Skip to main content
sharethis

สปสช. เผยสายด่วน 1330 ยอดใช้บริการพุ่งกว่า 2 หมื่นครั้งต่อวัน เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ปกติ 3-4 เท่า เหตุจากการเพิ่มบริการกรณีโควิด - ดีอีเอส เผยโทรฟรี 8 เบอร์สายด่วนโควิด '1330, 1323, 1422, 1442, 1646, 1668, 1669 และ 1506' เริ่ม 25 ก.ค. 64

24 ก.ค. 2564 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่มีประชาชนได้ร้องเรียนการใช้บริการสายด่วน สปสช. 1330 ในขณะนี้ เนื่องจากไม่สามารถโทรติดต่อได้และต้องรอสายบริการเป็นเวลานาน ขอเรียนว่า สปสช. รับทราบปัญหาและอยู่ระหว่างการแก้ไขโดยด่วน ทั้งนี้ด้วยเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับ สปสช. ได้ดำเนินนโยบายกรณีโควิด-19 เชิงรุกเพื่อให้เกิดการดูแลโดยเร็วและทั่วถึง อาทิ การประสานหาเตียงผู้ป่วยโควิด-19 การจัดบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก และการจัดระบบดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้านและในชุมชน (Home-Community Isolation: HI/CI) ขณะเดียวกันยังมีประชาชนที่ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สิทธิและอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราการโทรสายด่วน สปสช. 1330 เพิ่มขึ้นหลายเท่า 

ตัวอย่างข้อมูลบริการสายด่วน สปสช. 1330 เฉพาะเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 มีจำนวนการโทรเข้าทั้งหมด 24,508 ครั้ง มากกว่าช่วงสถานการณ์ปกติ 3-4 เท่า ในจำนวนนี้เป็นสายที่เข้าหาเจ้าหน้าที่ 14,001 ครั้ง เจ้าหน้าที่รับสายได้ 6,525 ครั้ง เกินศักยภาพระบบที่รองรับ ส่งผลให้เกิดการบริการที่ล่าช้า โดยบางช่วงเวลามีคิวการรอสายสูงถึง 14 สาย รวมถึงมีสายที่ไม่ได้รับบริการ แม้ว่าที่ผ่าน สปสช. ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่รับสายพร้อมการขยายคู่สายรองรับ 1,600 สาย แล้วก็ตาม ซึ่งเฉพาะสายที่มีความต้องการเข้าสู่ระบบการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน ด้วยการกดสายด่วน สปสช. 1130 กด 14 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็มีจำนวนการโทรเฉลี่ยเกือบ 9,000 ครั้งต่อวัน      

นอกจากนี้ ในจำนวนสายที่โทรมาสายด่วน สปสช. 1330 ยังมีสัดส่วนที่ผู้ประกันตนที่โทรเข้ามาสอบถามใช้สิทธิรักษาพยาบาลและสิทธิต่างๆ ในระบบประกันสังคมค่อนข้างมาก รวมถึงการขอเข้าสู่ระบบการดูแลผู้ป่วยโควิดสีเขียวที่บ้านในส่วนที่เป็นผู้ประกันตน โดยรายงานบางวันมีสัดส่วนสูงถึง 30% ของสายที่โทรเข้า ส่งผลให้ สปสช. ต้องเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับผู้ประกันตน โทร 1330 กด 16 โดยเฉพาะ ซึ่งข้อมูลในวันที่ 23 ก.ค.64 มีการกด 16 จำนวน 4,830 ครั้ง  

“ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ทำให้จำนวนการโทรเข้ามายังสายด่วน สปสช. 1330 พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ต้องย้ำว่าขณะนี้ สปสช. อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ปัญหาโดยเร็ว โดยจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รับสายและขยายคู่สายอีก 500 คู่สาย และได้เพิ่มช่องทางต่างๆ ในการติดต่อกับ สปสช. ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนด้วยตนเองเพื่อเข้าสู่ระบบดูแลที่บ้านผ่านเว็บไซต์ https://crmsup.nhso.go.th/ หรือแจ้งผ่านไลน์ @nhso ไปที่เมนูลงทะเบียนระบบดูแลที่บ้าน (Home Isolation) หรือการแจ้งความประสงค์เพื่อขอกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนาผ่านเว็บไซต์ https://crmdci.nhso.go.th/ เข้าใจว่าหลายท่านขณะนี้ต้องการได้รับความช่วยเหลือเป็นการด่วน โดย สปสช. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว   

กสทช. ขอความร่วมมือโอเปอเรเตอร์ทุกค่ายยกเว้นค่าโทรเมื่อประชาชนโทรเข้าเบอร์ฉุกเฉิน 4 หลักของหน่วยงานภาครัฐที่ใช้ในสถานการณ์โควิด-19

24 ก.ค. 2564 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. ระบุว่าสำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังโอเปอเรเตอร์ทั้ง 4 รายได้แก่ AIS TRUE DTAC และ NT ให้ยกเว้นค่าบริการเมื่อประชาชนโทรติดต่อเลขหมายสั้น 4 หลัก ของหน่วยงานภาครัฐที่ใช้ให้บริการประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อสนับสนุนการดูแล ป้องกัน แจ้งเตือน ให้ความช่วยเหลือประชาชน และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วน

ประกอบกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวง ดีอีเอส) ได้มีหนังสือมายังสำนักงาน กสทช. เพื่อขอให้ยกเว้นค่าบริการโทรเข้าเลขหมายสายด่วนและข้อความสั้นที่ให้บริการประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม กสทช. วาระพิเศษ พร้อมกับเรื่องมาตรการช่วยเหลือประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 อื่น ๆ เพิ่มเติม ในสัปดาห์หน้านี้

ดีอีเอส เผยโทรฟรี 8 เบอร์สายด่วนโควิด '1330, 1323, 1422, 1442, 1646, 1668, 1669 และ 1506' เริ่ม 25 ก.ค. 64

มติชนออนไลน์ รายงานว่านายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม เป็นต้นไป ประชาชนสามารถใช้บริการ “โทรฟรี” สายด่วนของหน่วยงานรัฐทั้ง 8 เลขหมาย ได้แก่ 1330, 1323, 1422, 1442, 1646, 1668, 1669 และ 1506 ที่รองรับการให้บริการข้อมูล ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ ให้คำปรึกษาแนะนำ และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ การหาเตียง สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด เพื่อให้การดูแล ป้องกัน แจ้งเตือนและให้ความช่วยเหลือประชาชน ในภาวะสถานการณ์ที่ฉุกเฉินและเร่งด่วน

“จากกรณีมีประชาชนร้องเรียน เรื่องการติดต่อเบอร์สายด่วนเพื่อเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยโควิดที่ต้องรอสายนาน และมีค่าใช้จ่ายในการโทร จึงได้เร่งติดตามความคืบหน้าที่ผมได้ส่งหนังสือประสานขอความอนุเคราะห์ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ให้พิจารณาขอความร่วมมือเครือข่ายผู้ให้บริการมือถือ ยกเว้นค่าบริการสำหรับการใช้บริการสายด่วนขอคำปรึกษา และประสานขอเตียงสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และเลขหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งค่าบริการข้อความสั้นหรือ SMS สำหรับระบบบริหารจัดการผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ที่ต้องกักตัวที่บ้าน” นายชัยวุฒิกล่าว

ล่าสุด กระทรวงได้รับการประสานตอบรับการช่วยเหลือยกเว้นค่าบริการสายด่วนเกี่ยวกับโควิดจาก กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแล้ว ประกอบด้วย บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เอไอเอส ทรู และดีแทค โดยจะเริ่มยกเว้นค่าบริการสายด่วนให้โทรฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายให้จัดทำระบบบริหารจัดการผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) โดยมอบหมายให้ NT เป็นผู้ดำเนินการในเรื่อง SMS Gateway สำหรับส่ง OTP ไปยังผู้ป่วยเพื่อใช้สำหรับการยืนยันตัวตนบนระบบออนไลน์ และเพื่อให้แพทย์สามารถติดต่อกับผู้ป่วยได้โดยสะดวกและไม่ผิดคน

“ส่วนที่ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้รับการยกเว้นค่าโทรฯ ได้รับทราบข้อมูลจาก กสทช. ว่า เนื่องจากต้นสังกัดแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบสายด่วน ไม่ทำเรื่องขอความอนุเคราะห์ไปยัง กสทช. กระทรวงดิจิทัลฯ จึงเห็นควรว่า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนและผู้ป่วยโควิดในขณะนี้ จึงได้ประสานไปยัง กสทช. เพื่อขอความอนุเคราะห์ดังกล่าว และต้องขอขอบคุณ กสทช.และบริษัทผู้ให้บริการมือถือทุกค่ายที่ร่วมกันช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤตโควิดในครั้งนี้ด้วย” นายชัยวุฒิกล่าว

 

*แก้ไขพาดหัวและเพิ่มข้อมูล 17.38 น. (24 ก.ค. 2564)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net