Skip to main content
sharethis

'เพื่อไทย' หาเสียง จ.น่าน ชี้นโยบายเศรษฐกิจเพื่อไทยไม่ใช่การหยอดน้ำข้าวต้มทีละวัน แต่คือการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หวังดึงคนไทยหลุดพ้นจากความยากจนด้วยเทคโนโลยีการเงินสมัยใหม่ - 'ชัยเกษม' บินกลับ กทม. หลังป่วยกะทันหัน กระทบการทรงตัว งดช่วยหาเสียง 3-5 วัน

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2566 พรรคเพื่อไทยปราศรัยคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตน่าน อําเภอเมือง จังหวัดน่าน นำทีมโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน​ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้สมัคร ส.ส.​น่าน เขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 1, นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย, นายพานทองแท้ ชินวัตร พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.​น่าน นายทรงยศ รามสูต เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 6 และนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ เขตเลือกตั้งที่ 3 เบอร์ 1 ท่ามกลางเสียงเชียร์จากพี่น้องจังหวัดน่าน

นายเศรษฐา ปราศรัยว่าตัวเองมั่นใจว่าจะสามารถทำความฝันของคนน่านและคนไทยให้เป็นจริง นำพาคนไทยหลุดพ้นจากหลุมดำความยากจน ด้วยนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่โดนใจ ทั้งกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ในรัศมี 4 กิโลเมตร ถ้าครอบครัวมี 4-5 คน เท่ากับมีเงิน 40,000-50,000 บาท เพียงพอไปสร้างอาชีพหรือตั้งตัวได้ ต่างจากรัฐบาลปัจจุบันที่มาหยอดน้ำข้าวต้มทีละ 500-1,000 บาท ซึ่งหลังประกาศออกไปมีหลายพรรคการเมืองตั้งคำถามว่าทำได้จริงหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่านี่คือนิมิตหมายที่ดีว่าเป็นนโยบายที่โดนใจ พรรคเพื่อไทยทำได้แน่นอน พร้อมเดินหน้านำนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการเงินพาพี่น้องประชาชนหลุดพ้นหลุมดำแห่งความยากจน

นายเศรษฐา กล่าวว่า จากที่เมืองหลวงพระบาง สปป ลาว ได้รับเลือกเป็นมรดกโลก ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเมืองน่าน ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะเสนอให้เมืองน่านเป็นมรดกโลกคู่กับหลวงพระบาง พร้อมผลักดันให้สนามบินน่านเป็นสนามบินนานาชาติ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวเมืองน่าน และจังหวัดอื่นๆ เช่น แพร่ ลำปาง ทำให้เมืองรองมีความเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย

นอกจากนี้ปัญหา PM 2.5 ที่คนเมืองน่านเผชิญอยู่จากการปลูกข้าวโพดและเผาซังข้าวโพด พรรคเพื่อไทยเสนอวิธีแก้ปัญหาโดยนำซังข้าวโพดนำมาทำอาหารสัตว์ ถ่านไร้ควัน ทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ ก่อให้เกิดรายได้ พร้อมนำนวัตกรรมการปลูกพืชยืนต้น เช่น กาแฟ ไผ่ อะโวคาโด มาเสริม หากมีที่ดินปลูกข้าวโพด 100 ไร่ จะตัดมา 10-15 ไร่ ปลูกไม้ยืนต้น สร้างรายได้อีกทางพร้อมลด PM 2.5 ไปในตัว

“ที่พูดมาจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าหากไม่เลือกพรรคเพื่อไทยเบอร์ 29 ที่ผ่านมานายแพทย์ชลน่านตั้งเป้าตัวเลขที่ 250-310 เสียงขึ้นไป แต่ส่วนตัวตนมองว่าอาจไม่พอ ต้อง 375 เสียงขึ้นไป เพื่อจัดตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ดูแลได้ทุกกระทรวง ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงใหญ่ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม ถือว่าเป็นกระทรวงสำคัญสำหรับคนน่าน เพราะดูแลเรื่องมรดกโลก ดังนั้น ขอให้เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้ง 3 เขต เพื่อให้พรรคเพื่อไทยสามารถนำนโยบายที่ดีๆ มาให้พี่น้องประชาชนได้อยู่ดีกินดี มีความสุข หลุดพ้นจากหลุมดำแห่งความยากจนสำเร็จ” นายเศรษฐา กล่าว

นางสาวแพทองธาร ทักทายชาวน่านผ่านทางระบบ zoom ขอแรงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ที่พร้อมจะแก้ไขปัญหาคาราคาซังอย่างเรื่องที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยมีนโยบายพิสูจน์สิทธิที่ดิน และนำที่ดินรัฐที่ไม่ได้ใช้งานมาจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกิน 50 ล้านไร่

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ศึกษาหาข้อมูลออกมาเป็นนโยบายที่จะเป็นทางออกให้พี่น้องประชาชนเอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นทุกคน ให้คนไทยกลับมาอยู่ดีกินดีอีกครั้ง อีกแค่อึดใจเดียวในวันที่ 14 พ.ค. ขอแรงจากชาวน่านเลือกพรรคเพื่อไทยเบอร์ 29 และเลือ ส.ส.เขตน่าน ทั้ง 3 เขต ให้แลนด์สไลด์ทั่วน่าน ทั้งคนทั้งพรรค

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 1 กล่าวว่า วันนี้มีคนไปพูดต่างๆ มากมายว่าพรรคเพื่อไทยจะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบ้าง ยกเลิกเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุบ้าง พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า ทั้งเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่พี่น้องได้อยู่นั้น พรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิก มีแต่จะเข้าไปดูและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยประกาศไว้แล้วว่าจะต้องยกระดับชีวิตรายได้ของพี่น้องให้มากขึ้น

จากสถิติรายได้ของคนน่านเฉลี่ยมีรายได้เฉลี่ย 6,000 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่พอกับรายจ่าย หากพรรคเพื่อไทยมาเราจะเติมเงินให้ ครอบครัวไหนรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท เราจะเติมให้ถึง 20,000 บาท และใครที่อายุ 16 ปีขึ้นไป เราจะมีกระเป๋าเงินดิจิทัลแจกอีกคนละ 10,000 บาท เพื่อให้ใช้จ่ายซื้ออาหาร ของกินของใช้ เครื่องมือการเกษตรทำงาน อย่างนี้แล้วพี่น้องยังอยากได้แค่ 200-300 บาทอีกหรือไม่

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหลือเวลาอีกไม่เกิน 35 วัน จะถึงวันเลือกตั้ง สมัยก่อนเวลาเลือกตั้งคิดแค่ว่าใครก็ได้เหมือนๆ กัน แต่หลังจากมีพรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทย ที่มีนโยบายออกมาแก้ปัญหาพี่น้อง ทำให้พี่น้องรู้ว่าเราเลือกอนาคตเราได้ เราเลือกชีวิตที่ดีขึ้นได้ เปลี่ยนแปลงได้ เมื่อเลือก ส.ส. หรือพรรคการเมืองที่มีคุณภาพ มีนโยบายที่ดี

“8 ปีที่ผ่านมา ชีวิตพี่น้องได้แค่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ 300-400 บาท พอถึงฤดูหาเสียงก็มาเพิ่มเงินให้พี่น้องเป็น 700-800 บาท แต่พรรคเพื่อไทยเห็นพี่น้องลำบากมานาน ครอบครัวไหนรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท เราเติมเงินให้พี่น้องให้ถึง 20,000 บาท และเราจะเติมเงินดิจิทัลให้พี่น้อง ใครอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดังนั้น 14 พฤษภาคมนี้ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคเท่านั้น ถ้าเลือกเพื่อไทยใบเดียวก็ได้ประยุทธ์อยู่ต่อไป แต่ถ้าเลือกสองใบได้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

ด้านนายณัฐวุฒิ ปราศรัยเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ ถ้าแบ่งใจให้พรรคอื่น อาจได้ พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร กลับมา การเลือกตั้งครั้งนี้จึงขอเลือกเพื่อไทยจังหวัดน่านทั้ง 3 เขต ให้สมศักดิ์ศรีหัวหน้าพรรค จะได้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ส่งลูกหลานคนเมืองน่านทำหน้าที่ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ในส่วนนโยบายเติมเงินในกระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาท ที่ทาง กกต. เรียกพรรคเพื่อไทยไปชี้แจงนั้น มีคนกังวลว่าอาจถูกยุบพรรค นายณัฐวุฒิ ย้ำว่าพี่น้องอย่าตกใจไป เพราะเจ้าหน้าที่ กกต. ก็ลำบากใจเต็มที แต่นโยบายนี้ “มาจริง มาชัด มาเต็ม” แน่นอน แต่ย้ำว่าต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ในกรอบรัศมี 4 กิโลเมตร ถ้าพื้นที่ห่างไกล รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะปรับขยับขยายให้ นี่จะเป็นครั้งแรกที่คนไทยทั้งประเทศมีคนละหมื่น

“พรรคเพื่อไทยไม่เคยมองประชาชนเป็นยาจก พรรคเพื่อไทยมองประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ เราจะเดินทางไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าด้วยรัฐบาลที่ประสิทธิภาพที่สูงกว่า” นายณัฐวุฒิ กล่าว

'ชัยเกษม' บินกลับ กทม. หลังป่วยกะทันหัน กระทบการทรงตัว งดช่วยหาเสียง 3-5 วัน

9 เม.ย. 2566 จากกรณีที่ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่ได้ร่วมเวทีปราศรัย ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา วิทยาเขตน่าน อ.ภูเพียง จ.น่าน ที่จัดขึ้นในช่วงเย็นวานนี้ (8 เมษายน) เนื่องจากป่วยกะทันหันนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขต 2 และนายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ให้สัมภาษณ์ว่าช่วงเช้านี้นายชัยเกษมจะออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร เพื่อรับการรักษา แต่อาการดี สามารถนั่งคุยกับ นพ.ชลน่านได้ สาเหตุของการป่วยคือ มีเลือดออกในสมองทำให้กระทบการทรงตัวแต่เป็นไม่มาก ไม่มีผลกระทบถึงความเจ็บปวด เป็นอาการช่วงสั้นๆ และไม่แน่ใจว่าเป็นมากี่วันแล้ว

“ดังนั้น นายชัยเกษมจะนั่งเครื่องบินกลับในช่วงเช้านี้ โดยคาดว่าต้องมีทีมแพทย์ และเครื่องมือในการพานายชัยเกษมกลับกรุงเทพมหานคร และไม่แน่ใจว่าจะไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลใด แต่คาดว่าจะเป็นโรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่งการลงพื้นที่หาเสียงหลังจากนี้ 3-5 วันจะยังไม่สามารถเดินทางไปช่วยหาเสียงได้ เพราะต้องดูอาการก่อนและรักษาให้ดีขึ้นก่อน”

ที่มาเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย [1] [2] | มติชนออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net