Skip to main content
sharethis

วันนอร์ เตรียมนำคณะผู้แทนรัฐสภาไทยเข้าร่วมประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียนที่อินโดฯ 5-11 ส.ค.นี้ หลังวันที่ 4 ประชุมรัฐสภาเลือกนายกฯและพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญปิดสวิตช์ ส.ว.

31 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 4 ส.ค.นี้ เวลา 9.30 น.เป็นต้นไป ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 3 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) มีเรื่องพิจารณาสำคัญ 2 เรื่องคือ พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ 2. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (ยกเลิกมาตรา 272) ชัยธวัช ตุลาธน กับคณะ หรือพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ

สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานด้วยว่า วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ในรายการมองรัฐสภา ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ว่าตนจะนำคณะผู้แทนรัฐสภาไทยเดินทางเข้าร่วมการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliament Assembly : AIPA) ครั้งที่ 44 ณ กรุงจาการ์ต้า สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 5-11 ส.ค. 2566 เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างกันของรัฐสภาในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ภายใต้หัวข้อหลักของการหารือเรื่องรัฐสภาที่ตอบสนองเพื่ออาเซียนที่มั่นคงและมั่งคั่ง โดยจะสร้างประโยชน์จากการประชุมครั้งนี้ไปถึงประชาชน ภายใน 8 ประเด็นหลักที่รัฐสภาอาเซียนร่วมพิจารณา รวมถึงจะมีการประชุมสร้างความร่วมมือกับผู้สังเกตการณ์ พร้อมเผยว่าสมัชชารัฐสภาอาเซียนจะหยิบยกปัญหายาเสพติดขึ้นมาพิจารณาด้วย เพราะเป็นที่ทราบดีว่าประเทศในภูมิภาครวมทั้งประเทศไทยล้วนต้องประสบและได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะในฐานะที่เป็นแหล่งผลิตหรือทางผ่านการขนส่งไปยังประเทศอื่น ดังนั้น การสร้างความร่วมมือในภูมิภาคของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อเสนอไปยังฝ่ายบริหาร จะเป็นแนวทางสำคัญในการจัดการปัญหา และช่วยให้ยาเสพติดลดลง

ประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่าจะมีการประชุมยุวสมาชิกรัฐสภาของสมัชชารัฐสภาอาเซียน ซึ่งนับเป็นหัวข้อที่ทันสมัยเนื่องจาก ส.ส. ของไทยชุดปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่จำนวนมาก รวมทั้งจะมีการหารือถึงแนวทางในการทำให้เยาวชนของประเทศในอาเซียน เข้าใจการเมืองและเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ซึ่งตนเห็นถึงประโยชน์ในการสร้างเยาวชน นิสิต นักศึกษา ให้ถือว่าเรื่องการเมือง เรื่องประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ และควรมีการกำหนดเป็นหลักสูตรในมหาวิทยาลัยด้วย

นอกจากนี้ ประธานรัฐสภาให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่ได้รับเลือกให้ ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ว่าครั้งแรกตนดำรงตำแหน่งดังกล่าวเมื่อปี 2539 แต่ครั้งนี้มีความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงไปมากทั้งเรื่องของสถานที่ที่กว้างขวางขึ้น จำนวน ส.ส. ที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในสมัยแรกที่ดำรงตำแหน่งยังไม่มี สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงจำนวนบุคลากรของรัฐสภาที่เพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถเดินหน้าต่อไปได้ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net