยะยาวก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการสมานฉันท์  แต่ไม่ว่าใครจะรับผิดชอบในระยะสั้นระยะยาวนั้น  มันหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกที่พื้นที่ของการทำงานนั้นมันจะมีความเกี่ยวโยง เกี่ยวพันธ์ และทับซ้อนกันอยู่เสมอ  คือบอกไม่ได้ว่าอะไรคือระยะสั้นระยะยาว  มันผูกพันกัน  มันมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันทั้งระยะสั้นระยะยาว


 


ทำไมรัฐบาลนี้ถึงจำต้องสร้างคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์  เหตุผลสำคัญก็คือว่า  นโยบายของรัฐที่ใช้มาในระยะ 1 ปีก่อน1 ปีครึ่ง  ก่อนมีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์นั้นน่ะ  ก็เป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นนโยบายที่ไม่สัมฤทธิ์ผลในทางที่จะทำให้ปัญหานั้นมันผ่อนคลายลงไป  ยิ่งปราบก็ยิ่งหนัก  มันมีสุภาษิตทั่วๆ ไปเขาบอกว่า  ยิ่งฆ่าโจรหนึ่งคนก็เจอโจรอีก 2 คนขึ้นมาแทน  เราจะเห็นได้เลยว่าในขณะนี้ว่าเหตุการณ์ในอิรักนี่  ถ้าไปถามว่าเหตุการณ์ปัจจุบันนี้เนี่ยมันดีกว่าที่ตอนอเมริกันบุก  จะปฏิเสธหรือไม่  ถ้าไปถามรัฐบาลอเมริกัน  รัฐบาลอเมริกันเขาก็จะบอกว่าดีขึ้น  แต่เดี๋ยวนี้แม้แต่ประชาชนอเมริกาเห็นแล้วว่าเป็นนโยบายที่ไม่ถูกต้อง 


 


ผมจำได้สมัยผมเคยไปเปิดความสัมพันธ์กับท่านนายกรัฐมนตรี  ...คึกฤทธิ์  ที่เมืองจีน  แล้วก็พบเหมาเจ๋อตุงก่อนท่านจะสิ้นอายุไป 5-6 เดือน ท่านบอกว่าคนไทยจะต่อสู้กับคอมมิวนิสต์เหรอ  อย่าไปฆ่านะ  ยิ่งฆ่ามันยิ่งมีมากขึ้น  สุดท้ายรัฐบาลก็ต้องมาเปลี่ยนนโยบายการปราบปรามคอมมิวนิสต์ในเมืองไทยโดยใช้การเมืองนำหน้า  แต่ในขณะเดียวกันต้องยอมรับกันว่าคอมมิวนิสต์ในเมืองไทยมันหดหายไป  ก็เป็นเพราะว่าส่วนหนึ่งและเป็นส่วนสำคัญที่รัฐบาลจีนเลิกสนับสนุนขบวนการคอมมิวนิสต์ในเมืองไทย  สมัยก่อนก็ยังผ่านการสนับสนุนคอมมิวนิสต์ในลาว  แต่เมื่อพี่เบิ้มของเรานั้นหยุดการสนับสนุนและก็ให้ใช้นโยบายการเมืองนำหน้าการทหาร  เป็นโยบายที่ท่านประธานองคมนตรี พล..เปรม  เป็นคนดำเนินมาจนกระทั่ง คุณเชาวลิต  ก็เป็นคนริเริ่มก็ประสบความสำเร็จ  


 


พอเมื่อมาเปรียบเทียบดูแล้ว  เมื่อ 30-35  ปี  คนไทยก็เป็นห่วงกันมากในเรื่องคอมมิวนิสต์  และการก่อการร้ายก็มีอยู่ทั่วไป  ขณะเดียวกันปฏิกิริยาจากทางฝ่ายของรัฐก็ดี  จากภาคประชาชนก็ดี   มันก็ค่อนข้างจะโต้ตอบอย่างรุนแรง  คงจะเห็นได้คงจำกันได้สมัยนั้น...มีการจัดตั้งเอาคนมาพูด  โฆษณาชวนเชื่อต่างๆ นานา  ตัวผมเองก็เป็นคอมมิวนิสต์ไปด้วย  อันนี้ผมจะเล่าให้ฟังว่าเมื่อ 35 ปีที่แล้วเนี่ยนะฮะ   เมืองไทยก็ต้องเรียกว่าบ้าไปพักหนึ่งแหละ  ที่ไปพูดหาว่าชาวไร่ชาวนาหาว่าเขาก็เป็นคอมมิวนิสต์นะ  แต่ในระดับผมในอดีตที่เคยเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ  มาจากตระกูลที่รับใช้แผ่นดินมาสองชั่วคน  คุณปู่เคยเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม สมัยก่อนปลัดกระทรวงกลาโหมต้องดูแลทางภาคใต้ด้วย  คุณตาเป็นนายภาษีอากร  คุณปู่เป็นมอญ  แต่คุณตาเป็นจีน


 


ถามว่าผมคือใคร  ผมคือคนไทยครับ  คนไทยสายชาติมอญเชื้อชาติมอญ  คนไทยเชื้อชาติจีน  เด็กๆ ก็ใส่กางเกงแพรใส่กางเกงจีนอยู่บ้าน  สมัยผมเด็กๆ 50 กว่าปี  ออกไปนอกบ้านก็ใส่กางเกงแพรไปได้ หรือบางครั้งก็ใส่เสื้อผ้ามอญไปเลย  ผมจะกลับมาพูดเรื่องนี้ทีหลัง  แต่อยากเล่าว่าถ้าเราเรียนรู้เหตุการณ์ทั่วโลกทั้งหมดแล้วเนี่ย  เราจะตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรงมันไม่มีโจทย์ครับ  มันไม่มีโจทย์  มันต้องมีทั้งปราบและป้องกัน  ขึ้นอยู่กับว่าจะให้น้ำหนักอันไหนมากกว่ากัน 


 


ในสมัยรัฐบาลผม  ต้องการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์  ซึ่งมีสถิติที่ค่อนข้างจะน่ากลัวมากเมื่อ 14-15 ปีที่แล้ว  ในรัฐบาลก็มีการพูดกันเสมอว่า  ถ้าเราจะทำเราจะทำมันอย่างไร  ถ้าไปถามพวกหมอ  พวกพยาบาล  พวกกระทรวงสาธารณสุข  เขาจะเน้นไปที่การรักษาดูแล  แต่ถ้าไปคุยกับคนอื่นที่ไม่ใช่เป็นหมอแต่ที่เขารู้เรื่องดีเขาจะเน้นไปที่การป้องกัน  แต่ทั้งนี้ใช่ว่าป้องกันแล้วจะไม่ปราบ  มันต้องทำควบคู่กันไป  แต่จะเน้นอันไหนมากกว่า  ครับไทยแก้ปัญหาโรคเอดส์ได้ในระยะ 10 ปี  ก็เพราะเราเน้นแก้ปัญหาที่การป้องกัน  การจัดสรรงบประมาณก็หนักไปในทางป้องกัน  ป้องกันคือป้องกันจริงๆ ป้องกันด้วยการให้การศึกษากับเด็ก  บอกให้เขารู้ความจริงว่าโรคเอดส์มันหนักรุนแรงอย่างไร  ให้เขารู้ความจริงว่าคนเป็นเอดส์แล้วยุงมากัด  ยุงตัวนี้ไปกัดคุณแล้วจะทำให้คุณเป็นเอดส์ตาย  ให้ข้อมูลให้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง  ว่าโรคเอดส์ไม่ได้ติดกันที่น้ำลาย  ไม่ได้ติดกันที่สัมผัส  จะติดกันได้ก็ต่อเมื่อมีเพศสัมพันธ์  เพราะฉะนั้นจะต้องป้องกันยังไง  ต้องให้ทุกคนเข้าถึงการใช้ถุงยาง  รัฐบาลก็เร่งให้งบประมาณ  ตามซ่องตามที่เที่ยวสาธารณะ  สถานเริงรมย์มีการแจกถุงยางฟรี  ขณะเดียวกันก็ดูคุณภาพของถุงยางนั้นมันเป็นไปโดยถูกต้องไหม  ไม่ใช่ไปเอามาจากเกาหลีหรือจากใต้หวันไปเอามาแล้วปรากฏว่าถุงยางนั้นอาจจะมีรูรั่ว  ป้องกันได้เพียง 85% หรือ 90%


 


แล้วเราทำอะไรอีก  เราทำออกเอกสาร  ออกบทความเตือนสติคนในวิทยุ   ทีวี  ตามโรงเรียน  โรคเอดส์ในเมือง ไทยซึ่งเป็นภัยที่หยุดไปได้มากมาจากการป้องกัน  มากกว่าการจัดการปราบเพราะว่าโรคเอดส์นั้นไม่สามารถปราบได้  รักษาได้อย่างมากก็เพียงพยุงชีวิตไว้ 4-5 ปี  แล้วก็ตายหมด  ปัจจุบันก็ยังไม่ถูก  จับที่คนติดเชื้อเอชไอวีแต่ยังไม่เป็นเอดส์  หรือเป็นเอดส์แล้วก็อาจอยู่ได้ 10 -15 -30 ปี  เพราะมันเริ่มมียาใหม่ๆ


 


ถ้าเกิดเราดูเหตุการณ์รอบโลก  ประวัติศาสตร์รอบโลก  ปราบที่ไรแพ้ทุกทีครับ  ก็สร้างปัญหามากขึ้นทุกปี  ปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองไทย เรามี 3 จังหวัด  สมัยก่อนเรียก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้   แต่ปรากฏว่าการปกครองที่เมืองสตูลเราได้เจ้าเมืองที่ดี  ตอนหลังลูกชายเจ้าพระยาคนนี้ก็ไปทำต่อ  สถิติคนไทยมาเลย์ที่สตูลนั้นพูดภาษาไทยหมดหรือเกือบหมด  นี่เป็นสถิติเมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว  สมัยก่อนยังเด็กๆ พวกคุณอาจจะยังไม่เกิด  เราจะได้ยินกันว่า 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้  แต่เดี๋ยวนี้เรียก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  เพราะปรากฏว่าจังหวัดสตูลนั่นมันพ้นไม่มีอันตราย  ทั้งๆ ที่สตูลก็เป็นรัฐที่ไทยมาเลย์อยู่ด้วยเหมือนกัน  ในอดีตก็เป็นส่วนหนึ่งของรัฐเกดะห์ 


 


เราพูดถึง 3 จังหวัดภาคใต้  ซึ่งมีปัญหาการแบ่งแยกดินแดน  แต่ถามว่าปัญหานั่นมันร้ายแรงไหม  ขณะนี้ร้ายแรงครับ  เพราะว่าจากสถิติจากนโยบายที่ไม่ถูกในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา  เหตุการณ์ประจำวันมีมากกว่า 2,000 ราย  มากกว่า 10 ปีก่อนหน้านั้นอีก  อันนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เรารับทราบ  แต่ถามให้ลึกซึ้งไปอีกว่าไอ้ที่เหตุการณ์ 2,000 กว่ารายที่เกิดขึ้นใน 2 ปี  มันเกี่ยวพันกับการแยกดินแดน  ได้เกี่ยวพันกับเรื่องการเมืองหรือเกี่ยวพันกับอะไรกันแน่  คำตอบที่ผมได้รับโดยทั่วไปแม้แต่จากราชการเอง  เขาบอกว่ารู้สึกว่าครึ่งหนึ่งไม่เกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดน  มันเกี่ยวกับเรื่องการค้ายาเสพติด  มันเกี่ยวกับเรื่องการลักลอบสินค้าเถื่อน  มันเกี่ยวกับเรื่องการขัดผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ  มันเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งทางส่วนตัว  มันกลายเป็นเรื่องของอาชญากรรมทั่วๆ ไป  


 


แต่ปัญหาของเราคือว่า  อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในภาคใต้ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ใน 2 ปีที่ผ่านมาจับคนผิดไม่ค่อยได้  อาจจะเป็นความบกพร่องของตำรวจหรือว่ากระบวนการทางยุติธรรม  หรือว่าอะไรก็แล้วแต่จับคนบริสุทธิ์มาจับมาแล้วต้องปล่อย  ส่วนคนที่ทำจริงๆ คำตอบที่รัฐเขาบอกว่า เฮ้ย มันหนีข้ามดินแดนไปแล้วหายตัวไปแล้ว  อย่างนี้ต้องเห็นใจประชาชนนะครับ  ประชาชนทั้งพุทธทั้งมุสลิม  เพราะคำถามที่เขาต้องถามต่อไปคือ กระบวนการต้องการความจริง เขาบอกว่า เอ๊!  ทำไมเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก 71-72 จังหวัดทั่วประเทศไทย  ใครฆ่ากันตายเขาก็จับกันได้  มันไม่ใช่หายต๋อมไปนอกจากจะมีการเมือง  ซึ่งเราเคยทำมาเมื่อ 50-60 ปีมาแล้ว  นักการเมืองหายไป คุณ  เตียง  สิริขันธุ์ คนนั้นหายไป  นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหายไป  หัวหน้าฝ่ายกรรมกรก็หายไป  คุณทนง โพธิอ่าน  สมัยรัฐบาลผม  แต่ที่มันเป็นอาชญากรรมทั่วไปส่วนใหญ่จะจับได้  ตำรวจของเราก็ไม่ใช่เล่น เก่งเหมือนกัน  การสืบสวนก็ดี แต่พอมาถึงกรณี 3 จังหวัดภาคใต้ทำไมจับไม่ได้  คำถามที่เขาถามคือ หรือเพราะว่ารัฐกับเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง  ก็เราเข้าถึงความจริงไม่ได้ 


 


ก็ลองมาดูในสมัยนายกทักษิณ  ทนายสมชายถูกอุ้มไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฆ่ากันตายการฆ่าตัดหัวกัน  หรือกรณีเศร้าสลดที่กรือเซะหรือตากใบที่มีการบุกรุกเข้าไปในมัสยิด  ฆ่าเด็กตายไป 10 กว่าคน  กรือเซะ (ตากใบ) จับเขามา 800 คน 1,000 คนผมจำไม่ได้  ระหว่างที่อยู่ในความควบคุมของทหาร  ระหว่างการขนบรรทุก  ตายไป 68 คน


 


ในวันที่ 28  เมษายน  ปีที่แล้ว  เหตุการณ์เกิดขึ้นความรุนแรงเกิดขึ้น 100 กว่าเหตุการณ์  ที่สะบ้าย้อยนั้นแทบไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เด็กมาเลย์เด็กมุสลิมอยู่ในทีมเยาวชนฟุตบอล ที่ผมทราบมาเป็นเด็กดีด้วย  ตายไป 10 กว่าคน  พยานหลักฐานที่อยู่แถวนั้นเขาบอกผมว่า  จับให้นอนคว่ำแล้วเอาปืนยิงเข้าคอ


 


เอกสารรายงานเหตุการณ์ของกรือเซะ ของตากใบ  ก็ได้จากรัฐบาลไปเปิดเผย อ่านไปแล้วก็น่าเป็นห่วง  ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติตัวกันยังไง  เห็นคนเป็นสัตว์หรืออย่างไร  ไม่ให้ความเคารพนับถือมนุษย์ทั่วไปหรืออย่างไร  เขาไม่ใช่วัวไม่ใช่ควายนะครับ  ที่จะโยนขึ้นบนกระบะรถ  แล้วใครรับผิดชอบบ้างครับ  ไม่มี 


 


สิ่งเหล่านี้เองเป็นสิ่งที่คนในพื้นที่เขาถาม  แล้วเราก็รับฟังมา แล้วผมก็ถ่ายเทไปให้ท่านนายก  บอกรัฐบาล  บอกว่าต้องใช้สมานฉันท์กันแล้วเนี่ย  ขณะนี้เขาไม่เชื่อรัฐบาล  เขาไม่เชื่อคุณทักษิณ  เขาไม่ไว้ใจ  เขาระแวง  เขาบอกว่ารัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่จริงใจต่อเขา  เขาบอกเจ้าหน้าที่ของรัฐมีเอี่ยวในเรื่องของผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจการค้า  ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด  ไม่ว่าจะรับของเถื่อน  ในกลุ่มชุมชนใน 3 จังหวัดมีคนรวมๆ กว่า 2 ล้านคน  เป็นคนไทยมาเลย์ประมาณ 85%  คนไทยพุทธประมาณซัก 2 แสน  เขาก็อยู่กันมาด้วยความสุข  มีครับในประวัติศาสตร์ไทยในระยะ 100 ปีที่ผ่านมาก็มีการขัดแย้ง  มีเหตุการณ์ 


 


เมื่อเดือนธันวาคม 2518  ก็มีเหตุการณ์ที่ปัตตานีเช่นเดียวกัน  แล้วก็สื่อราชการว่ารัฐไม่ยอมเข้าใจถึงวัฒนธรรมจารีตประเพณีของเขา  รัฐอาจจะหวังดีอยากสร้างมัสยิดที่ไหนก็ไปสร้าง  แล้วในการสร้างนั้นบางทีก็ไปรื้อมัสยิดซึ่งมีความหมายทางประวัติศาสตร์  ความหมายทางวัฒนธรรมของเขาไป  เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการของใหม่  รัฐก็บอกว่า  โอย  ดีกว่า  ใหญ่กว่า  สวยกว่า  ไปตัดสินใจแทนเขา  เขาไม่มีส่วนร่วมอ่ะ


 


ที่นั่งกันอยู่ที่นี่ผมจะถามคำถามหลายๆ อย่าง  เริ่มต้นน่ะใครบ้างครับที่ไม่มีเชื้อสายจากคนต่างชาติเลย  ผมบอกว่าผมมาจากมอญ  ผมมาจากจีน  ผมเป็นคนไทยไหม  เป็น  เพราะผมรู้สึกว่าผมเป็นคนไทย  ผมรักแผ่นดินไทย  ผมเคารพในชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  ผมก็บอกว่าผมเคารพในชาติ  ชาติคืออะไร  ชาติคือศูนย์รวม  ศูนย์รวมของความหลากหลายที่แตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ  ศาสนาและผิวพรรณ  อันนี้เป็นหลักประกันที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญนะครับ  ดังนั้นคำว่าชาติไม่ต้องบอกว่าเป็นชาติไทยครับ  คำว่าชาติคือศูนย์รวม  คือประชาคมของคนที่อยู่ในผืนแผ่นดินไทย  จะเกิดไม่เกิดไม่เป็นอะไรโดยไม่คำนึงถึงชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  แต่มีสัญชาติเป็นคนไทย 


 


ผมเคารพศาสนา  ผมเป็นพุทธศาสนิกชน  แต่เวลาผมบอก ผมเคารพศาสนาผมไม่ต้องระบุว่าผมเคารพศาสนาพุทธ  เผอิญผมเป็นพุทธก็เลยนับถือศาสนาพุทธ  แต่คนไทยคนอื่นที่เขานับถือศาสนาฮินดู  ศาสนาคริสเตียน  ศาสนามุสลิม  เขาก็มีสิทธิ์ทัดเทียมกัน  อันนี้ก็เป็นข้อประกันที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน  พระมหากษัตริย์ไม่พูดถึงเป็นสถาบันที่ทุกคนเคารพนับถือ 


 


เพราะฉะนั้นการรักชาติเราก็ต้องรักในลักษณะที่ถูกต้อง  ต้องรู้ว่าชาติคืออะไร  แล้วเราบอกเราเคารพศาสนาเราต้องรู้ด้วยว่าเราไม่ได้กีดกัน  ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ  หรือพระองค์ท่านที่ปฏิบัติตลอดมา  องค์พระมหากษัตริย์ก็เป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก  ท่านเป็นผู้ให้ความคุ้มครองปกป้องทุกศาสนา  แล้วท่านปฏิบัติตัวยังไง 


 


เคยมีครับหนังสือโดยกระทรวงศึกษาฯ  โดยบัดนี้ยังมีอยู่หรือเปล่าไม่รู้ เมื่อพูดถึงสถาบันชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  หลังศาสนาวงเล็บใส่ไว้ว่าพุทธ  สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนเราต้องเข้าใจ  คนไทยไม่ใช่ไทยพุทธทั้งนั้นนะ


 


ดูประวัติศาสตร์ไทยตั้งแต่สมัยพระนารายณ์หรืออาจจะก่อนนั้นด้วยซ้ำ  ตระกูลบุนนาคในเมืองไทย เวลานี้  400 ปีเนี่ย  ดั้งเดิมเป็นชี๊คอาเหม็ด มาจากเปอร์เชีย  ขอทานโทษที่ผมใช้คำนี้  แขกชาวประทาน27.11  ตั้งรกรากอยู่เมืองไทยมา 400 ปี  ปัจจุบันผมถามว่าครอบครัวไหนหรือสกุลไหนใหญ่ที่สุดในเมืองไทย  ทุกคนก็บอกว่าบุนนาค  มีกับเขาไปหมด  ทั้งทหารตำรวจ  ข้าราชบริพาร  ข้าราชการ  ประชาชน  นักเขียนหนังสือ  นักเล่นละคร  หรือแม้แต่คนเดินตามถนนตกยาก  บุนนาคน่ะเปอร์เชีย  ผ่านมาตั้ง 5-6 เจเนอเรชั่น  บุนนาคบางคนตายยังเป็นอาหรับอยู่เลย  ส่วนใหญ่บุนนาคก็โอนมาเป็นพุทธแล้ว ก็ยังมีบุนนาคที่อยู่บนสายนี้อยู่เหมือนกัน  สมัยพระนารายณ์  สมุหของพระนารายณ์นั้นเป็นชาวกรีกครับ  พระองค์ท่านถือศาสนากรีกอาเธอร์ดอกซ์  สมัยพระนารายณ์เราต้องพึ่งพาต่างประเทศ  ทหารรักษาพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์เป็นชาวโปรตุเกส  1,500 คน  เพราะตอนนั้นปืนใหญ่ก็ต้องสั่งจากโปรตุเกส  ตระกูลบุนนาคใหญ่โตในวังต่างๆ ตลอดมาในสมัยราชวงศ์จักรี  ตอนสมเด็จพระปิยะมหาราช ขึ้นทรงครองราชย์ตั้งแต่อายุ 17 ปี  17 พรรษา  ท่านเป็นเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรง  ตอนนั้นท่านมีสมเด็จเจ้าพระยา 2 คน  บุนนาคทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน  สมเด็จเจ้าพระยา 2 คนซึ่งเป็นเชื้อสายเปอร์เชีย แต่ว่าตอนนั้นจะยึดอำนาจจากรัชกาลที่ 5  และจะยึดได้แล้ว  ที่สมัยใหม่มาเรียกว่ารัฐประหารเนี่ย  แต่เขาก็ไม่ทำ


 


แล้วคนไทยคืออะไร  คนไทยต้องหน้าตาผิวเหลือง  หน้าตาเจ๊กๆ อย่างผมหรือหน้าตามอญๆ อย่างผม  เปล่าเลย  เพราะฉะนั้นเราอย่าไปดูที่รูปร่างหน้าตาหรือแม้แต่วิธีแต่งตัว  ผมเล่าด้วยความเคารพเมื่อตอนเล็กๆ ผมใส่กางเกงแพร  พ่อผมก็ใส่กางเกงแพร  พ่อผมมาจากมอญ  ก็สบาย   สมัยนั้นแอร์ไม่ค่อยมี  ออกไปไหนก็ได้  สมัยนั้น


โอ้โหใครใส่กางเกงตั้งฮื้อ.27.17ถือว่ายอดมาก  กางเกงแพรอย่างดี  เกี๊ยะเราก็ใส่กัน  ผมออกนอกบ้านผมก็ใส่เกี๊ยะ 


 


เมืองไทยนี่มันเป็นเมืองที่ประเสริฐครับ  ที่เป็นศูนย์รวมของคนลี้ภัย  ลี้ภัยทางเศรษฐกิจ  ลี้ภัยทางการเมือง  คนจีนนี่ไม่พูดถึง  คนเปอร์เชียนี่มาโดยบังเอิญทำธุรกิจเข้ามาผ่านทางเช็กอาหมัด   หรือคนอาหรับ  คนนับถือศาสนามุสลิมเข้ามาก็ผ่านมาทางอินโอนีเซียมาค้าขายอยู่ปัตตานี  เช็กอาหมัดเลยมาตั้งรกรากอยู่ที่ปัตตานี  คนไทยหลายตระกูลก็สืบเชื้อสายเช็กสุไลมาน  ผมเข้าใจว่าพล.อ.เชาวลิต  ก็เป็นคนหนึ่งในเชื้อสายนั้น


 


คนจีนก็มาเป็น 300-400 ปีแล้วครับ  ใครมาคนไทยกลืนหมด  เขาลี้ภัยมาคนจีนมาหอบหมอนมาใบเสื่อมาผืนหนึ่ง  ทิ้งเมียจีนไว้  คนไหนมีเมียแล้วทิ้งเมียจีนไว้ที่เมืองจีน  คนไหนไม่มีเมียก็มานี่แล้วก็มาแต่งงานกับคนท้องถิ่น  ผมก็ใช่เหมือนกันมาแต่งงานกับคนไทย  คือมาแต่งงานกับคนท้องถิ่นซึ่งคนท้องถิ่นนั้นบางคนก็มีเชื้อสายจีน  บางคนก็มีเชื้อสายมอญ  บางคนก็มีเชื้อสายโปรตุเกส  บางคนก็มีเชื้อสายแตกต่างกันไป  พม่า  จึงเป็นศูนย์รวม  จีนก็มา  มอญก็เข้ามา  มอญเขาก็มีชาติแต่เขาไม่มีแผ่นดิน  ปัจจุบันเมื่อประมาณ 3-4 วันก่อนผมได้รับรายงานคนมอญ  มาจากทั่วสารทิศ  มอญทางด้านผมก็มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4  วันก่อนผมไปที่เกาะเกร็ด  ใกล้ๆ ปากเกร็ดตรอกนั้นก็เป็นคนมอญทั้งนั้นเลย  ผมไปเยี่ยมหมู่บ้านเขา  พยายามรักษาความเป็นมอญอยู่  เสื้อผ้าที่เขาแต่งก็เป็นมอญ  วิธีที่เขาต้อนรับผมก็ต้อนรับแบบมอญ 


 


คุณปู่ผม  คุณพ่อของปู่ผมมาจากอำเภอโพธาราม  สร้างวัดให้ชื่อวัดโพธาราม  คุณพ่อผมมาสร้างโบสถ์ให้ทีหลัง  วัดนั้นพระพุทธก็สวดเป็นภาษามอญ  เขาไม่เห็นมีใครมานั่งยึดว่าพวกนี้ต้องการแบ่งแยกดินแดนหรือทำตัวเป็นปฏิปักษ์  ทรยศต่อผืนแผ่นดินไทย 


 


ภาษาก็เหมือนกัน  เราต้องยอมรับครับว่าเขาเป็นคนไทยมลายู  คือคนไทยเชื้อชาติมลายู  เหมือนอย่างที่ผมเป็นคนไทยเชื้อชาติมอญเชื้อชาติจีน  พวกคุณทั้งหลายอาจจะไทยแต่เชื้อชาติอะไรผมก็ไม่รู้  ในเมืองไทยใครเข้ามาถูกกลืนหมด  แต่การกลืนไม่ใช่เป็นการกลืนโดยบังคับนะครับ  เป็นการกลืนโดยกระบวนการธรรมชาติ  ผ่านไป 2 ช่วงอายุคน  3 ชั่วอายุคน  4  ชั่วอายุคน  แต่ความแตกต่างของการกลืนชาติหรือชนชาติอื่นกับไทยมาเลย์นั้น  เราก็คงรู้ว่ามันมีความแตกต่างบางอย่างเราทำไม่ได้


 


จีนที่มาในเมืองไทยนั้นในฐานะผู้ลี้ภัย  อดอยากมา  โหยกระหายมา  มาถึงมาหาที่อยู่ใหม่มาหาบ้านใหม่  แล้วมาเจริญเติบโต  ในสภาเมืองไทย 500 คนนี่มีคนเชื้อสายจีนผมว่าครึ่งหนึ่งแล้วมั้ง   สมัยผมเมื่อ 30 ปีที่ไปเปิดความสัมพันธ์กับเมืองจีนเนี่ย  ผมจำไม่ได้จำนวนส.ส.ตอนนั้นเมืองไทยมีเท่าไหร่  400 คนมั้ง  ผมว่ามีเกือบ 100 คนนะที่พูดภาษาจีนได้  ทั้งๆ ที่ครั้งหนึ่งรัฐบาล จอมพล ป. รัฐบาลทหารสมัยนั้นก็ห้ามไม่ให้มีการเรียนภาษาจีน  ปิดโรงเรียนจีน  คนจีนต้องเปลี่ยนชื่อเป็นคนไทย  ห้ามนุ่งกางเกงแพร  ห้ามใส่เกี๊ยะ  ห้ามขากเสลด  พอจีนชนะสงคราม  จีนตั้งตัวเองเป็นใหญ่เลี้ยงพระเลยสมัยนั้นจำได้ไหมครับสมัยนั้น  ที่เยาวราชที่สีลมที่บางลำภู  เลี้ยงพระคนไทยเพราะนึกว่าตนเองเป็นมหาอำนาจ  ปิดร้านค้า  ผมจำได้ตอนผมเด็กๆ เนี่ยที่บ้านไม่มีอะไรทาน  ก็สมัยนั้นทุกร้านค้าเป็นของคนจีนคือคนไทยจีน  นั่นมัน 50-60 ปีที่แล้ว  หลักฐานจนป่านนี้ไงอย่าว่าแต่คนไทยเชื้อสายจีนอยากให้ลูกเรียนภาษาจีนเลย  คนไทยที่ไม่มีเชื้อสายจีนก็อยากให้ลูกเรียนภาษาจีนและก็เรียนได้  เพราะภาษาจีนกลายเป็นภาษาระหว่างประเทศไปแล้ว  เป็นภาษาการค้าไปแล้ว


 


คิดดูแล้วในเมืองไทย  ทางเหนือเขาก็มีภาษาท้องถิ่นคำเมือง  อีสานเขาก็มีภาษาลาว  คุณไปปราจีนบุรี  บุรีรัมย์  ก็พูดภาษาเขมร  คุณไปเชียงรายก็มีคนพูดไทยใหญ่  คุณไปทางเหนือของปักษ์ใต้  เหนือนครศรีธรรมราชขึ้นมาหรือเหนือ 3 จังหวัดขึ้นมาก็มีภาษาใต้


 


คุณทักษิณ  นายกรัฐมนตรีของเราปัจจุบันไปเชียงใหม่ก็พูดภาษาท้องถิ่นภาษาคำเมือง  คุณชวน  อดีตนายก รัฐมนตรีไทย  ไปปักษ์ใต้ก็พูดภาษาใต้  คุณเนวิน  ชิดชอบ  ไปปราจีนบุรีไปบุรีรัมย์ก็พูดภาษาเขมร  รัฐมนตรี ส.ส. ไปอีสานก็พูดภาษาลาว  แล้วมันแปลกอะไรกันที่คนไทยเชื้อสายมลายูเนี่ยเขาจะพูดภาษามลายูซึ่งมันเป็นภาษาต่างประเทศ  เขาพูดมลายูโดยใช้อักษรยาวี  ซึ่งต่างจากอักษรที่ใช้ในมลายู  เขาพูดมลายูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  สำเนียงใกล้เคียงพวกกลันตัน  เพราะมันผูกโยงเรื่องรัฐกลันตันกับรัฐปัตตานีมันมีมานมนาน


 


ฉันใดฉันนั้น  คนไทยมลายูที่อยู่ที่สตูลก็จะพูดภาษามลายูสำเนียงใกล้เคียงกับคนมลายูแถวรัฐเกดะห์ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน


 


ทำไมเราไปกลัวเขา  ทำไมเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่หัดเรียนภาษาท้องถิ่น ทำไมไปแสดงความเหยียดหยาม  ไปแสดงความโมโหว่าเขาไม่รู้ภาษาไทย  ความผิดของเขาหรือ  เป็นความผิดของระบบการศึกษาเราต่างหาก ที่สตูลเรามีพ่อเมืองที่ดีคือพระยาอะไรผมจำไม่ได้ และต่อมาลูกชายเขาก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด  อย่างที่ผมเรียนให้ทราบครับ  เมื่อ 30 ปีเมื่อเช็คสถิติเนี่ยคนสตูล  98-99 % พูดภาษาไทยได้  ถ้าเผื่อคนที่ปัตตานีหรือนราธิวาสหรือที่ยะลายังพูดภาษาไทยไม่ได้เท่าที่ควรจะพูด  โดยเฉพาะที่อยู่ในอำเภอหรือตำบลตากใบมันความผิดของเขาหรือครับ  ทำไมไม่มาสำรวจ  เพราะฉะนั้นความผิดอยู่ที่ระบบการศึกษาของเมืองไทย  หรือความผิดของผู้ว่า  หรือความผิดของศึกษาธิการจังหวัดอะไรก็แล้วแต่  ผมพูดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยนะ  เราจะโทษเขาทำไม  ให้โอกาสเขาได้เรียนภาษาไทย  ให้โอกาสไปเรียนโรงเรียนดีๆ   เขาอยากไปเรียนปอเนาะก็ไม่ใช่ของแปลก  ทำไมไปมองปอเนาะว่าปอเนาะเป็นศูนย์แห่งการฝึกอบรมก่อการร้าย  เปล่าเลย  โรงเรียนปอเนาะเป็นโรงเรียนสอนศาสนาธรรมดา


 


วัฒนธรรมกับจารีตประเพณีท้องถิ่นเราต้องเคารพ  เราคนไทยไม่เห็นรู้สึกแปลกเลยที่คนมอญจะมีมหกรรมใหญ่ที่โรงละครแห่งชาติ  คนเหนือเขาจะมีการแสดงมหกรรมแต่งตัวแบบเหนือ  คนอีสาน  คนใต้  ทำไมเราถึงรับไม่ได้  อันนี้คือปัญหาใหญ่ของคนไทยคือทัศนคติ  ไม่ใช่ทัศนคติของคนไทยพุทธที่อยู่ในพื้นที่เท่านั้น  ไม่ใช่ทัศนคติของคนไทยมาเลย์ที่อยู่ในพื้นที่เท่านั้น  แต่ทัศนคติของคนไทยอีก 58 ล้านคนที่อยู่ทั่วประเทศ


 


ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ศาสนา  องค์กรอิสลามในเมืองไทยเขาบอกเลยว่าไม่ใช่  อิสลามก็มีอยู่ทั่วไปในเมืองไทย  บ้านแขกก็มีครู   มีนบุรี  หนองจอก  ปทุมธานี  อยุธยา  บางกะปิ  เชียงใหม่  คนไทยมาเลย์ก็เคยเป็นตำแหน่งใหญ่โต    คุณวันนอร์  ก็เคยเป็นประธานสภา  คนไทยมุสลิมจากนครศรีธรรมราชก็เคยเป็นอธิบดีกรมต่างประเทศ  ดร.สุรินทร์  ในคณะกรรมการสมานฉันท์ผมก็เอาคนทั้งพุทธทั้งมุสลิมมาปนกันหมด  ทั้งพื้นที่นอกพื้นที่  ทั้งข้าราชการทั้งนักการเมือง  เราต้องเข้าใจกันเอง  เราเป็นเหยื่อครับ  คนไทยที่นั่งอยู่ที่นี่ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ก็เป็นเหยื่อของการโฆษณาชวนเชื่อของการปลูกฝัง  ข้อเท็จจริงที่มันถูกต้องของการปลูกฝัง  ความเชื่อถือที่บิดเบือน  ทัศนะที่สร้างขึ้นมาเพื่อรักสันติภาพ


 


อยากจะถามว่าคนที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นคนดีทั้งหมดหรือไม่  คำตอบคือไม่ใช่ ฉันใดฉันนั้น  ในศาสนาพุทธ  ศาสนาพุทธก็เป็นศาสนาที่ดี  ศาสนาคริสต์ก็เป็นศาสนาที่ดี  แต่อาชญากรรม  ความไม่ดี  ความเลวร้ายของคน  คอรัปชั่น  อะไรต่างๆ มันก็มีทุกศาสนา  งั้นจะไปว่าศาสนาเขา  เราต้องตาบอดสีครับ  มานั่งอยู่นี่ก็ไม่เห็นนะ ว่าคนนี้ใส่ชุดทหาร  คนนี้ใส่ชุดพลเรือน  คนโน้นใส่ม่อฮ่อม  ลืมครับ  ต้องลืมด้วยว่าพวกเขาพวกเรา  ฉันฝ่ายปกครอง  นั่นพวกเรา  นั่นฝ่ายประชาชน ผู้รับการปกครองจากพวกเรา  อย่างงี้ไม่ได้  ต้องบอกความจริง  การยอมรับความจริง  การยอมรับผิด  อันนั้นเป็นพื้นฐานของการนำไปสู่การสมานฉันท์


 


เพราะว่าการบอกความจริง  การพูดความจริง  เปิดเผยความจริง  ยอมรับรับผิดชอบ  รับผิด  อันนั้นแหละครับจะเกิดเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขจัดความระแวง  ความหวาดกลัว  ความไม่ไว้ใจ  หลังจากนั้นก็ต้องทำเรื่องอื่นต่อไป


 


ปัญหาขณะนี้หนัก  คนไทยก็บอกโอ๊ยมีคณะกรรมการสมานฉันท์แล้วทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย  ไม่จริงคนไทยชอบพูดคิดง่ายๆ เริ่มต้นยังไม่รู้คณะกรรมการสมานฉันท์มีมาเพื่ออะไร  คณะกรรมการสมานฉันท์มีมาหลักใหญ่เพื่อวางพื้นฐานของการนำไปสู่สันติสุข  นำไปสู่สังคมที่สามารถอยู่ร่วมกันได้  โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ  ศาสนา เป็นระยะยาว  เราจะเพ่งเล็งไปในเรื่องการให้ประชาชนได้รับความยุติธรรม  เพราะปัจจุบันนี้ประชาชนรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม  แต่ปัจจุบันนี้ที่โครงสร้างของรัฐบาลนี้ที่พื้นที่นะครับสั่นคลอนมาก  ผมอยากเห็นคุณทักษิณเข้ามาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง  ขณะนี้นายกก็เห็นใจมีปัญหาการเมือง  ปัญหารอบด้าน แต่ปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาที่สำคัญมาก  ถามว่าปัญหานี้รุนแรงมากถึงกับต้องหวั่นกลัวอย่างที่คนไทยหวั่นกลัวหรือเปล่า  ผมว่าเว่อร์ไปครับ 


 


ประวัติศาสตร์ทั่วโลก  ที่อเมริกาประเทศที่มีประชาธิปไตย  คุณไปเท็กซัสก็มีพูดถึงเรื่องอยากแบ่งเท็กซัสออกมาจากประเทศโลซานเสตทเขาก็ปล่อยให้พูดไป  ตราบใดที่เขาพูดได้เขาก็ไม่จับอาวุธ  ที่แคนาดา  แคนาดาเนี่ยอังกฤษได้มาจากการรบกับฝรั่งเศส  ฝรั่งเศสเป็นเจ้าของเก่า  ถ้าคุณไปทางตะวันตกของแคนาดาเริ่มจากอ่าวตะวามา  ตะวันโต  ซัสเกสโชนส์  มีนีโตบ้า 42.11 บริติชโคลัมเบีย  พวกนี้แองโกลเซ็กชั่น เชื้อชาติเป็นคนอังกฤษ  แต่ที่ควิดเด็กนี่เชื้อชาติฝรั่งเศสหมด  กระบวนการแบ่งแยกดินแดนมีอยู่เสมอ


 


แต่น้ำในกระติกร้อนเนี่ยนะครับ  เมื่อเผาน้ำอยู่เรื่อยฝาปิดแน่นเกินไป  ฝาระเบิดครับ  ต้องแง้มฝาไว้นิดหนึ่งให้ไอน้ำออกมา  ให้เขาได้มีโอกาสออกความเห็น  ตราบใดที่เขาไม่ใช้อาวุธ  ตราบใดที่เขาไม่ใช้ความรุนแรง  ตราบใดที่เขาไม่ทำผิดกฎหมาย  แต่ว่านี่ไปอุ้มเขา  ไปยิงเขา  ไม่ยอมรับศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของเขา  ไม่ยอมรับวัฒนธรรมจารีตประเพณีของเขา  ใช้ความรุนแรงเพื่อผลประโยชน์  จะเป็นเพื่อผลประโยชน์ของนโยบายของรัฐบาลหรือเปล่าก็แล้วแต่  หรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวทางด้านธุรกิจ  ไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน  ทำเกินขอบเขตกระบวนการทางกฎหมาย  กระบวนการทางยุติธรรม  สิ่งเหล่านี้สังคมไทยต้องไม่ยอมรับ  และรับไม่ได้  แต่รัฐบาลต้องออกมาด้วยความจริงใจ  43.50


 


ว่าที่บอกว่าตอนนี้นโยบายเปลี่ยนไปแล้ว จากการใช้ความรุนแรง  จากใช้การปราบอย่างเดียวมาเป็นนโยบายของการใช้สันติวิธีแล้ว  ไม่ใช่แต่พูด  ต้องให้เป็นที่ประจักษ์ครับ  และไม่ใช่พูดแต่ข้างบนอย่างเดียวต้องแน่ใจด้วยว่าทั้งกระบวนตั้งแต่ต้นตั้งแต่หัวถึงหางเดินไปในทิศทางเดียวกันคือสันติวิธี ไม่ละทิ้งการปราบ ไม่ใช่ยอมจำนนกับผู้ไม่หวังดี  ผู้ก่อการร้าย  แต่ต้องทำภายใต้กฎเกณฑ์ในกรอบของกฎหมาย  ในกรอบของมนุษยชน  สิทธิมนุษยชนและในกรอบของมนุษยธรรม


 


44.58ทุกสังคมครับ  ถ้าเผื่อเขาไม่ได้รับความยุติธรรมเขาจะกลัว  เขาจะเกิดความรู้สึกว่าเขายังเป็นประชาชนประเภทที่สอง  ยังได้รับดูถูกดูแคลนอยู่  ในความกลัวนี้เป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะถ้ามันเกิดความกลัวแล้วเนี่ยครับ  ฟันต่อฟัน  ตาต่อตานี่ไม่จบ  อิสราเอลในอาหรับสู้กับปาเลสไตน์มาเกือบ 50 ปี ไอร์แลนด์ไอริสรีพับริกันอาร์มี่กับรัฐบาลอังกฤษสู้มากว่า 20 ปีแล้ว ตายไป 7 หมื่นกว่าคน  เดี๋ยวนี้ก็ต้องมานั่งคุยกัน  เขาเปิดโอกาสให้คนหัวรุนแรงในสิ่งที่เรียกว่ากระบวนการไอรีสรีพับริกันอาร์มี่หรือภายใต้พรรคการเมืองที่ชื่อเฟรมก็เข้าไปนั่งในสภาได้


 


รัสเซียก็มีปัญหาที่เช็สเนียร์  เช็สเนียร์เนี่ยเป็นรัฐในรัสเซียที่เป็นคนมุสลิมส่วนใหญ่   ในโกสบาเวียสมัยก่อนก็เริ่มมีปัญหาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว  บอสเนียร์  โครเอเชีย แตกกันไปหมด พม่าเองก็มีปัญหากับคนส่วนน้อย  ทุกประเทศ  เมืองจีนก็มีปัญหา  อย่าว่าแต่คนในศาสนาไม่ไว้ใจแล้วสู้กันเลย  ในเมืองจีนคนมุสลิมก็ฆ่ากันเองเคลียร์กันทั้ง 2 ฝ่าย  ที่เมืองจีนเองก็มีมุสลิมนะ  ครั้งหนึ่งเมื่อ 30-40 ปีเนี่ยที่อินโดนีเซียก็เจ้าคุกมาเลเซีย  เพราะคนอินโดนีเซียเขาถือว่าเขามาจากพวกดั้งเดิมพวกยาวา  พวกสุมาตรานี่เป็นพวกมลายูมาตั้งหลักฐาน  มาเลเซียเป็นประเทศเล็กกว่าทำอะไรไม่พอใจซูกาโน่ขู่เลย  ดังนั้นนโยบายเผชิญหน้าที่เรียกว่าควอนรันตาซี  คอนวันตริเอชั่น 


 


47.20ดังนั้นนี่เป็นนิสัยมนุษย์  เพราะฉะนั้นสรุปแล้วเราต้องดูแลพื้นที่กันให้ดีกว่านี้ในทางด้านการปกครอง  ในทางด้านการบริหาร  เราควรต้องให้การยอมรับและเคารพต่อวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของทุกคน  ทั้งสองฝ่ายเราต้องให้ความเคารพและยอมรับความเป็นพุทธของคนไทยด้วยเหมือนกัน  เขาเป็นคนส่วนน้อยเขาก็ย่อมมีความกลัว  คนไทยพุทธก็ถูกฆ่าทุกวัน  แต่คนไทยมลายูคนไทยมุสลิมก็ถูกฆ่าทุกวันเหมือนกัน  ก็เลยไม่รู้ใครฆ่าใครแน่เพราะจับก็จับไม่ได้


 


เขาต้องได้รับความยุติธรรมต่อกลุ่ม  ถ้าเผื่อรัฐไม่สามารถให้ความสงบเกิดขึ้นได้ใน 3 จังหวัดในระยะอันใกล้นี้เนี่ย  ผมถือว่าเป็นการล้มเหลว  เพราะรัฐมีหน้าที่ที่จะต้องรักษาความสงบ  สิ่งที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกเป็นพีซคีบปิ้งครับ  peace  keeping   เพราะว่ารัฐมีกลไกอยู่แล้ว  มีข้าราชการทั้งหลายทางด้านการปกครอง  มีตำรวจที่เรา  48.43  เรียกว่า  ……..emergencyเดี๋ยวนี้ทหารก็มีรากศัพท์  ....emergencyเหมือนกัน มีหน่วยงานทุกอย่าง  หน้าที่รักษาความสงบประจำวันนี้เป็นหน้าที่ของรัฐ  ถ้าเผื่อรักษาความสงบประจำวันไม่ได้  โอกาสที่จะสร้างความสงบในระยะยาวก็น้อยลงไป  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องทำขนานกันไปและต้องช่วยกัน ต้องช่วยกัน และคนที่จะช่วยได้มากคือสื่อครับ  สื่อ


 


ไม่ว่าผมไปพูดที่ไหน  ผมไม่ได้พูดเฉพาะคนไทยมลายูในปักษ์ใต้หรือคนไทยพุทธในปักษ์ใต้เท่านั้นครับ  ผมพูดกับคนไทยทั่วไป  ถ้าเกิดไปอ่านพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พระราชดำรัสไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้วเนี่ยผมจำไม่ดีไม่รู้อยู่ไหน  กำลังค้นหาอยู่  ท่านสะท้อนสังคมไทยว่าเป็นสังคมหลากหลายอยู่รวมกันหลายเชื้อชาติหลายศาสนา  ก็อยู่กันมาด้วยความสุขตลอดเวลา


 


50.00เราต้องเข้าใจลึกซึ้งต้องเรียนประวัติศาสตร์  อย่าลืมนะครับว่าคนจีนที่พลัดถิ่นมา  คนมลายู ไม่ใช่คนมลายู  คนจีน  คนพม่า  คนมอญ  คนอะไรเนี่ยเขาพลัดถิ่นมา  แต่คนไทยที่เราเรียกว่าคนที่ปัตตานีเนี่ย  เขาอยู่ที่นั่นมานานแล้วครับ ก่อนเป็นรัฐปัตตานีซึ่งเฟื่องฟูมากก็เป็นท่าเรือใหญ่  ก่อนหน้านั้นก็มีอาณาจักรรัฐประหิต   อาณาจักรศรีวิชัย  อาณาจักรศรีวิชัยก็มีเมืองหลวงที่นครศรีธรรมราช  ในสมัยนั้นทางแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น  กลันตัน  วาเกดะห์   คนมลายูเขา  คนที่เราเรียกว่าคนไทย  คนไทยเนี่ย เราต่างชาตินะ  เราย้ายมาจากเมืองจีนเมื่อ 800 ปี  สมัยนั้นในสุวรรณภูมิเนี่ยมันมีคนอยู่ 5 ชาติ ก็มีอยู่คนพม่า  คนมอญ  คนเขมร  คนเวียดนามและคนมลายู  เราพลัดถิ่นมานะ  เรามาผสมผสานกับคนที่อยู่ที่นั่นแล้ว  แต่ก่อนหน้านั้นอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก  แล้วเราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย  ในตอนนั้นคนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว  เขาพูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย


 


อันนี้คือความจริง  สมัยก่อนก็มีหมด  อาณาจักรล้านนา  อาณาจักรน่าน  อาณาจักรหลวงพระบาง  อาณาจักรเวียงจันทร์  ฉันใดฉันนั้นก็มีอาณาจักรปัตตานีซึ่งรวมอยู่ด้วย  ในสมัยก่อนนั้นน่ะ 800 ปี  คนที่อยู่ในปัตตานีมลายูเป็นคนฮินดูนะครับ  คนฮินดูคนพราหมณ์  จนกระทั่งพวกพ่อค้าอาหรับเข้ามาทางอินโดนีเซีย  และบางส่วนก็ย้ายเข้ามาที่เมืองไทยเช่นแขกสุไลมาน  ศาสนาอิสลามเข้ามาในพื้นที่นั้นเพียง 500 ปีเท่านั้นเอง  500-600 ปี  แต่ก่อนหน้านั้น 800ปี  900 ปี ฮินดูครับ  จนบัดนี้บาหลีก็ยังเป็นฮินดูอยู่  ในหมู่เกาะของมาเลเซียทั้งหมด  ประเทศมลายูพลเมืองส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิม  อินโดนีเซีย  200 กว่าล้านคน  250 ล้านคน พลเมืองส่วนใหญ่ก็เป็นมุสลิม  แต่ก็อาจจะมีฮินดูที่บาหลี  มีคริสเตียนที่สลาวี  53.03  ทั้ง 2 ประเทศนี่นะครับ  วันหยุดราชการเขาเนี่ย  พุทธศาสนาก็หยุด  วิสาขบูชา  วันคริสต์มาสเขาก็หยุด  วันสำคัญทางศาสนาฮินดูเขาก็หยุด ผมไม่ได้บอกว่าเราต้องเอาอย่างเขา  แต่ผมเรียนสื่อก็คือว่าคนเราในสมัยนี้ต้องใจกว้างครับ


 


53.34สังคมไหนที่มีแต่คนใจแคบเห็นแก่ตัวเอง  เห็นแต่พวกพ้อง  นึกแต่ญาติพี่น้องนึกแต่เพื่อนฝูงจนคนนั้นเจริญไปไม่ได้  เราจะเห็นเลยในสังคมไทยเนี่ยคนจำนวนไม่น้อยครับที่ใจแคบ  คนที่ใจแคบเอาผลประโยชน์ใส่ตัวเองคนเดียว  ไม่มองถึงความรู้สึกของคนอื่น  ความนึกคิดของคนอื่น  สิทธิของคนอื่น  หรือความหวังของคนอื่น 


 


ก่อนผมจะจบรายการนี้ผมจะเปิดให้มีการตั้งคำถาม  มีหนังสือเล่มหนึ่งผมบังอิญได้ไปอ่านเป็นหนังสือที่เขียนโดย ดร.อารมณ์  สุทธิศักดิ์  ท่านเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตอนนี้ท่านเกษียณแล้ว  ตอนผมเปิดอ่านใหม่ๆ ผมไม่ได้อ่านละเอียด  ผมค่อยๆ พลิกดูก็รู้สึก  เอ๊  นี่เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ปักษ์ใต้เมื่อปีที่แล้วนี่  พอพูดถึงเหตุการณ์แล้วต้องพูดถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไข  ซึ่งวิธีแก้ไขเราต้องรู้เรื่องประวัติศาสตร์ด้วย  อ่านไปอ่านมาเปล่าครับ  หนังสือฉบับนี้เขียนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว  เมื่อ พ.ศ.2519  เขียนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์เดินขบวน  ปะทะกันที่ปัตตานี  เมื่อเดือนธันวาคม 2518 ผมจะทิ้งไว้ 2 ชุด  สำหรับที่กรมฯ และผมขอร้องทางกรมครับช่วยเผยแพร่ให้ด้วย  เพราะผมได้รับจากอาจารย์อารมณ์เนี่ย  เพราะหนังสือนี้หาซื้อที่ไหนไม่ได้แล้ว  อาจารย์อารมณ์บอกว่าใครที่สนใจผมอยากให้อ่านและผมอ่านแล้วรู้สึกว่า  โอ้  ตกลงเมื่อ 30 ปีที่แล้วเนี่ย  ไอ้ปัญหาก็ปัญหาเดิม  สาเหตุก็สาเหตุเดิม  ไอ้วิธีแก้ไขตอนนั้นก็คือวิธีการแก้ไขเมื่อปีที่แล้ว


 


ทั้งนี้มีคำพังเพยในภาษาอังกฤษเขาบอกว่า  คนเราถ้าไม่รู้จักประวัติศาสตร์เนี่ยก็จะถูกประวัติศาสตร์ ก็จะเป็นเหยื่อประวัติศาสตร์ตลอดเวลา  เพราะถ้าเราอ่านประวัติศาสตร์เรารู้  เรารู้ทั้งความผิดพลาดและความสำเร็จ  เราก็จะเรียนรู้ว่าไอ้ที่ผิดพลาดในอดีตเนี่ยเราจะได้ไม่ทำซ้ำ  แต่ถ้าเกิดเราไม่อ่านนะครับ  ผ่านมา 30 ปีใหม่ก็ยังทำซ้ำอีกเพราะไม่เคยรู้อันเก่า  อันนี้ผมแนะนำนะ


 


ขณะเดียวกันผมเคยไปพูดในรายการคม ชัด ลึก  และที่ไปพูดนี่เป็นภาษาอังกฤษผมพูดที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในเมืองไทย  ผมจะทิ้งไว้นะครับ  ถ้าเผื่อขอความกรุณาถ้ามีงบประมาณท่านผู้ฟังเนี่ย หรือใครก็ตามที่สนใจนะครับ  ไม่ว่าจะเป็นหนังสือชุดนี้หรือเป็นอันนี้นะครับ  เชิญครับ  อธิบายดีจนเกินไปจนไม่มีคำถาม เชิญถาม


 


เราก็มีติดต่อรัฐบาลโดยผ่านรัฐมนตรีที่ผมเอ่ยชื่อถึง หรือพูดกับท่านนายกโดยตรงก็มีการเสนอแนะวิธีต่างๆ ในระยะสั้น  ซึ่งส่วนใหญ่นายกก็เห็นด้วย  จุดอ่อนคือบางอย่างยังไม่ได้ทำ  อันนี้ก็ต้องเร่งหน่อย  เอ่อ เรื่องของงานของคณะกรรมการสมานฉันท์จะเป็นเรื่องของการวางแผนระยะยาว  คือมันไม่สามารถจะไปตามทุกๆ เรื่องได้  ทุกเรื่องทุกวันมันมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอาจจะเป็นความผิดของใครก็แล้วแต่เนี่ย  สมมติว่าเรามัวแต่ไปตามกรือเซะบ้าง  ตากใบ สะบ้าย้อย  เราคงไม่ต้องทำอะไร  ดังนั้นเราก็แนะนำรัฐบาลไปว่ากรือเซะน่าจะทำยังไง 


 


ตอนนี้มีปัญหาที่สำคัญมากวันนี้มันทำให้เกิดความสงสัยในหมู่ประชาชนมากว่า  เอ๊  ที่จับกันไม่ได้เนี่ย ฆ่ากันตาย  ยิงกันบาดเจ็บสาหัส  มีระเบิดทำไมจับกันไม่ได้  จับกันไม่ได้เพราะอะไรรู้ไหมครับ  เพราะในปัจจุบันสถานการณ์ปัจจุบันเนี่ย  ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจรัฐบาลหรือความเกรงกลัวก็ทำให้ไม่มีใครเขาพูด  ไม่พูด ประชาชนนี่ไม่พูด  เราต้องเข้าใจลักษณะของมุสลิมเขาด้วยที่ไม่พูดเพราะอะไร  ผมรู้ว่าแม้แต่คนที่อยู่ในคณะกรรมการสมานฉันท์นั้นก็ไม่ได้พูด  แล้วถ้าเกิดคนไม่พูดเนี่ยพยานหลักฐาน  พยานปากเนี่ยแทบไม่มีเลย  เมื่อพยานปากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พยานทางด้านวิทยาศาสตร์  ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์  เอ้า  พอถึงใช้นิติวิทยาศาสตร์เนี่ยสมัยใหม่ก็มีเครื่องไม้เครื่องมือ  เจ้าหน้าที่ ก็ทหารก็ไม่ให้เข้าไปตรวจ  ตำรวจก็ไม่ให้เข้าไปตรวจ ผมไม่ทราบว่าเหตุผลใด  คนก็สงสัยบอกว่า เอ๊ะ  หรืออย่างนี้ทหารตำรวจมีอะไรที่จะปกปิดหรือ  หรือทหารกับตำรวจนี่มีความผูกโยงกับมีความข้องเกี่ยวกับคดี  เพราะนั้นถ้าผมเป็นทหารตำรวจและผมบอกว่าผมบริสุทธิ์  ช่วยเถอะครับ อันนี้ผมก็พูดกับคุณทักษิณแล้ว  ตกลงแล้วว่าจะให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์สังกัดกระทรวงยุติธรรมเนี่ยเป็นหัวเรือใหญ่และทำงานร่วมกับทหารร่วมตำรวจ  แต่เมื่อมีคำสั่งออกไประดับล่างเนี่ยบอกให้ทำไปคนเดียว  ไอ้สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คณะกรรมการสมานฉันท์ไปบังคับรัฐบาลไม่ได้ 


 


เสนอแนะรัฐบาลได้ว่ามันน่าจะอย่างนั้นอย่างนี้  ทั้งในข้อเท็จจริงและในหลักการในความเป็นไปได้  เพราะถ้าเกิดไม่ทำ  ไม่ทำอะไรเลยมันก็จะต้องถึงตัวนายกอยู่ดี  คนถูกอุ้มหายไปเนี่ย  คนในพื้นที่เขาก็เริ่มสงสัยและก็สงสัยมานานแล้วว่าคุณทักษิณสั่งหรือเปล่า  ผมก็ไปบอกคุณทักษิณ  ถ้าคุณทักษิณไม่ให้ความกระจ่างเนี่ย  ว่าคนคนนี้มันหายไปไหน มันหายไปอย่างไร  และขณะนี้อยู่ที่ไหน  มันถึงตัวคุณแน่  มันถึงตัวคุณแน่  ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่เป็นธรรม  ไม่เป็นธรรมกับนายก  แต่นายกก็มีอำนาจจะแก้ไขตรงนี้ได้  ให้ความกระจ่างแจ้งได้  ถ้าเกิดรู้ว่าใครอุ้มก็บอกมาสิ สอบสวน ยืนยัน  ผมคุยกับพวกผู้เป็นเหยื่อหรือครอบครัวของผู้เดือดร้อน เขาบอกว่าเขาไม่ได้มันไม่ได้อยู่ในศาสนาที่จะไปแก้แค้นคนอื่น  เขาอยากรู้ความจริง  สังคมที่ไม่ขวนขวายหาความจริงนั้น  สังคมที่ไม่สนใจเรื่องความจริงนั้น  ผมว่าสังคมนั้นด้อยคุณภาพ


 


อันนี้สื่อต้องเข้ามาช่วย  จึงต้องขอให้อ่านหนังสือประเภทนี้ครับ  รู้ประวัติศาสตร์รู้อะไรบ้าง  รู้วัฒนธรรม รู้จารีตประเพณี  ไม่ใช่จะเอาเงินไปช่วยเหลือปักษ์ใต้นะ  คือรัฐบาลนี่ใจดีตั้งงบประมาณไว้  แต่ตอนนี้ยังไปไม่ค่อยถึงนะฮะ  เสร็จแล้วไม่มีอะไรก็จะเอาเงินจากสลากกินแบ่งมา  คนที่เขานับถือศาสนาอิสลามเขาจะรับเงินจากล็อตเตอรี่ไม่ได้นะ  แต่นี่เราเสนอไปรัฐบาลก็ต้องเปลี่ยนคติใหม่  เพราะอะไร  เพราะไม่เข้าใจไง  ในเมื่อพวกเรานี่ไม่ใช่ว่าผมต้องเข้าใจ  แต่พวกคุณต้องเข้าใจ  นายกต้องเข้าใจ  รัฐมนตรีต้องเข้าใจ  ภาครัฐต้องเข้าใจ  โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจต้องเข้าใจมาก  ไอ้ผมไม่เข้าใจนี่ไม่เป็นไร  ไม่มีอำนาจ  แต่คนที่มีอำนาจต้องเข้าใจ


 


ผมอยากให้ทางทหารตำรวจเนี่ยพิมพ์แจกอ่านทั่วกัน  เพราะทหารบางทีมาจากอีสานมาจากอุบล  มาจากไหนๆ เราต้องเห็นใจเขา  แต่ผมก็ถามทหารว่าเดี๋ยวนี้ดีขึ้นมีการจัดทำหลักสูตรอะไรต่างๆ  แต่ถ้าให้เขาเป็นหนังสืออ่านประกอบถ้าเขาอยู่ปักษ์ใต้แล้วไม่มีอะไรทำให้เขาอ่านนะ  ให้ต้องไปจับนั่งอ่านหมด  กรมน. กลาโหม  ตำรวจ ต้องอ่าน  แล้วผมก็ยอมรับแต่ก่อนผมไม่รู้เรื่องพวกนี้ผมก็มาอ่านเพราะผมมาทำหน้าที่นี้  เหมือนกับที่ผมไปทำงานที่สหประชาชาติเมื่อปีที่แล้วผมก็อ่านเต็มหน้าเลย  มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับผมน่ะ  เรื่องปักษ์ใต้ก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับผม  ต้องอ่านต้องรู้ความจริง  เพราะการตัดสินในด้านนโยบาย  การตัดสินดำเนินมาตรการใดๆ ตัดสินโดยไม่มีพื้นฐานความรู้ความจริงได้  ไม่มีทางครับตัดสินผิดทุกที  อันนี้เป็นหลักบริหารแบบซีอีโอนะครับ  ไม่ใช่เป็นของเสียหายเลย  ผมจนป่านนี้อายุจะ 73 ผมก็ยังเรียนทุกวัน  ต้องเรียน  ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเก่งอยู่ที่เราพร้อมจะเรียนแค่ไหน  พร้อมที่จะรับความจริงแค่ไหน  อย่าหลอกตัวเอง  การหลอกตัวเองคือการฆ่าตัวเอง


 


นึกถึงทุกคน  ไม่มีอคติ  ทุกคนดี  ทุกคนต้องการความช่วยเหลือ เราทำงานร่วมกัน  อย่าไปคิดพวกเขาพวกเรา  แม้แต่ผมพูดกับคุณสิริชัย  บอกทำไมแม้แต่คนพวกที่ไปปิดถนนไปปิดอะไรเนี่ยก็พวกคนไทยมลายูมา  ผู้หญิงก็ใส่นี้มา ใช้วาจาบางอย่างไม่ค่อยน่ารักหรือแสดงอากัปกิริยาบางอย่างที่สงสัยคนนี้มากกว่าคนไทยพุทธที่แต่งตัว ความรู้สึกที่อยู่ในใจเก็บไว้ ไปทำหรือมีลักษณะการพูดจาที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาถูกเหยียดหยามเขาถูกมองเป็นราษฎรชั้นสอง  ผมว่าไม่ช่วยเลย  มันไม่ช่วยความสมานฉันท์  ดังนั้นท่านที่สนใจไม่ใช่เฉพาะทหารตำรวจ  มหาดไทยด้วย  ศึกษาด้วย  ขอให้คัดเลือกคัดเฟ้น  3 จังหวัดเป็นจังหวัดที่น่ารักมาก  ผมเคยไปก่อนหน้านั้นไปเมื่อ 10 ปีมาแล้วไป2 หน นี่ไปอีก 2 หนแล้ว  ภูมิประเทศสวย  คนดี คนน่ารัก  ถ้าเกิดมีความเชื่อใจซึ่งกันและกันไทยพุทธกับไทยมาเลย์ก็อยู่ด้วยกันมากี่ร้อยปี  บางครั้ง 10-20 ปีก็มีคน 500 คน หลายพันคน แต่เขาบอกไม่เกิน 2 หมื่นที่มีส่วนพัวพันการก่อการร้าย


 


ดังนั้นไม่ใช่ว่าไทยมุสลิมต้องการจับอาวุธอย่างเดียวนะ  ให้โอกาสเขา  จะเป็นอย่างนี้แน่นอน  ถ้าไม่มีหลักการใดๆ ผมเช็กหลายสายทั้งสายไทย สายฝรั่ง  สายไหนๆ ไม่มีหลักการใดๆ ที่จะทำให้เชื่อถือว่า  ว่าการก่อการร้ายในภาคใต้นั้นน่ะผูกโยงกับความสัมพันธ์กับกลุ่มอัลกออิดะห์  ไม่มีหลักฐานไม่มีหลักการใดๆ ที่จะทำให้เชื่อถือได้ว่าการก่อการร้ายภาคใต้นั้นเป็นผลจากการมีความสัมพันธ์กับเจไอ  ไม่มีหลักฐานไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ที่จะทำให้เชื่อถือว่าได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจากประเทศอาหรับ  ไม่มีการสนับสนุนจากมาเลเซีย  วิธีการบอมบ์ก็ดี  วิธีการฆ่าก็ดีก็ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ว่าพวกนี้เรียนรู้มาจากกลุ่มต่างๆ ที่อยู่ในชื่อ จริงอาจจะมีบางคนที่เคยไปเรียนรู้ในสงคราม....1.11.04  พวกมุสลิมก็ไปเป็นอาสาสมัครช่วยรบ ความจริงก็เสียงบประมาณ  แต่ในเรื่องบอม์บต่างๆ เนี่ย  เทคนิคต่างๆ เนี่ย  เรียนจากอินเตอร์เน็ตได้ครับ  สมัยนี้มันง่ายไม่ต้องไปฝึกที่ไหนหรอกครับ  เพราะฉะนั้นปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาภายใน  เป็นปัญหาท้องถิ่นและแก้ได้ที่ท้องถิ่น แก้ได้ในระดับท้องถิ่น   แก้ได้ในระดับรัฐบาลไทย  แต่ก็อย่าไปเป็นศรัตรูคือต้องไปร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย  เอาแหละครับขอบคุณมากครับ 


 


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net