Skip to main content
sharethis

เกิดเหตุยิงครอบครัวทองจันทร์ขณะขับรถส่งลูกและนักเรียนไปโรงเรียนในอ.รือเสาะ มีผู้เสียชีวิต 4 บาดเจ็บ 2 เหตุเกิดหลังรัฐบาลไทย-กลุ่มมาราปาตานีคุยกรอบข้อตกลงกำหนดพื้นที่ปลอดภัย 5 อำเภอใน ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เพียง 3 วัน หลายองค์กรออกแถลงการณ์เรียกร้องแนวทางสันติ

2 มี.ค.2560 สำนักข่าว INN รายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเข้าใส่ นายสมชาย ทองจันทร์ อายุ 57 ปี ชาวบ้านศรีภิญโญ ซึ่งเป็นบ้านเจ้าของบ้านธรรมเจริญ หมู่ที่ 6 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านธรรมเจริญ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ

ในขณะที่นายสมชาย กำลังขับรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ทอง เพื่อรับส่งนักเรียนไทย - พุทธ ไปส่งที่โรงเรียนในพื้นที่ อ.รือเสาะ ในระหว่างทางเมื่อเดินทางมาถึงบ้านธรรมเจริญ หมู่ที่ 6 ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเข้าใส่รถนักเรียนไทย - พุทธ เบื้องต้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต โดยเป็นเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต 

จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่กองกำลังผสม อ.รือเสาะ พบว่ามีผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย คือ นายสมชาย ทองจันทร์ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นางรัตติกา ทองจันทร์ อายุ 40 ปี  ซึ่งเป็นภรรยา นางสน ทองจันทร์ อายุ 42 ปี รวมทั้ง ด.ช.ธนกิจ ทองจันทร์ อายุ 8 ปี โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ ด.ช.จีรภัทร์ ทองจันทร์ อายุ 12 ปี ถูกนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

ล่าสุดกองกำลังผสม อ.รือเสาะ นำโดย พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผู้กำกับการ สภ.รือเสาะ และ พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา ผู้บังคับการกรมทหารพราน ที่ 46 นำกำลังเดินทางเข้าตรวจสอบ พร้อมกับติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายต่อไป

ส่วนกอ.รมน.ประณามเหตุกราดยิงรถรับส่ง น.ร. ระบุว่าพ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนขอประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นฝีมือของคนขี้ขลาด ไร้อุดมการณ์ เพราะผู้ได้รับกระทบส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง ขณะนี้ทาง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแล ช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างเต็มที่ ล่าสุด ทหารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างลงพื้นที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ที่ชอบสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเป็นประจำ โดยหลังจากนี้จะนำหลักฐานจากทุกหน่วยมาใช้ในการเร่งติดตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า บินด่วนด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังจุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้าย ซุ่มยิงใส่ราษฎรชาวไทย - พุทธ เสียชีวิต 4 คน โดย 1 ในผู้เสียชีวิต เป็นเด็กนักเรียน เพศชาย อายุ 8 ปี โดย พ.อ.ปราโมทย์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ จุดเกิดเหตุ ว่า ทาง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยได้กล่าวประณามกลุ่มก่อเหตุรุนแรงว่าเป็นการกระทำที่สุดโต่งเยี่ยงสัตว์ป่า ไม่ใช่วิธีการของนักรบ ที่กระทำต่อเป้าหมายที่เป็นเด็กและผู้บริสุทธิ์

นอกจากนี้ ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ เร่งติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว หลังจากนั้น พ.อ.ปราโมทย์ ได้เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปเพื่อที่จะได้ประเมินสถานการณ์ พร้อมกับหาทางปิดช่องโหว่ โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมจะให้การดูแลราษฎรชาวไทย - พุทธ และเป้าหมายอ่อนแอ อย่างเต็มความสามารถ

ผู้สื่อข่าวประชาไทรายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลไทยและกลุ่มมาราปาตานีมีการพูดคุยหารือและเห็นชอบถึงกรอบข้อตกลงการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยใน 5 อำเภอ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพียง 3 วันเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก BBC ไทย รายงานก่อนหน้านี้ว่า กลุ่มมาราปาตานีได้ออกหนังสือแถลงข่าวว่า ผลการพูดคุยสันติสุขกับทางการไทยที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซียในวันนี้ (28 ก.พ.) ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบกรอบข้อตกลงเรื่องการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยใน 5 อำเภอ ของ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส โดยจะเลือก 1 อำเภอนำร่อง แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ในอำเภอ หรือจังหวัดใด

และยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นมาตรการเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างทางการไทยกับกลุ่มมาราปาตานี และปกป้องพลเรือนจากปัญหาความขัดแย้งที่นองเลือด อย่างไรก็ตาม ทางการไทยยังคงมีความกังขาถึงความสามารถของกลุ่มมาราปาตานีในการผลักดันให้กลุ่มผู้เห็นต่างในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยอมวางอาวุธ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้เห็นต่างเองก็ไม่เชื่อว่ารัฐบาลทหารของไทยจะลดกำลังพลจำนมากที่ส่งไปรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เอเอฟพี รายงานว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีกับความคืบหน้าครั้งนี้ แต่ก็เตือนว่า หากยังคงมีกลุ่มผู้เห็นต่างก่อเหตุร้ายในพื้นที่ปลอดภัยก็จะสร้างความเสียหายต่อกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้

มาราปาตานี เรียกร้องรัฐเร่งตรวจสอบ-หาผู้กระทำผิด ยืนยันแนวทางพูดคุยสันติภาพ

ด้านเว็บไซต์ DeepSouthWatch รายงานว่า มารา ปาตานี ได้มีแถลงการณ์ต่อกรณีนี้ผ่านเฟสบุก Patani Voice N Opinion ระบุว่าขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่อาจยอมรับได้ต่อการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ และต่อเด็ก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและนำผู้กระทำผิดมารับโทษ รวมทั้งยืนยันว่ามารา ปาตานีต้องการใช้แนวทางการเมืองคือการพูดคุยสันติภาพและการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยเพื่อเป็นก้าวแรกของการปกป้องผู้บริสุทธิ์

เครือข่ายสิทธิปาตานี เรียกร้องแก้ปัญหาตามกระบวนการสันติวิธี
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี และกลุ่มด้วยใจ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายแสวงหาทางออกของความขัดแย้งทั้งในระดับปัจเจกบุคคล ชุมชน และ ระดับประเทศ โดยกระบวนการสันติวิธี ในระหว่างการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพหลักสิทธิมนุษยชนและหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และขอเรียกร้องให้รัฐดำเนินการตามนโยบายในแนวทางสันติวิธีและมีมาตรการในการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ (อ่านที่นี่)

สภานักเรียนเอกชนศาสนาอิสลาม 3 จังหวัดวอนสองฝ่ายยุติความรุนแรง
สภานักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกแถลงการณ์ขอวิงวอนต่อหน่วยงานความมั่งคงของรัฐและผู้กระทำด้วยวิธีความรุนแรงยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ไร้ทางสู้ โดยเฉพาะเด็ก ซึ่งเป็นเป้าหมายอ่อนแอ และหันมาเรียกร้องความยุติธรรมโดยสันติวิธีร่วมกัน (อ่านที่นี่)

เครือข่ายพุทธชายแดนใต้ประณามผู้ก่อเหตุ-ผู้สนับสนุนการก่อเหตุต่อเป้าหมายอ่อนแอ
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ (B4P) และองค์กรร่วม ประณามการก่อเหตุ และกลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนการก่อความรุนแรงต่อเป้าหมายอ่อนแอ ผู้พิการ ผู้หญิง และเด็ก พร้อมกันนี้ในแถลงการณ์ยังระบุเพิ่มเติมว่าหากเหตุการณ์เหล่านี้ยังดำเนินต่อไปถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงแนวโน้มที่น่าเป็นห่วงต่อการดำรงชีวิตของคนในพื้นที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม ลงท้ายด้วยขอให้ทุกฝ่ายใช้หลักสันติวิธี ในการเรียกร้องในสิ่งที่ฝ่ายตนเองต้องการเพื่อป้องกันความสูญเสียของทุกๆฝ่าย พร้อมให้ทุกภาคส่วนมีมาตรการป้องกันประชาชนในพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายอ่อนแออย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน (อ่านที่นี่)

พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเสียใจกับครอบครัว เร่งดิดตามคนร้าย

วันเดียวกัน พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามลอบโจมตีรถที่มีนักเรียนนั่งในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวและครูอาจารย์ของนักเรียนที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ระหว่างเดินทางไปโรงเรียน โดยได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง เร่งติดตามตัวคนร้าย มาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่สมควรเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์  

"ท่านนายกฯ ยังได้กำชับให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนักเรียนแต่ละรายอย่างเต็มที่ และย้ำว่า รัฐบาลเป็นห่วงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงขอให้ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง บูรณาการ ความร่วมมืออย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจในการดำเนินชีวิตแก่ประชาชนทุกคน  ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มีพัฒนาการดีขึ้นตามลำดับ โดยมีสถิติการเกิดเหตุความรุนแรงน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เหตุการณ์ในครั้งนี้จึงไม่เกิดผลดีกับใครโดยเฉพาะคนในพื้นที่เอง และยังทำให้ประชาชนนอกพื้นที่เกิดความไม่เชื่อมั่นที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ จึงขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันประณามและกดดันผู้ก่อความไม่สงบ โดยหากพบเบาะแสหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อ จะได้ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว" พล.ท.สรรเสริญกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net