Skip to main content
sharethis

ชาวนาจากอีสานควรระวังการถูกหลอกไปเก็บลูกเบอร์รี่ที่ฟินแลนด์และสวีเดน คำเตือนจากประธานสมาคมคนไทยในฟินแลนด์

 
คนเหล่านี้มักจะถูกหลอก ทำงานหนักและมักจะไม่มีเงินเก็บจากค่าแรงในการทำงานเมื่อกลับบ้าน บุญชื่น คอสเคล่า (Bunchuen Koskela) ประธานสมาคมคนไทยในฟินแลนด์ (The Finnish Thai Association) กล่าวกับ Bangkok Post
 
เกษตรกรในภาคอีสานมักจะหางานอื่นๆ ทำนอกฤดูการเก็บเกี่ยว ซึ่งในภาคอีสานส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวข้าวได้ปีละหนเท่านั้น “เราไม่อยากให้เกษตรกรถูกหลอกจากพวกนายหน้า” บุญชื่นกล่าว “เพราะชีวิตที่นี่ไม่ได้ง่ายอย่างกับที่บ้าน”
 
สมาคมซึ่งก่อตั้งมาเมื่อสามปีที่แล้ว สามารถช่วยเหลือคนไทยที่มาทำงานที่ฟินแลนด์กลับบ้านได้ประมาณ 60 คน เมื่อปีที่ผ่านมา บุญชื่นกล่าวว่าคนไทยประมาณ 200 – 300 คน ส่วนใหญ่จะมาจากจังหวัดในภาคอีสาน เช่น เลย อุดรธานี และชัยภูมิ เดินทางมาเก็บผลไม้ป่าในแต่ละปี แต่ละคนต้องจ่ายเงินประมาณ 150,000 บาท ให้กับนายหน้าโดยได้รับคำมั่นสัญญาว่าจะทำเงินได้เดือนนับแสนบาท แต่มักจะไม่เป็นไปอย่างที่นายหน้าสัญญาไว้
 
คนงานเก็บลูกผลไม้ป่าส่วนใหญ่มักจะเป็นชาวนา เริ่มเดินทางมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยอาศัยอยู่ในแค้มป์ในป่า ทำงานเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่กรกฎาคมถึงกันยายน ก่อนที่จะกลับบ้าน แต่การใช้ชีวิตไม่ได้สะดวกสบายทั้งที่อยู่อาศัยและการเตรียมอาหารต่างๆ โดยหากมีคนงานคนไหนไม่ต้องการที่จะอยู่ในแคมป์ที่มีคนหนาแน่น ก็ต้องไปพักอาศัยในเต้นท์ในเขตป่าที่ลึกไปอีก
 
บุญชื่นกล่าวว่าคนงานเก็บผลไม้ป่าที่สมาคมฯ ได้ช่วยเหลือให้กลับบ้านนั้น ต้องจ่ายเงิน (ให้กับกระบวนการส่งคนมาทำงานในฟินแลนด์) ประมาณ 1,400 ยูโร (ประมาณ 63,000 บาท) สำหรับค่าใช้จ่ายค่าเดินทางและที่พัก ซึ่งส่วนใหญ่ทั้งนี้พวกเขาหวังว่ารายได้ที่ฟินแลนด์จะดีกว่าในการทำงานที่สวีเดน
 
โดยนายจ้างที่ฟินแลนด์ได้เตรียมทั้งที่พักและรถตู้ในการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าให้ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะกลับโดยไม่มีเงินเก็บ เพราะค่าปรับจากกฎหมายการจราจรที่เข้มงวดของฟินแลนด์ ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกผู้โดยสารเกินสามคน เป็นต้น
 
“แต่ละคนมักจะสิ้นสุดงานพร้อมด้วยหนี้คนละ 70,000 ถึง 80,000 บาท จากการเอาที่ดินไปจำนองไว้กับนายหน้า เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง” บุญชื่นกล่าว
 
ผู้ประกอบการด้านเกษตรกรรมในฟินแลนด์ได้ว่าจ้างคนต่างชาติในการเก็บผลไม้ในแต่ละปี ซึ่งแรงงานต่างชาติส่วนใหญ่มาจากรัสเซีย เอสโตเนีย และไทย
 
พวกเขาใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ได้รับอนุญาตให้เก็บลูกเบอร์รี่เพื่อขาย ไม่ได้เซ็นสัญญาจ้างตามกฎหมายแรงงาน และอยู่ได้เพียงสามเดือนเท่านั้นตามวีซ่านักท่องเที่ยว โดยลูกเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ป่า จะมีราคาประมาณ 2-3 ยูโร แต่ส่วนใหญ่แล้วนายหน้ามักจะหักเงินประมาณ 1 ยูโรจากการขายโดยไม่ให้คนเก็บผลไม้รู้ บุญชื่นกล่าว
 
ทั้งนี้บุญชื่นกล่าวว่าหน่วยงานของรัฐไทยและฟินแลนด์ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในประเด็นแรงงานและการตรวจคนเข้าเมือง ควรมีมาตรการป้องกันการหลอกลวงแรงงานเหล่านี้
 
ที่มา:
Berry picking jobs not pick of the bunch (Bangkok Post on-line, 2/01/2010)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net