Skip to main content
sharethis

1.    สถานการณ์ในประเทศพม่า


 


1.1  ไฟไหม้โรงแรมตองยิ่น รีสอร์ท เมียวดี เชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก สูญหลายล้านบาท


มีรายงานข่าวจากชายแดนไทย-พม่า ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า ทหารพม่าได้เข้าเคลียร์พื้นที่ ที่โรงแรมตองยิ่นรีสอร์ท ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเมย เชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้กลางดึกคืนวันที่ 11 ที่ผ่านมา โดยเพลิงได้ลุกไหม้ภายในโรงแรมดังกล่าวเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยของพม่าจะดับไฟได้ จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทหารพม่าเพื่อพิสูจน์ถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่ามีความเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายล้านบาท


เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เพลิงไหม้โรงแรมระดับ 4 ดาวของพม่าครั้งนี้ ส่งผลกระทบและเสียหายต่อธุรกิจด้านโรงแรมและการท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะเกิดในช่วงที่เข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2008 ต้อนรับปีใหม่ 2009 ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย สำหรับสาเหตุนั้นยังไม่แน่ชัด


 


โรงแรมตองยิ่นรีสอร์ท เป็นโรงแรมที่บริษัทเอกชนในพม่าร่วมทุนกับผู้นำทหารพม่า สำหรับสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พม่า ได้ตั้งประเด็นไว้หลายประเด็นในการเกิดไฟไหม้ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรและการถูกลอบวางเพลิงจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำลายธุรกิจในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จะมีชาวพม่าจากเมืองชั้นในเดินทางมาท่องเที่ยวที่ชายแดนจังหวัดเมียวดีและประเทศไทย (สำนักข่าว INN วันที่ 12/12/2551)


 


1.2 พม่าเป็นศูนย์กลางการค้าช้างผิดกฎหมาย


เครือข่ายตรวจสอบการลักลอบค้าสัตว์ป่าเผยรายงานเมื่อวันพุธที่ 10 ธ.ค. ระบุว่า พม่าเป็นศูนย์กลางการค้าช้างและงาช้างโดยผิดกฎหมาย โดยมีช้างกว่า 250 เชือก ถูกลักลอบนำออกนอกประเทศในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่นำไปใช้งานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเดินป่าในประเทศเพื่อนบ้าน โดยผู้ลักลอบนำช้างข้ามพรมแดนด้วยการติดสินบนเจ้าหน้าที่ด่านชายแดน ซึ่งบางรายเรียกเงินสูงถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7,000 บาท) ต่อเชือกซึ่งแทรฟฟิกและกองทุนสัตว์ป่าโลก (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ) เรียกร้องให้ทางการพม่าร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ไทยและจีนปราบปรามการค้าสัตว์ป่าโดยผิดกฎหมาย (คมชัดลึก วันที่ 12/12/2551)


 


1.3 ซาร์กานาได้รับรางวัลเจ้าของบล็อกดีเด่น จากกลุ่มผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน


กลุ่มผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน หรือ RSF ซึ่งมีสำนักงานในฝรั่งเศส ได้ตัดสินให้ หม่อง ธูรา หรือที่รู้จักกันในชื่อ ซาร์กานา ดาราตลกและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในพม่า ได้รับรางวัลเจ้าของ บล็อกดีเด่นประเภทความเห็นขัดแย้งกับรัฐบาลในโลกไซเบอร์ และได้จัดพิธีมอบรางวัลไปเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่กรุงปารีส โดยมี ชีริน เอบาดี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพชาวอิหร่าน และเป็นแขกรับเชิญพิเศษเป็นผู้พูดเปิดพิธีมอบรางวัล


 


แต่ขณะนี้ซาร์กานาถูกจำคุกอยู่ในพม่า เทียน ลิน เพื่อนของเขาจึงต้องขึ้นรับรางวัลแทน พร้อมกับเล่าว่า ซาร์กานามักจะหาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์มาเป็นมุขในการเล่นตลกเสมอ ซึ่ง RSF หวังว่า การมอบรางวัลนี้ให้กับซาร์กานา จะช่วยคดีของเขาได้รับการจับตามองจากโลกมากขึ้น และอาจจะช่วยให้สถานะในคุกของเขาดีขึ้น และหวังไปไกลว่า บางทีอาจจะช่วยให้นักโทษผู้เคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิได้รับอิสรภาพ


 


เมื่อต้นเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ซาร์กานาเป็นนักแสดงตลกวัย 46 ปีที่มีชื่อเสียงของพม่า ถูกศาลพม่าพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 45 ปีจากการที่เคลื่อนไหวและแสดงความเห็นที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล แล้วต่อมาถูกตัดสินจำคุกเพิ่มอีก 14 ปี รวมเป็น 59 ปี จากกรณีที่ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลทหารพม่า


 


ต่อมาในวันที่ 5 ธันวาคม หลังจากที่เขาได้รับรางวัลเพียง 1 วัน เขาได้ถูกย้ายจากเรือนจำอินเส่งในย่างกุ้ง ไปยังเรือนจำรัฐคะฉิ่น ที่มีอากาศหนาวเย็นและทุรกันดาร ยากแก่การเข้าเยี่ยม โดยเรือนจำแห่งนี้เป็นสถานที่ที่รัฐบาลทหารพม่ามักส่งนักโทษการเมืองมาจองจำ (สำนักข่าว INN วันที่ 05/12/2551)


 


1.4 พม่าออกซิมโทรศัพท์มือถือแบบใหม่ โดยราคาถูกกว่าเดิม 5 เท่า แต่ค่าโทรแพงกว่าเดิม 10 เท่า


วารสารรายสัปดาห์ เซเว่น เดย์ นิวส์ ของพม่า รายงานว่า ทางการพม่าลดค่าใช้จ่ายสำหรับโทรศัพท์มือถือส่วนตัว แต่จะเพิ่มค่าโทรอีก 10 เท่า รายงานระบุว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมสื่อสาร จะเริ่มจำหน่ายซิมการ์ด สำหรับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม ในราคา 50 เอฟอีซี ซึ่งเทียบเท่ากับ 50 ดอลล่าร์ หรือราว 1,750 บาท ถูกกว่าราคาปัจจุบันถึง 5 เท่า แต่ขณะเดียวกัน ซิมการ์ดรุ่นใหม่นี้ จะทำให้ผู้ใช้ต้องเสียค่าโทรสูงถึง 10 ดอลล่าร์ หรือราว 350 บาท


 


พลเมืองชาวพม่าไม่ได้รับอนุญาตให้ถือเงินตราต่างประเทศ ภายใต้กฎหมายที่บัญญัติโดยรัฐบาลทหาร ส่วนการเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือราคาใหม่ จะออกโดยการไปรษณีย์พม่าและกระทรวงโทรคมนาคมสื่อสาร


 


ค่าโทรมือถือ ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 10 เท่าตัว โดยคิดราคาค่าโทรนาทีละประมาณ 17 บาทและจะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งสายที่โทรออกและเรียกเข้า (สำนักข่าวเนชั่น วันที่ 02/12/2551)


 


1.5 จีน-พม่า ตกลงส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี


สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างคำแถลงของ พล.อ.เฉิน ปิงเต๋อ หัวหน้าเสนาธิการทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (พีแอลเอ) เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 51 ว่า ทั้ง 2 ประเทศตกลงที่จะเพิ่มการแลกเปลี่ยนด้านการทหาร และโครงการแลกเปลี่ยนระดับรัฐต่อรัฐอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองภายในภูมิภาค นอกจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังตกลงที่จะคงความร่วมมือในด้านต่างๆ และจะสานต่อความสัมพันธ์ทางทหารระดับทวิภาคีอย่างราบรื่นด้วย


 


พล.อ.เฉิน แสดงความยินดีต่อการสนับสนุนซึ่งกันและกันของจีนและพม่า ในด้านการพัฒนาประเทศและกิจการระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศทั้งสอง ตลอดจนการต่อสู้กับการรุกรานจากต่างชาติ และเพื่อธำรงเอกราชและเสรีภาพของประเทศไว้ ในฐานะที่ทั้ง 2 ประเทศ เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาตั้งแต่โบราณกาล


 


ความตกลงดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการพบหารือระหว่างนายเฉิน กับ พล.อ.ฉ่วย มาน หัวหน้าเสนาธิการทหาร และสมาชิกของสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (เอสพีดีซี) ของพม่า ที่กรุงปักกิ่งของจีน เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (สำนักข่าวไทย วันที่ 01/12/2551)


 


 


2. การค้าชายแดน


 


2.1 กาสิโนพม่า-ลาวด้านเชียงรายเติบโตต่อเนื่อง ภาวะเศรษฐกิจไทยไม่กระทบจำนวนลูกค้าของกาสิโน


ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงนี้ กลับไม่กระทบต่อจำนวนลูกค้าในกาสิโนที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามจังหวัดเชียงราย จากการสอบถามกับนักการพนันซึ่งหมุนเวียนเล่นอยู่ในกาสิโนที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านด้านตรงข้ามจังหวัดเชียงรายมานานพบว่า เศรษฐกิจขาลงไม่ค่อยมีผลกระทบต่อจำนวนลูกค้าในกาสิโนทั้งหมด อาจจะมีบ้างในส่วนของลูกค้าจรหรือลูกค้าทัวร์ แต่ลูกค้าประจำซึ่งเป็นลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงข้ามฝั่งไปแสวงโชคลาภจากการพนันกันเหมือนเดิม ไปดูได้ลานจอดรถของวินวินคลับและพาราไดซ์ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำในฝั่งไทยรถจะจอดกันอยู่แน่นตลอดวันตลอดคืน ขณะที่กาสิโนในจังหวัดท่าขี้เหล็กก็มีลูกค้ามากเช่นกัน


 


ลูกค้าที่ไปเล่นการพนันส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ เป็นธรรมชาติของนักพนัน หากพบว่ากาสิโนแห่งไหนคนน้อย แสดงว่านักพนันมีการไหลไปที่เล่นกาสิโนอีกแห่งหนึ่ง วงจรจะเป็นอยู่ในลักษณะนี้ เช่น ทางปอยเปตมีปัญหา ก็ไหลมาทางเชียงราย ทางเชียงรายมีปัญหา ก็ไหลไปทางปอยเปตหรือระนอง อย่างนี้เป็นต้น ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นคนไทย ชาวต่างชาติมีน้อย แม้ว่ากาสิโนย่านสามเหลี่ยมทองคำจะพยายามเปิดตลาดในกลุ่มลูกค้าชาวจีนมากขึ้นแล้วก็ตาม


 


อย่างไรก็ตามธุรกิจกาสิโนในประเทศเพื่อนบ้านตรงข้ามจังหวัดเชียงรายยังมีความนิยมต่อไปและมีอัตราการเติบโตสูง มีการลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น โครงการลงทุนขนาดใหญ่มูล 2.5 พันล้านบาทของนักลงทุนจีนที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย นอกจากนั้นโครงการลงทุนของนักลงทุนในพื้นที่อำเภอเชียงของ และเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามกับอำเภอเชียงของอีกหลายโครงการ


 


ทั้งนี้กาสิโนในประเทศเพื่อนบ้านทางด้านจังหวัดเชียงราย ซึ่งในส่วนที่เป็นสถานกาสิโนขนาดใหญ่นั้นจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 แห่ง 4 แห่งตั้งอยู่ในโรงแรมที่นักลงทุนไทยได้เข้าไปลงทุน กาสิโนที่ตั้งอยู่ตรงข้ามอำเภอเชียงแสนมี 2 แห่ง ประกอบด้วยกาสิโนวินวินคลับ และกาสิโนพาราไดซ์ ทั้ง 2 ตั้งอยู่ในโรงแรมโกลเด้นไทรแองเกิ้ลพาราไดซ์รีสอร์ท ส่วนกาสิโนที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองท่าขี้เหล็กตรงข้ามอำเภอแม่สายมี 3 แห่ง คือ กาสิโนอัลลัวร์ตั้งอยู่ในโรงแรมอัลลัวร์รีสอร์ท กาสิโนเรจินาคลับตั้งอยู่ในโรงแรมเรจีนาแอนด์กอล์ฟคลับ และกาสิโนเก้าชั้นซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมแม่โขง (ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 11-13/11/ 2551)


 


2.2 หอการค้าจังหวัดเชียงราย ชี้สถานการณ์การเมือง ไม่กระทบโครงการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจ


นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังวุ่นวาย และยังไม่มีความมั่นคงเพียงพอ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการรอรัฐบาลชุดใหม่ที่จะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ในการที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าโครงการเขตเศรษฐกิจที่กำลังก่อสร้างในเชียงรายจะหยุดชะงัก หรือจะมีผลกระทบในด้านอื่นๆที่จะทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ เนื่องจากโครงการท่าเรือเชียงแสน 2 ถนนสาย R3 และโครงการสร้างสะพานที่เชียงของ เป็นโครงการที่ได้ดำเนินการและวางแผนกันมาเป็นเวลานานเพื่อต้องการผลักดันและพัฒนาเขตเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายให้ขยายไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วขึ้น


 


นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงรายได้มีการอนุมัติและจัดจ้าง งบประมาณไว้แล้ว ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน จึงไม่ส่งผลกระทบกับการก่อสร้าง โดยการก่อสร้างยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังผลักดันให้การค้าและการขนส่งของจังหวัดเชียงรายจะสามารถดำเนินไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้อย่างชัดเจน เพื่อหวังให้เกิดการจ้างงานของประชาชนในพื้นที่ให้มากขึ้น เนื่องจากหากโครงการแล้วเสร็จจะทำให้การขนส่งและการคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นไปได้ง่ายและทำให้สะดวกในการค้าขาย อีกทั้งจำนวนสินค้าที่ส่งออกและนำเข้าก็จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้องมีการจ้างแรงงานเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับกับการทำงานที่จะขยายไปได้ในอนาคต


 


อย่างไรก็ตาม ในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจของเขตจังหวัดเชียงรายกับกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากโครงการก่อสร้างทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ก่อสร้างเพื่อหวังดันให้เศรษฐกิจการค้าของไทย พม่าและจีน สามารถขับเคลื่อนไปได้ง่ายละรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้มีเป้าหมายเพียงเพื่อจะขยายและผลักดันการค้าและเศรษฐกิจภายในจังหวัดเชียงรายให้สามารถพัฒนาและขยายกิจการการค้าของจังหวัดให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน (คมชัดลึก วันที่ 09/12/2551)


 


2.3 คณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ มีมติให้แม่ฮ่องสอนเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุนของประเทศในภูมิภาคนี้


นายธงษ์ชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า คณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) ประกอบด้วยหอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือตอนบน มีมติผลักดันให้แม่ฮ่องสอนเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุนของประเทศในภูมิภาคนี้ เพื่อใช้ศักยภาพของพื้นที่สร้างประโยชน์ให้มากที่สุด


 


โครงการที่ คสศ.พยายามผลักดันคือ เส้นทางคมนาคมทางบกและช่องทางการค้าเชื่อมไทยกับประเทศในกลุ่ม BIMSTEC คือ พม่า บังกลาเทศ และอินเดีย โดยเสนอ เส้นทางจาก อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ผ่าน จ.แม่ฮ่องสอน เข้าสู่เมืองตองกี และเมืองปิ่นมะนา ประเทศพม่า เชื่อมเมืองจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ ก่อนเข้าสู่ประเทศอินเดีย


 


เส้นทางในส่วนของไทยนั้นคณะรัฐมนตรีอนุมัติตามแผนพัฒนาการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจเชื่อมโยงกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและเอเชียใต้ กำหนดให้มีเส้นทางเชื่อมจาก อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ถึง ต.ห้วยปูลิง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ระยะทางรวม 180 ก.ม. ขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้วบางส่วน คือโครงการปรับปรุงถนนสาย ช.ม.6032 จาก อ.สะเมิง ถึงบ้านวัดจันทร์ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ระยะทาง 43.780 ก.ม.


 


หากสามารถเชื่อมต่อเส้นทางที่เหลือได้ การสัญจรระหว่างเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน จะมีระยะทางสั้นลงจากเส้นทางหลักในปัจจุบันกว่า 100 ก.ม. เราจะมีเส้นทางไปชายแดน ห่างจากเมืองหลวงใหม่ของพม่าไม่มากนัก ขณะที่ในพม่าก็มีการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อเมือง สำคัญต่างๆ ในอนาคตหากการเชื่อมต่อสมบูรณ์ จะเป็นเส้นทางคมนาคมของคน สินค้า และการลงทุนที่สำคัญของภูมิภาค


 


นอกจากโครงการดังกล่าวแล้ว คสศ.ยังจะเร่งรัดการปรับปรุงถนนสู่จุดผ่อนปรนการค้าเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง ซึ่งเป็นช่องทางการค้าชายแดนที่สำคัญของแม่ฮ่องสอน อยู่ตรงข้าม ต.ห้วยทราย เมืองลอยก่อ รัฐคะยา และอยู่ห่างตัวจังหวัดประมาณ 225 ก.ม. ปัจจุบันเส้นทางจาก อ.แม่สะเรียงถึงชายแดนบ้านเสาหิน 98 ก.ม.ยังเป็นทางดินลูกรัง สัญจรได้ดีเฉพาะในฤดูแล้ง


 


นายพูลศักดิ์ สุนทรพานิชกิจ ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน และกรรมการ คสศ. เปิดเผยว่า ปัจจุบัน จ.แม่ฮ่องสอน มีจุดผ่อนปรนการค้าตามแนวชายแดน 3 จุดคือ จุดผ่อนปรนบ้านห้วยผึ้ง อ.เมือง, จุดผ่อนปรนบ้านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม, จุดผ่อนปรนบ้านเสาหิน อ.แม่สะเรียง นอกจากนั้นมีช่องทางการค้าบ้านแม่สามแลบ (สาละวิน) อ.แม่สะเรียง ซึ่งต้องขออนุญาตนำเข้าหรือส่งออกเป็นครั้งคราว


 


รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนโครงการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมกับประเทศในภูมิภาคต่อเนื่องในระยะหลายปีที่ผ่านมา ในประเทศพม่านอกจากเคยสนับสนุนเงินทุนในการก่อสร้างเส้นทางสายท่าขี้เหล็ก- เชียงตุง ติดพรมแดนด้าน จ.เชียงราย ระยะทาง 136 ก.ม. เพื่อเชื่อมโยงกับจีนตอนใต้แล้ว ยังสนับสนุนการก่อสร้างเส้นทางสายแม่สอด/เมียวดี-กอกะเรก-พะอัน-ท่าตอน ระยะ 200 ก.ม. หวังเชื่อมต่อกับเมืองย่างกุ้งซึ่งเมืองท่าสำคัญห่างจากชายแดนด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 400 ก.ม.


 


ขณะที่เส้นทางเชื่อมเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนที่ต้องต้องผ่าน ต.บ้านวัดจันทร์นั้นได้รับการคัดค้านจากกลุ่มอนุรักษ์ ให้เหตุผลว่าจะทำลายป่าสนที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย และเส้นทางต่อเนื่องยังตัดผ่านป่าต้นน้ำตลอดเส้นทาง (ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 01/12/2551)


 


 


3. ต่างประเทศ


 


3.1 ชาวพม่าที่ลี้ภัยในญี่ปุ่นเดินขบวนเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ


เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของการประกาศปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ชาวพม่าซึ่งลี้ภัยอยู่ในญี่ปุ่นประมาณ 300 คน ได้ร่วมเดินขบวนกลางกรุงโตเกียว เพื่อเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพให้ผู้คนในพม่า โดยประกาศจะไม่ยอมรับการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้นานาประเทศเร่งผลักดันให้รัฐบาลทหารพม่าเดินหน้าปฏิรูปประชาธิปไตย


 


ผู้ประท้วงได้วิจารณ์รัฐบาลทหารพม่า และกล่าวว่านับวันสถานการณ์ในพม่าจะยิ่งเลวร้าย นอกจากนี้ ยังไม่มีการเคารพสิทธิมนุษยชนในพม่า


 


ทั้งนี้ ผู้ลี้ภัยชาวพม่านับเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลุ่มใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เฉพาะเมื่อปีที่แล้ว มีชาวพม่าพยายามขอลี้ภัยในญี่ปุ่นถึงกว่า 800 คน (ผู้จัดการ วันที่ 01/12/2551)


 


3.2 สหรัฐฯจัดสรรความช่วยเหลือ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วยบรรเทาทุกข์เหยื่อไซโคลนนาร์กิส


นางลอร่า บุช สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ จะจัดสรรความช่วยเหลืออีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 175 ล้านบาท) ช่วยบรรเทาทุกข์เหยื่อไซโคลนนาร์กีสในพม่า


 


นางบุช กล่าวต่อสภาวิเทศสัมพันธ์ในนครนิวยอร์กเนื่องในวันครบรอบ 60 ปีของปฏิญญาสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศว่า สำนักงานความช่วยเหลือระหว่างประเทศของสหรัฐฯ จะจัดสรรความช่วยเหลือพม่าอีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สนับสนุนการทำงานขององค์กรนอกภาครัฐ เช่น โครงการอาหารโลก กลุ่มเซฟ เดอะ ชิลเดรน (Safe the Children) จัดหาน้ำสะอาด ที่พัก บริการสาธารณสุขและสิ่งจำเป็นอื่นๆ แก่พื้นที่ที่เดือดร้อนที่สุด


 


สหรัฐฯได้จัดสรรความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้พม่าแล้ว 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2,625 ล้านบาท) โดยส่งเครื่องบินเข้าไปอย่างน้อย 100 เที่ยวหลังจากไซโคลนนาร์กีสถล่มพื้นที่ลุ่มแม่น้ำอิระวดีเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 130,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัยอีกมากกว่า 2 ล้านคน (ผู้จัดการ วันที่ 11/12/2551)


 


………………………………………………………………………………….


 


Newsline เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการวิจัยไทย (Thai Research) มูลนิธิส่งเสริมสันติวิถี (Peaceway Foundation) เป็นการรวบรวมข่าวภาษาไทย พร้อมทั้งการนำเสนอบทความภาษาไทยเกี่ยวกับประเทศพม่า และผลกระทบที่มีต่อประเทศไทย เพื่อให้ผู้คนในสังคมไทยได้รับรู้ ตระหนักถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพม่า และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและรณรงค์ให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงในประเทศพม่าต่อไป


 


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการวิจัยไทย และโครงการอื่นๆ ติดตามได้ที่www.burmaissues.org


และสามารถอ่านข่าวย้อนหลังได้ที่www.oknation.net/blog/burmaissuesnewsline


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net