จากกรณีที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ปิดประตูโอกาสเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมยกกรณีเลือกตั้ง 2518 ที่รัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พยายามตั้งรัฐบาล เสียงข้างน้อย โดยหวังว่าเมื่อตั้งขึ้นเสร็จแล้วอีกหน่อยก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้พรรคเล็กตามเข้ามา

ต่อมาในวันที่ 6 พ.ค. วิษณุ ยังออกมาชี้แจงประเด็นที่กล่าวถึงรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า ไม่ใช่การส่งสัญญาณใด ๆ ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วจะต้องหานายกรัฐมนตรีให้ได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 และมีช่องทางอยู่ย้ำว่า ความเป็นจริง การจัดตั้งรัฐบาลควรเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเพื่อไม่ให้ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียวสันหลัง คอยหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นจะบริหารราชการไม่ได้ เสียสมาธิ พร้อมย้ำอีกครั้งว่า นี่ไม่ใช่การส่งสัญญาณใดๆ

ด้านธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ รองศาสตราจารย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ข้อเสนอตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยดังกล่าว เป็นประวัติศาสตร์ที่เพิ่งแต่ง หากคนไม่ทราบก็จะคล้อยตาม ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ทางการเมืองในการเลือกตั้งปี 2518 ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ที่มี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นผู้นำ ได้ ส.ส. 72 คน ซึ่งเป็นพรรคที่ได้มากเป็นอันดับ 1 จากทั้งหมด 269 คน เขาจึงได้สิทธิที่จะรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็นำมาสู่การที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยล่มไม่เป็นท่า จัดตั้งรัฐบาลได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น แต่ที่กล่าวอ้างปัจจุบันนี้อาจจะให้พรรคที่ได้ ส.ส. 40-50 คน มารวมเสียงหรอ นี่เป็นสิ่งที่ผิดจริยธรรมผิดกติกาประชาธิปไตยตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว