"ทะลุฟ้า" นัดชุมนุมไปบ้านประยุทธ์ยืนยันชุมนุมในแนวทางสันติวิธีและจะมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น จะไม่มีการกระทำความรุนแรงต่อเพื่อนมนุษย์ ตำรวจเข้าสลายตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดินใช้ทั้งแก๊สน้ำตา-กระสุนยางเข้าสลายชุมนุม

17.39 ทางด้านกลุ่มทะลุฟ้าประกาศทางเพจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทางผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวน กลุ่ม คฝ.เริ่มขยับเข้ามาอย่างเร็ว เร่งจับเข้าชาร์ตผู้ชุมนุม ใช้กระสุนยาง ปาแก๊สน้ำตา กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ เริ่มเอา "สีน้ำ" ปาใส่ คฝ. แต่ก็มีกลุ่มวัยรุ่นเริ่มปาประทัด จากนั้นสถานการณ์ก็หนักขึ้น คฝ.วิ่งจับกุมหมดที่คิดว่าเป็นผู้ชุมนุม ทั้งนี้จากการถูกเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงต่อเนื่องหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาทำให้ประชาชนไม่เห็นหนทางที่จะชนะด้วยสันติวิธี แต่เมื่อดูอาวุธที่ประชาชนมีก็ยังถือเป็นสันติอหิงสาเมื่อเทียบกับอาวุธของฝั่งเจ้าหน้าที่ซึ่งพวกเขาไม่มีทางสู้กับทรัพยกรที่มีอย่างมหาศาลของฝ่ายรัฐได้

"วันนี้เราผิดหวังที่การชุมนุมไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางของเราและเรายืนยันว่าครั้งหน้าเราจะมาสู้อีกเมื่อเราพร้อมและประชาชนพร้อมที่จะออกมายืนยันการต่อสู้ในแนวทางที่เรายึดมั่นร่วมกับเรา" กลุ่มทะลุฟ้าระบุไว้ในประกาศดังกล่าว

17.30 น. หลังจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ถูกสลาย ทางด้านผูุ้ชุมนุมยังคงมุ่งหน้าไปทางถนนวิภาวดีต่อแต่ทาง ตำรวจใช้คอนเทนเนอร์ปิดกั้นถนนวิภาวดีช่วงบริเวณแยกดินแดงและมีการวางกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนอยู่บนทางด่วนดินแดงและมีการใช้ปืนที่คาดว่าเป็นกระสุนยางและแก๊สน้ำตายิงลงมาใส่ผู้ชุมนุมด้านล่างต่อเนื่องโดยที่ผู้ชุมนุมมีความพยายามขว้างปาสิ่งของขึ้นไปบนทางด่วนดินแดงที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนวางกำลังอยู่  ทั้งนี้มีฝนตกลงมาตลอดระยะเวลาที่ผู้ชุมนุมรวมตัวกันที่บริเวณแยกดินแดง สถานการณ์ดำเนินไปเช่นนี้จนกระทั่งจวนถึง 19.00 น. มวลชนจึงเริ่มสลายตัวไปจากบริเวณดังกล่าว

ประมาณ 16.10 น.Voice TV รายงานถึงประชาชนที่ถูกกระสุนยางยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณท้องพร้อมนำหัวกระสุนมาแสดงให้กับผู้สื่อข่าวในบิเรวณดังกล่าว

ผู้สังเกตการณ์ของ MobDATA รายงานอีกว่าสื่ออิสระ(ไม่มีปลอกแขน)หนึ่งคนถูกคฝ.ตีเข้าที่ไหล่ เธอเล่าว่าได้ใช้กล้องขึ้นมาบังพอดีทำให้ฟิลเตอร์แตกและเลนส์บุบ ในจังหวะที่คฝ.กำลังไล่จับผู้ชุมนุม เธอเล่าว่าคฝ.ไม่ได้มีการเตือนหรือพูดอะไรก่อนที่จะตี นอกจากนั้นผู้สังเกตการณ์ยังพบกองปลอกกระสุนในบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมารภูมิด้วย

ประมาณ 15.55 น. จากไลฟ์ของ Voice TV ไลฟ์ภาพขณะตำรวจใช้อาวุธปืนลูกซองซึ่งคาดว่าเป็นกระสุนยางยิงมาที่ผู้ชุมนุมที่อยู่ใกล้กับแนวของเจ้าหน้าที่ที่กำลังถอยร่นไปตามถนนพญาไทมุ่งหน้าสถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ขณะเดียวกัน กลุ่มทะลุฟ้าประกาศยุติดการชุมนุมหลังจาก ตร.คฝ. เข้าจับกุมบุคคลและวางกำลังบนวงเวียนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

11 ส.ค.2564 เวลา 15.00 น. กลุ่ม “ทะลุฟ้า” นัดทำกิจกรรม “ไล่ทรราช” เคลื่อนขบวนจากเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งขณะนี้เริ่มมมีมวลชนมารวมตัวกันและมีการปราศรัยและประกาศบนเวทีว่าจะเริ่มเดินขบวนในเวลา 16.00 น. 

ผู้สังเกตการณ์ของ MobData ระบุว่าผู้ชุมนุมเริ่มทยอยมารวมตัวกันที่เกาะพญาไทตั้งแต่เวลา 14.00 น. ขณะที่ตำรวจยังไม่มีการปิดการจราจรที่แยกดินแดง มีการเตรียมแนวสิ่งกีดขวางเช่น แผงเหล็กที่กลางแยกดินแดง ตำรวจชุดคุมฝูงชนส่วนวางกำลังภายในกรมดุริยางค์ทหารบก รวมทั้งยังไม่มีการปิดเส้นทางที่พหลโยธินซอย 2 มีเพียงตำรวจจราจรและตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งเตรียมไว้ คาดว่า จะเป็นตู้ที่อยู่มาก่อนแล้ว

ส่วนทางเวทีมีการปราศรัยว่าเรื่องที่รัฐบาลบริหารจัดการแก้ไขการระบาดโควิด-19 ที่ล้มเหลว แต่รัฐกลับใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการบริหารของรัฐบาล นอกจากนั้นยังมีการติดตามจับกุมประชาชนอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาใกล้เคอร์ฟิวทำให้เสียสิทธิในกระบวนการยุติธรรมเนื่องจากเข้าถึงสิทธิที่จะมีทนายความและผู้ที่ไว้ใจในกระบวนการสอบสวน

ในการปราศรัยยังมีการกล่าวถึงชนาธิป เหมือนพะวงศ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ที่มีทบาทในการตัดสินคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุมและการวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ แต่เมื่อมีการพยายามวิจารณ์ศาลก็มีการใช้กฎหมายหมิ่นศาลที่มีโทษสูงมาปิดปากประชาชน ซึ่งจะเห็นว่าศาลไม่ได้ตัดสินโดยยืนอยู่ข้างประชาชนเลยแต่กลับเข้าข้างรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธฺ์ จันทร์โอชา 

ทั้งนี้ผู้ที่ขึ้นปราศรัยแต่ละคนที่ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยมีการเน้นย้ำเรื่องว่าการชุมนุมครั้งนี้ยืนยันในแนวทางสันติวิธีและจะมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น จะไม่มีการกระทำความรุนแรงต่อเพื่อนมนุษย์

15.45 น. ทางผู้ชุมนุมนำศาลพระภูมิและหุ่นฟางชนาธิปมาเผาบนถนนรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะเดียวกันมีตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเดินเข้ามาประชิดกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บนถนน