สุรีย์ มิ่งวรรณลักษณ์
ขออภัยในความไม่สะดวก โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง
"พันธมิตรฯ เสนอแนวคิดการเมืองใหม่ ยันไม่ใช่สร้างเงื่อนไขสังคม
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 มิถุนายน 2551 19:31 น.
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000073871
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า พันธมิตรฯ เสนอแนวคิดการเมืองใหม่ที่จะขจัดนักการเมืองหน้าเดิม โดยเสนอให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. 30 เปอร์เซ็นต์ คัดสรรจากภาคส่วนต่างๆ อีก 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะเห็นว่าการดำเนินการแบบรัฐสภาไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองได้ ยืนยัน ไม่ใช่การสร้างเงื่อนไขให้สังคม"
000
... ในที่สุดแล้วก็เปิดเผยให้เห็นธาตุแท้ของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(จริงแล้วควรจะเป็นพันธมิตรประชาชนเพือการรัฐประหาร) จากการเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 สู่การขับไล่รัฐบาล สู่เป้าหมายเปลี่ยนอำนาจรัฐ ล้มรัฐธรรมนูญ 50 เสียเอง และอ้างว่าจะสร้างการเมืองแบบใหม่
ธาตุแท้ของพวกเขาได้เปิดเผยให้เห็นถึง วิธีคิดแบบอำนาจนิยม การเมืองจากเบื้องบน การเมืองแบบขุนนางอำมาตยาธิปไตย และความล้าหลังคลั่งชาติ
การเมืองใหม่ของพวกเขา จึงหาได้เป็นการเมืองใหม่ ในความหมายที่ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการเมืองการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรด้วยตนเอง และประชาชนต้องมีส่วนร่วมการเมืองด้านอื่นๆอย่างขยันขันแข็งที่มิใช่เพียงการเลือกตั้ง เพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
พวกเขาจึงหาได้นิยามการเมืองแบบประชาธิปไตยแต่อย่างใดไม่ แม้ว่าชื่อองค์กรของพวกเขาจะมีคำว่า ประชาธิปไตย พ่วงท้ายอยู่
พวกเขาหาได้นิยมประชาธิปไตยแต่อย่างใดไม่ แม้ว่าปากเขาจะพูดถึงประชาธิปไตย เวลาเขาแถลงข่าว สัมภาษณ์สื่อมวลชน ปราศรัยบนเวที ประชาธิปไตย ที่เขากล่าวถึง เป็นข้ออ้าง ฟังดูดี แต่บิดเบือนแฝงด้วยวาระซ่อนเร้น เบื้องลึกในจิตใจของพวกเขาที่ต้อง อำนาจนิยมเผด็จการ
พวกเขา จึงเอา อาจารย์ปรีดี อาจารย์ป๋วย มากล่าวอ้างอย่างบิดเบือน และเพื่อกลบเกลื่อนให้ประชาชนคล้อยตาม
นับว่าเป็นวิธีการที่สามานย์ยิ่ง
แนวคิดการเมืองใหม่ที่สุริยะใส เสนอคืออะไร ? เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ?
ผู้เขียนคิดว่าเป็นการเมืองเก่าๆ มากกว่า เมื่อพันธมิตรฯ เสนอให้มีการเลือกตั้ง 30 เปอร์เซนต์ การคัดสรร อีก 70 เปอร์เซนต์
ถามว่าใครเป็นคนคัดสรร ?
พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยคัดสรรหรือ?
เอาอำนาจชอบธรรมคัดสรรมาจากไหนกัน?
พวกเขาคงเชื่อว่า ผู้ปกครองบนผืนแผ่นดินไทยต้องเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่คิดกันเองให้ความหมายกันเองว่าเป็นคนดีทรงคุณธรรม จึงต้องให้อภิสิทธิ์ชนเท่านั้นปกครองเหมือนเช่นการปกครองสังคมทาสสมัยกรีกโบราณ (หรือยุคทาสนั่นเอง) ตามความคิดของอริสโตเติ้ล
เพราะถ้าประชาชนคัดสรร มันมิใช่ การคัดสรรแต่เป็นการเลือกตั้งของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาต่างหาก
การเมืองใหม่ที่สุริยะใสเสนอจึงหาเชื่อมโยงกับประชาชนแต่อย่างใดไม่
ข้อเสนอของพวกเขาจึงหาต่างกับ รัฐบาลแห่งชาติของประเวศ วะสีแต่อย่างใด
ดังนั้นการทำให้การเมืองแบบใหม่ตามข้อเสนอพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยเป็นจริงได้ มีวิธีเดียวทางเดียวเท่านั้น คือ การเคลื่อนไหวทุกวิถีทางเพื่อให้อำนาจนอกระบบเข้ายึดอำนาจรัฐนั่น คือการรัฐประหารนั่นเอง เพื่อสร้างการเมืองแบบใหม่ของพันธมิตรเพื่อรัฐประหาร จึงจะเป็นจริงทางการปฏิบัติได้
เราจะยอมได้หรือ?
รัฐประหารครั้งนี้ถ้าเกิดขึ้น จะนำไปสู่การรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ กำจัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลย์ และอาจคงไม่ต่างไปจากเผด็จการอำนาจนิยมแบบชนชั้นปกครองพม่าไม่มากนัก
ถามว่า เราจะยอมได้หรือ?
หรือแม้ว่า ไม่มีทหารหน่วยไหนส่วนไหนเสี่ยงทำการรัฐประหารตามคำเทียบเชิญของพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย
พวกเขาสมควรมีฐานะเป็นผู้นำภาคประชาชน เป็นองค์กรการเมืองภาคประชาชน สืบต่อไปหรือไม่? มิอาจกำหนดพวกเขาได้
แต่ประชาชนตัวจริงเสียงจริง จำต้องประเมินสรุปบทเรียนว่า
พันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ควรตกจากประวัติศาสตร์เวทีการเมือง-ประชาธิปไตยหรือไม่?
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)