Skip to main content
sharethis

ที่มาภาพ : เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณดอทเน็ต


ที่มาข่าวบางส่วน : เว็บไซต์คมชัดลึก เว็บไซต์แนวหน้า


 


 


 



 



 


 


 


 


 


 



  


 


 


 



 


 


 


 


 



 


 




 


 


 



 


 


 



 


 


 


 


 


 


 


 


 


เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 50 ในเว็บไซต์ ไฮ - ทักษิณ ปรากฏบทความที่ผู้เขียนในนามแฝงว่า "ประดาบ" เขียนบทความเรื่อง "เปิดคำสั่งลับคมช.กำจัดพลังประชาชน" ซึ่งเผยแพร่เอกสารราชการลับ เรื่อง "การปฏิบัติการข่าวสารตั้งแต่ปัจจุบันถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง"


 


เอกสารดังกล่าว เป็นบันทึกข้อความ ลงวันที่ 14 ก.ย. 50 ของแผนกปฏิบัติการข่าวสาร สปค. ศปศ. คมช. ซึ่งระบุว่าเป็นหนังสือลับ ด่วนมาก ส่งถึงผบ.ทบ. และประธานคมช. ลงนามโดย พ.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองจก.ยก.ทบ./ผช.หน.สปค.ศปศ.คมช. โดยมีเอกสารแนบ เป็นตารางประสานสอดคล้องการปฏิบัติข่าวสารคมช. โดยมีวัตถุประสงค์และภารกิจต่างๆ


 


หนึ่ง สร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้น ภาระงานคือ


- สร้างและส่งเสริมความสามัคคีให้เกิดในหมู่ประชาชน โดยใช้จุดมุ่งหมายร่วมเป็นศูนย์รวมจิตใจ


- ชี้ให้ประชาชนไทยทุกคนเห็นโทษของการแตกความสามัคคี


- สร้างกระแสให้ทุกฝ่ายต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่าผ่านทางพรรคพปช.


 


สอง ด้อยค่าการต่อต้านของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและคมช. ภาระงานคือ


- ป้องกันมิให้ชนชั้นกลางมีแนวคิดเอนเอียงไปสนับสนุนกลุ่มต่อต้าน


- ชี้จุดด้อยของนโยบายประชานิยมให้ประชาชนรากแก้วได้รับทราบ/เข้าใจ


- สกัดกั้น/ลดแรงจูงใจมิให้ประชาชนรากแก้วเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมในก.ท.


- จำกัดการเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มต่อต้าน


- จำกัดมิให้จนท.ของรัฐสนับสนุนกลุ่มอำนาจเก่า


 


สาม สนับสนุนการรวมตัวกันของกลุ่มการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ภาระงานคือ


- ชี้ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางเห็นข้อเท็จจริงในการรวมตัวของกลุ่มการเมืองต่างๆ


- ชี้ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางเห็นความคล้ายคลึงกันของนโยบายอดีตพรรคทรท.และพปช.


- ชี้นำ/ชักจูงให้ประชาชนรากแก้วต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่าผ่านทางพรรคพปช. โดยแสดงให้เห็นว่านโยบายต่างๆ ของทรท. ซึ่งเป็นผลเสียต่อประเทศและประชาชนก็จะกลับมาด้วย


- ชี้ให้ทุกฝ่ายเห็นถึงความคดโกง/ทุจริต/ไม่ชอบธรรมของกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งกำลังจะกลับมาพร้อมกับพรรคพปช.


 


สี่ ลดความหวาดระแวงในเรื่องการสืบทอดอำนาจ ป้องกันมิให้เกิดเงื่อนไขใหม่ๆ ภาระงานคือ


- ปชส.การปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภารกิจทางการเมืองเพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะประชาชนรากแก้วไว้วางใจทหาร


- ป้องกันมิให้เกิดเงื่อนไขที่ประชาชนรากแก้วจะเกลียดชัง/หวาดกลัวทหาร


- สร้างความเชื่อมั่นในทุกฝ่ายเห็นว่าจะไม่มีการสืบทอดอำนาจ


- ป้องกันมิให้เกิดเงื่อนไขใหม่ๆ เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้เกิดความมั่นใจในการไม่สืบทอดอำนาจ


 


 


สมัครร้อง เอกสารลับเล่นงานพปช.


นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เปิดแถลงข่าวระบุว่ามีเอกสารลับแผนทำลายพรรคพลังประชาชน โดยนำเอกสารลับทั้ง 2 ฉบับมาโชว์ พร้อมกับเปิดอ่านเนื้อหาสาระในเอกสารลับบางส่วนให้สื่อมวลชน แต่ไม่อนุญาตให้ดูอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่าเป็นแผนปฏิบัติการของหน่วยราชการหน่วยงานหนึ่งที่มีตัวย่อ 3 ตัว จัดทำขึ้นในการกำหนดภารกิจ โดยใช้ชื่อว่า "แผนสกัดไม่ให้กลุ่มอำนาจเก่ากลับมามีอำนาจ"



ทั้งนี้ เนื่องจากการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม มีผู้ส่งเอกสารลับของหน่วยราชการมาให้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารที่มีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาที่มีตัวตนจริงถึงวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โดยเอกสารชิ้นแรกลงวันที่ 14 กันยายน เอกสารชิ้นที่ 2 ลงวันที่ 26 กันยายน


 



สำหรับช่วงดังกล่าวเป็นปฏิบัติการที่คาบเกี่ยวช่วงตั้งแต่วันลงประชามติจนถึงวันลงปิดรับสมัคร หรือถึงวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ โดยในเอกสารมีการรายงานการสั่งการ พร้อมแผนการว่าจะดำเนินการอย่างไรกับพรรคพลังประชาชน (พปช.) และมีตารางชัดเจนว่าเป็นการประสานงานสอดคล้องปฏิบัติการข่าวสาร คมช. แม้ว่าจะออกจากราชการไปแล้วแต่งานยังคาบเกี่ยวกันอยู่


 



นายสมัคร กล่าวว่า เนื้อหาข้อมูลเป็นการรายงานผลการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ตามแผน มีการเชิญชวนประชาชนให้ร่วมเฉลิมฉลองประชาสัมพันธ์ ร่วมเชียร์นักกีฬาช่วงกีฬาซีเกมส์ แผนจัดทำสกู๊ปข่าวพิเศษเรื่องวันทำรัฐประหาร 19 กันยายน ชี้ให้เห็นผลร้าย สาเหตุหนึ่งเน้นย้ำเกิดจากการแตกความสามัคคี ทำให้บ้านเมืองตกต่ำ



 


 


เผยแผนสกัดพปช.


โดยเนื้อหาภารกิจตอนหนึ่งว่า สกู๊ปข่าวชี้ให้ประชาชนเห็นว่ากลุ่มอำนาจเก่าทำเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว ไม่คำนึงผลเสียหายต่อประเทศชาติ รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลร้ายจากนโยบายประชานิยมในระยะยาวซึ่งพรรคพลังประชาชนจะนำกลับมาอีก รวมทั้งจัดชุดสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดตั้งจุดตรวจสกัดเส้นทางในการเข้าสู่กรุงเทพฯ จัดชุดเกาะติดแสดงกำลังกดดันแกนนำกลุ่มอำนาจเก่า


 



นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคพลังประชาชนต้องคดีทุจริตแม้จะชนะเลือกตั้งก็จะต้องโทษ และไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือหากพรรคพลังประชาชนจะชนะเลือกตั้งก็ไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ ตลอดจนสร้างความวุ่นวายให้ประเทศ หากทำตามนโยบายที่ประกาศไว้นิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และยุบคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรจะออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งจนนำไปสู่การทำรัฐประหารอีก นายสมัคร ยังระบุอีกว่ากำหนดนโยบายให้ทุกพื้นที่สื่อต่างๆ กับทุกพรรค ยกเว้นพรรคพลังประชาชน จะถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีแผนปฏิบัติการนอกระบบในการให้ข่าวลือโดยใช้สื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาอยู่เบื้องหลังอย่างไรและข้อมูลต่างๆ



 


จวกเลวทรามจ้องเล่นงาน"แม้ว"ไม่เลิก


"ผมมองว่าทำไมข้าราชการระดับสูงถึงทำเรื่องต่ำเลวทรามเช่นนี้ เมื่อปฏิวัติแล้ว ก็เอาผิดเขาไม่ได้ ก็ใช้วิธีตามล้างตามเช็ด ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ทำเลวทรามกับบ้านเมืองด้วยการร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เห็นได้ชัดว่าเป็นการคิดสกปรก เล่นการเมืองทางลัด ผมอ่านเอกสารดูแล้ว เห็นชัดว่าต้องเป็นคนใจคอสกปรกถึงทำเอกสารเช่นนี้ได้ เท่าที่ตรวจสอบดูเป็นนายทหารยกพันเอก ที่เป็นคนรับปฏิบัติการจากหน่วยงาน 3 ตัวย่ออีกที" นายสมัคร กล่าว


 



นายสมัคร ระบุด้วยว่าได้ข้อมูลว่าพูดถึงขั้นให้เด็ดหัว ไอ้ตัวคนที่เป็นหัวหน้าพรรคซึ่งก็หมายถึงตน จะได้สิ้นเรื่อง ซึ่งเมื่อดูจากเหตุการณ์ที่ จ.แพร่ ไม่ต้องดู ก็รู้ว่าเป็นของจริง เป็นแผนสกัดที่เล่นกันถึงขั้นรุนแรงเอาเป็นเอาตาย ที่มาบอกตรงนี้ไม่ได้กลัวหรือถอย เราไม่ถอย เพียงแต่อยากจะร้องทุกข์กับประชาชนให้สังคมรับรู้ว่าพรรคพลังประชาชนกำลังถูกอำนาจนอกระบบจัดการอยู่


 



ทั้งนี้ ตนไม่เคยประกาศว่าจะไปล้างแค้นใคร อดีตนายกฯ ก็ไม่ได้ประกาศล้างแค้นเช่นกัน ทำไมถึงร้อนตัวกันไปเอง ทำอะไรไว้แล้วคิดว่าจะเป็นอย่างนั้น


 



"ผมประกาศเลยว่า ไม่อยากจะไปแตะต้องคนสกปรกพวกนี้ มันเป็นเอง มันโดนมันตายเอง ขอแนะนำให้ไปอ่านหนังสือเรื่อง "ไม่อยากเล่า"แล้วจะรู้ว่าคนที่เล่นสกปรกกับผมจะได้รับผลอย่างไร ไม่ได้โฆษณาขายหนังสือ แต่ต้องพูดไว้เพราะเป็นโอกาสเดียว พรุ่งนี้อาจไม่ได้พูด


  


ด้าน พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร  สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนออกมาเปิดเผยเอกสารสารลับจากหน่วยราชการหนึ่งซึ่งมีอักษรย่อ 3 ตัวที่มีแผนการสกัดกั้นไม่ให้พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลว่า ยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว คงต้องไปสอบถามเรื่องนี้จาก คมช.ว่า เป็นอย่างไร เพราะตนได้ลาออกจากประธานคมช. ถือว่าหมดหน้าที่ตรงนั้นแล้ว และในวันที่ 24 ต.ค.นี้จะชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้ง


 



เมื่อถามว่า ต่อไปหากมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคมช.จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ให้ไปสอบถามคมช.เอง เมื่อถามว่าเหตุใดเอกสารดังกล่าวจึงหลุดออกมาได้ พล.อ.สนธิ  ยิ้มและปฏิเสธที่ตอบคำถาม ก่อนเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวไป


 



ด้านพ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด โฆษก คมช.กล่าวว่าตนยืนยันไม่ได้ว่าเอกสารนั้นจริงหรือไม่จริงอย่างไร สมมุติหากเอกสารที่นายสมัครออกมาแฉเป็นเอกสารจริง ก็ไม่ถูกต้องที่ตนจะเอารายละเอียดมาชี้แจงว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ และหากสมมุติว่าเป็นเอกสารไม่จริง ก็จะมีการไปสืบต่ออีกว่า แล้วที่จริงมันเป็นอย่างไร ซึ่งจะทำให้ไม่รู้จักจบจักสิ้น


 



 "คงเป็นการพยายามทำลายความน่าเชื่อถือกองทัพ หากเราไปเต้นตามกระแสจะทำให้นายทหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเอกสารเหล่านั้นมาเปิดเผย ก็จะนำเอกสารอื่นมาเปิดเผยกันอีกไม่มีวันสิ้นสุด ดังนั้นกองทัพและ คมช. คงจะตรวจสอบไปตามขั้นตอน" โฆษก คมช.กล่าว


 



พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คมช.ไม่มีความจำเป็นต้องไปชี้แจงนายสมัคร  เพราะไม่รู้ว่าเมื่อชี้แจงไปแล้วเขาจะเชื่อหรือไม่  การเปลี่ยนแนวความคิดของคนที่เชื่อแบบหนึ่งเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเชื่ออีกแบบหนึ่งคงเป็นเรื่องยาก เหมือนกับกลุ่มพีทีวี.ที่พยายามชี้แจงมาตลอดว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชน ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนใจคนบางกลุ่มที่ยังเชื่อมั่นว่า 2 กลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกัน


 



เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คงตรวจสอบกันตามหน้าที่ แต่ไม่อยากให้ความสำคัญ ถือว่าเป็นเชิงการเมืองอย่างหนึ่ง  เมื่อถามว่า ถือเป็นอีกครั้งที่เอกสารทางราชการหลุดออกมา พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นบทเรียนเพราะเราวิตกกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไป จึงมีเอกสารหลุดออกมาซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดคืออย่าไปให้ความสนใจจะดีที่สุด และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจกองทัพ


 



เมื่อถามว่า หากเป็นเอกสารปลอมจะฟ้องร้องหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เราไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่คงมีการตรวจสอบว่าจริงหรือไม่จริงอย่างไร เมื่อถามว่า ต่อไปต้องเข้มงวดการเก็บเอกสารมากขึ้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นปกติเพราะเป็นเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องมีกลุ่มคนที่พยายามดำเนินการทางลับและไม่ลับ คงไปห้ามลำบากที่จะป้องกันไม่ให้มีการรั่วไหล


 



พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ปัจจุบันกองทัพมีความชัดเจนพยายามไม่เข้าไปวุ่นวายกับการเมือง การตกลงใจจะเลือก ส.ส.ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประชาชนหากพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมด้วยความบริสุทธิ์ ก็ไม่เห็นมีอะไรที่น่าตกใจ


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net