แปลและเรียบเรียงโดย
เปรมใจ ใจกล้า
โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย
เรียบเรียงจาก
ILO GLOBAL REPORT Thai working hours 'too long'
ผลการศึกษาวิจัยล่าสุดขององค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือไอแอลโอ (ILO) พบว่า คนงานหนึ่งในห้าทั่วโลกหรือราว 600 ล้านคน ยังต้องทำงานเกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อให้มีรายได้ในระดับพอเลี้ยงชีพ ทั้งๆ ที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศได้กำหนดมาตรฐานสากลเรื่องชั่วโมงการทำงานมาเกือบจะร้อยปีแล้ว
ในประเทศไทยผลการสำรวจพบว่าแรงงานไทยร้อยละ 46.7 หรือเกือบครึ่งต้องทำงานเกินสัปดาห์ละ 48 ชั่วโมง โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับสาม อันดับสองคือเกาหลี ร้อยละ 49.5 และสำหรับประเทศที่มีระยะเวลาการทำงานยาวนานสุด คือ เปรู โดยมีคนงานร้อยละ 50.9 ที่ต้องทำงานเกินมาตรฐานในระดับชั่วโมงทำงานการทำงานปกติ
นอกจากนี้สวัสดิการลาหยุดพักร้อนประจำปีตามกฎหมายของไทยถือว่าต่ำมากถ้าเปรียบเทียบในระดับเอเชีย สามารถลาหยุดได้ปีละ 10 วันเท่านั้นหรืออาจจะน้อยกว่านี้ ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานตามกฎหมายของกัมพูชา เวียดนาม และอินโดนีเซีย
"Working Time around the World: Trends in working hours, laws, and policies in a global comparative perspective" หรือ ชั่วโมงการทำงานทั่วโลก แนวโน้มชั่วโมงการทำงาน กฎหมาย รวมทั้งนโยบายที่เกี่ยวข้อง โดยใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบในระดับสากล งานวิจัยชิ้นนี้ ได้ศึกษาเรื่องชั่วโมงทำงานในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และพบว่าแรงงานทั่วโลกประมาณร้อยละ 22 หรือเท่ากับ 641.2 ล้านคน ต้องทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงในหนึ่งวัน และได้ศึกษาถึงแนวโน้มนโยบายเรื่องชั่วโมงทำงานในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งจากการสำรวจพบว่าชั่วโมงการทำงานในประเทศกำลังพัฒนานั้นมีความแตกต่างกันมาก กล่าวคือ แรงงานบางส่วนทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงมากเกินไป ในขณะที่บางส่วนทำงานเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ระดับชั่วโมงทำงานโดยเฉลี่ยในภาคการผลิตทั่วโลก อยู่ระหว่าง 35 - 45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ในประเทศกำลังพัฒนา เช่น ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวที่ชั่วโมงการทำงานภาคการผลิตเฉลี่ยเกิน 59 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และเป็นประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ชั่วโมงการทำงานในภาคการผลิตยาวนานกว่าภาคบริการ
ในภาคบริการบางประเภทลูกจ้างทำงานมากกว่าสัปดาห์ละ 50 ชั่วโมง เช่น การขนส่ง คลังสินค้า และการสื่อสาร (สัปดาห์ละ 50 ชั่วโมง) อสังหาริมทรัพย์และบริการธุรกิจ (สัปดาห์ละ 50.7 ชั่วโมง) บริการการเงิน (สัปดาห์ละ 52.9 ชั่วโมง) บริการด้านสาธารณสุขและสังคม ( 53.4 ชั่วโมง) คนที่อยู่ในภาคการจ้างงานนอกระบบส่วนใหญ่มักจะทำงานเกินมาตรฐานวันละหลายชั่วโมง
ผู้จ้างงานตนเองเกือบร้อยละ 57 ในไทย ทำงานมากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีจำนวนเพียงหนึ่งในแปดเท่านั้นที่ได้ทำงานไม่เกินสัปดาห์ละ 35 ชั่วโมง ร้อยละ 80 ของผู้จ้างงานตนเองในไทยมีอายุเกิน 41 ปี ส่วนในประเทศอื่น เช่น อินโดนีเซีย ปากีสถาน และศรีลังกา ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วงราวๆ 30 ปีหรืออายุน้อยกว่านี้ นอกจากนี้ ยังมีแรงงานบางส่วนที่ทำงานวันละไม่กี่ชั่วโมงในประเทศกำลังพัฒนาอาจจะต้องทำงานต่ำกว่าทักษะความรู้ความสามารถ ซึ่งส่งผลให้ยิ่งยากจนกว่าเดิม
ความพยายามที่จะลดชั่วโมงการทำงานในประเทศเหล่านี้ ยังไม่สำเร็จด้วยสาเหตุหลายประการ รวมทั้งสาเหตุความจำเป็นของคนงานที่จะต้องทำงานชั่วโมงมากขึ้น เพื่อให้ได้รายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพและฝ่ายนายจ้างเองมักจะให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา (โอที) เพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้มากที่สุดภายใต้สถานการณ์ที่ประสิทธิภาพในการผลิตต่ำโดยทั่วไปกฎหมายและนโยบายเรื่องชั่วโมงทำงาน มีผลน้อยมากต่อชั่วโมงทำงานในทางปฏิบัติโดยเฉพาะเรื่องการกำหนดชั่วโมงทำงานสูงสุดต่อสัปดาห์ ค่าจ้างทำงานล่วงเวลาและการจ้างงานนอกระบบ
ชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสมตามมาตรฐานสากลจะส่งผลดีต่อสุขภาพชีวิตของคนงานและครอบครัว ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น การลดชั่วโมงทำงานจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องอุบัติเหตุและอาการเจ็บป่วยอันเกี่ยวเนื่องจากการทำงาน ซึ่งถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายของคนงาน นายจ้าง และสังคมโดยรวม การกำหนดชั่วโมงทำงานควรจะเน้นที่การส่งเสริมคุณภาพชีวิตและครอบครัว โดยปรับตามสถานการณ์และยืดหยุ่นได้ในแต่ละประเทศ ควรจะให้สิทธิในการลาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะกรณีฉุกเฉินและส่งเสริมเรื่องการจ้างงานพาร์ทไทม์ที่มีคุณภาพ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)