Skip to main content
sharethis

'สุวินัย' ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อ้างยอดบริจาครวมทะลุ 7 แสนแล้ว ในกิจกรรมพิธีต่อชะตาให้พระองค์ภา พบผู้คอมเม้นท์แสดงหลักฐานการโอนเงินหลายราย ขณะที่จำนวนมากทักท้วงถึงความเหมาะสมของกิจกรรมด้วย ขณที่ตำรวจสอบสวนด่วน 'สุวินัย' โพสต์รับบริจาค

17 ธ.ค.2565 หลังกระแสข่าวประชวรของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดการพูดถึงจำนวนมากแฮชแท็ก #ข่าวลือ #โคราช #เขาใหญ่ และ #ecmo ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ข้ามคืน ส่วนมากเป็นการให้ข้อมูล ตั้งข้อสังเกต แสดงความกังวลต่อผลกระทบช่วงเทศกาลปีใหม่ที่สถานการณ์โควิดเพิ่งผ่อนคลาย ขณะที่อีกฝ่ายต่อว่าเป็นข้อมูลเท็จ เป็นต้น จนวันต่อมา 15 ธ.ค. แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ออกมายืนยันว่า 'พระองค์ภา' ทรงประชวรหมดพระสติ ด้วยอาการเกี่ยวกับหัวใจ ขณะทำการฝึกสุนัขที่โคราช วานนี้ (14 ธ.ค.) และอาการ 'คงที่ในระดับหนึ่ง' และรักษาพระองค์อยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ 

ทำให้ช่วงค่ำของวันที่ 15 ธ.ค. ทหาร องค์กรศาสนาและหน่วยงานราชการ รวมทั้งในโซเชียลระดมกันจัดกิจกรรมสวดมนต์ แต่กิจกรรมที่ถูกพูดถึงอีกกิจกรรมคือ สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วานนี้ (16 ธ.ค.) สุวินัย โพสต์ในเฟซบุ๊กบัญชี "Suvinai Pornavalai" ระบุว่า เตรียมทำพิธีต่อชะตาให้พระองค์ท่าน

โพสต์ของ สุวินัย เมื่อเวลา 11.49 น. ของวันที่ 17 ธ.ค.65 

สุวินัย ระบุว่า หลังทราบอาการ ตนจึงตัดสินใจโทรหาองค์ญาณเพื่อขอให้องค์พ่อจิตราช่วยต่อชะตาให้องค์ภาทันที

"หลังจากที่ผมเพิ่งอ้อนวอนขอให้องค์พ่อจิตราและองค์พ่อเวสวัณ พรหมโสฬสช่วยรักษาโรคร้ายให้เด็กสองคนผ่านพิธีถวายบายศรีมาหยกๆ ...ผมทราบดีแก่ใจว่าการเข้าไปแทรกแซงกฏแห่งกรรมและกฏสวรรค์ด้วยพลังขององค์มหาเทพ มันมีราคาที่ต้องจ่าย" สุวินัย ระบุในโพสต์

ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย ระบุต่อว่า ตนไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย ที่ผมจะขอใช้อภิสิทธิ์ของตนในฐานะที่เป็นทายาทขององค์พ่อทั้งสองที่เพิ่งผ่านการอภิเษกในวันที่ 1 ก.ย.. 2565 (ค.ศ. 2022) เพื่อขอชีวิตขององค์ภาจากองค์พ่อจิตราที่เป็นพญายมราช

พร้อมเล่าต่อว่า

"จะดีหรือคะ อาจารย์พี่"

องค์ญาณท้วงผมด้วยความหวังดี แต่ผมกลับพูดเสียงแข็งเชิงออกคำสั่งแกมบังคับองค์ญาณเป็นครั้งแรกว่า

"รีบไปจัดบายศรี 9 ชั้นและ 16 ชั้นถวายแด่องค์พ่อทั้งสองโดยด่วน ! เพื่อต่อชะตาใหัองค์ภา .... ผลที่จะตามมา ผมยินดีรับไว้ทั้งหมดเอง"

บายศรี 9 ชั้นและ 16 ชั้นจะทำเสร็จตอนบ่ายสามโมงวันนี้ และต้องเดินทางไปรับบายศรีไปกลับเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยองค์ญาณจะเริ่มทำพิธีถวายบายศรีแด่องค์พ่อทั้งสอง เพื่อต่อชะตาให้พระองค์ทันทีที่บายศรีมาถึง

เท่าที่ผมรับทราบมา พระองค์ยังรั้งชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่อง ECMO (Extracorporeal Membrane Oxygeneration) หรือเครื่องหัวใจ-ปอดเทียมแบบเคลื่อนย้าย ... มีแต่ปาฏิหารย์เท่านั้นที่จะช่วยพระองค์ได้

ผมกำลังขอให้องค์ญาณทำพิธีอธิษฐานจิตต่อเบื้องบนหรือองค์พ่อทั้งสอง เพื่อให้เกิดปาฏิหารย์กับองค์ภา

"ใครที่อยากสนับสนุนผมในเรื่องค่าทำพิธีต่อชะตาให้พระองค์ภา สามารถร่วมทำบุญผ่านช่องนี้ได้นะครับ งานนี้ต้องแข่งกับเวลา และการวัดใจกับเบื้องบนครับ" สุวินัย ให้หมายเลขบัญชี พร้อมข้อความเชิญชวนในโพสต์ดังกล่าว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.49 น. ของวันที่ 17 ธ.ค. สุวินัย อ้างว่า ยอดรวมบริจาคจนถึงตอนนี้ประมาณหกแสนจะไปเจ็ดแสน

"ผมจะปิดรับบริจาคในตอนเที่ยงวันพรุ่งนี้นะครับ เมื่อครบพิธีถวายบายศรี สามวาระ สามราตรีรวด คืนนี้จะถวายบายศรีชุดใหญ่เป็นครั้งที่สอง วันพรุ่งนี้จะถวายบายศรีชุดใหญ่เป็นครั้งที่สามและครั้งสุดท้าย ที่เหลือคือรอปาฏิหารย์ภายใน 9 ราตรีหรือก่อนวันที่ 25 ธันวานี้เท่านั้น" สุวินัย ระบุ

ทั้งนี้นอกจากในโพสต์ของสุวินัยจะมีผู้แสดงหลักฐานะการโอนเงินหลายรายแล้ว จำนวนมากก็แสดงความเห็นทักท้วงถึงความเหมาะสมของกิจกรรมด้วย

สอบสวนด่วน 'สุวินัย' โพสต์รับบริจาค

ล่าสุด 17.15 น. วันนี้ (17 ธ.ค.) ไทยรัฐออนไลน์รายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. 65 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พร้อมกำลังเดินทางไปเชิญตัว รองศาสตราจารย์ สุวินัย ภรณวลัย ที่บ้านพักย่านพัฒนาการ เพื่อไปสอบปากคำ ที่ บก.สอท.1 บช.สอท. 

รายงานข่าวระบุว่า การเชิญตัวไปสอบปากคำครั้งนี้ สืบเนื่องจากรองศาสตราจารย์ สุวินัย ภรณวลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "Suvinai Pornavalai" ในทำนองว่าสามารถทำพิธีกรรมตามความเชื่อของตนเองให้บุคคลสำคัญสามารถหายจากอาการป่วยได้ โดยมีการเปิดบัญชีรับบริจาค แอบอ้างว่าจะนำเงินที่ได้รับจากการบริจาคไปทำพิธี ตามความเชื่อของตน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า หลังมีการเปิดรับบริจาคในช่วงเช้าที่ผ่านมา ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง มีประชาชนหลงเชื่อโอนเงินเข้ามาในบัญชีทะลุหลักล้านแล้ว จึงได้เชิญมาสอบปากคำปากคำอย่างละเอียด ว่าเข้าข่ายกระทำผิดหรือไม่ รวมไปถึงกรณีการเปิดระดมทุนจัดทำพิธีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ส่วนความคืบหน้า หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะแถลงรายละเอียดที่ บช.สอท.ให้ทราบต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net