29 มิ.ย. 2559 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ที่ห้องพิจารณาคดี 6 ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ได้นัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาที่พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นโจทก์ และสาลี เสวกจินดา โจทก์ร่วมที่ 1 กับจอมขวัญ เสวกจินดา โจทก์ร่วมที่ 2 ยื่นฟ้องในคดี ทองนาค เสวกจินดา แกนนำต่อต้านการขนส่งถ่านหิน ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าร้านค้าที่หมู่ 4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2554 โดยศาลมีคำตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ยกฟ้องจำเลยที่ 6 คือ สิทธิโชค นอบน้อม หรือผู้ใหญ่เล็ก กับธนยศ วงศ์พิมพ์ จำเลยที่ 7 ในข้อหาร่วมกันจ้างวานใช้ให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 5 ฆ่า ทองนาค

 

เนื่องจากศาลอุทธรณ์พิจารณาเห็นว่าหลักฐานยังมีไม่เพียงพอ จึงไม่น่าเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 6 และ จำเลยที่ 7 กระทำความผิดฐานร่วมกันจ้างวานใช้จริง และให้จำเลยที่ 6 กับจำเลยที่ 7 ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวไปคนละ 500,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 5 คือ นิพนธ์ ยันตะละพะ จักรพงษ์ ขวัญพันธุ์งาม โยธิน เทพเรียน และไพโรจน์ แสงสว่าง มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าร่วมกันกระทำความผิดจริง ศาลอุทธรณ์จึงยืนคำตัดสินตามศาลชั้นต้นจำคุกตลอดชีวิต

 

อย่างไรก็ตาม สิทธิโชค จำเลยที่ 6 และธนยศ จำเลยที่ 7 ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2559 ตามที่ศาลมีหมายนัดแจ้งไป จึงได้ออกหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครไว้ แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ และได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ (29 มิ.ย.59)

 

อนึ่ง ศาลฎีกาพิจารณาเห็นว่าการชดใช้ค่าไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 2 คือ จอมขวัญ นั้นเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อยในศาลชั้นต้น เนื่องจากมีการคำนวนจำนวนเงินคลาดเคลื่อน จึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 5 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นให้แก่นางจอมขวัญ เป็นเงินทั้งสิ้น 1,715,000 บาท รวมดอกเบี้ยของธนาคารนับตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2554 เป็นต้นมา โดยให้ส่งคำสั่งศาลฎีกาไปให้ศาลจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เรือนจำที่จำเลยทั้งหมดถูกคุมขังอยู่นั้น เป็นผู้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 5 ได้รับทราบและปฏิบัติตามโดยทั่วกัน

 

จอมขวัญ กล่าวว่า ครอบครัวพร้อมรับคำตัดสินของศาลฎีกา ซึ่งถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ส่วนนายทองนาค สามีนั้น ทางกลุ่มคัดค้านถ่านหินจะจัดพิธีทำบุญให้แก่ดวงวิญญาณในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ที่วัดบางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร