Skip to main content
sharethis

วิปรัฐบาลเชื่อถกร่างงบประมาณรายจ่าย 67 ไร้ปัญหา ชี้หากพาดพิง 'ทักษิณ' ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกอาจไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภาอาจถูกฟ้องกลับ - สส.ประชาธิปัตย์ ย้อนถาม 'เพื่อไทย' ปมเพิ่มงบกลางกว่า16,000 ล้านบาท ถือเป็นการตีเช็คเปล่าให้นายก เหมือนที่เคยอภิปรายช่วงรัฐบาล 'ประยุทธ์' ไว้หรือไม่

2 ม.ค. 2567 มติชนออนไลน์ รายงานว่าที่อาคารรัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล เป็นประธานการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมมการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม โดย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่กังวลการพิจารณางบประมาณในครั้งนี้ รัฐมนตรีทุกคนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี มีการเตรียมข้อมูลที่คาดว่าจะถูกอภิปรายมาชี้แจง ซึ่ง สส.เพื่อไทยรุ่นใหม่ให้ความสนใจการอภิปรายครั้งนี้อย่างมาก เชื่อว่าการประชุมจะเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในระหว่างการอภิปรายงบประมาณในส่วนของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมนั้น โดยหลักการไม่ควรไปแตะต้องบุคคลภายนอก เพราะเป็นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ ฝ่ายค้านไม่ควรเอาการเมืองมาเล่นในสภาฯ เพราะยังไม่ถึงเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากไปพาดพิงถึงบุคคลภายนอก อาจไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภาฯ และอาจถูกฟ้องกลับได้ แต่หากมีการพาดพิงมาถึงนายทักษิณ รัฐบาลก็พร้อมจะชี้แจงว่าระเบียบของกรมราชทัณฑ์ฉบับใหม่ในเรื่องการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำได้ออกมาตั้งแต่ปี 2563 เป็นเรื่องที่นักโทษทุกคนได้ประโยชน์ทั้งหมด ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่ง หากต้องยกเลิกระเบียบดังกล่าว ก็จะเป็นผลเสียต่อนักโทษทั้งหมด

เมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าหน่วยงานราชการจะสอดไส้การจัดสรรงบประมาณในทางที่ไม่โปร่งใสหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ได้กำชับให้กรรมาธิการงบประมาณฯ และ สส.ติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณให้ดี อย่าให้มีช่องโหว่หรือทุจริตใดๆ เกิดขึ้น จะต้องตรวจสอบให้ละเอียด เชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น คงไม่มีเรื่องของการเรียกรับผลประโยชน์การจัดสรรงบประมาณเกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะมีบทเรียนเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว ยังเป็นคดีในชั้นศาลอยู่ จึงเชื่อว่า สส.รัฐบาลและฝ่ายค้านจะระวัง และจะต้องมีการตรวจสอบงบประมาณในส่วนของราชการควบคู่ไปด้วย จะไปโทษนักการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เพราะตบมือข้างเดียวไม่ดัง ในส่วนขององค์ประชุมในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในครั้งนี้ เชื่อว่าไม่มีปัญหา ต่อไปนี้เรื่องขององค์ประชุมไม่ใช่ปัญหาของฝ่ายรัฐบาลอีกต่อไป

'ประชาธิปัตย์' ย้อนถาม 'เพื่อไทย' ปมเพิ่มงบกลางกว่า16,000 ล้านบาท ถือเป็นการตีเช็คเปล่าให้นายก เหมือนที่เคยอภิปรายช่วงรัฐบาล 'ประยุทธ์' ไว้หรือไม่

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่านายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่จะมีการพิจารณาวาระแรก ขั้นรับหลักการ ในสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 3 - 5 ม.ค. 2567 มีเวลาน้อยมากเนื่องจากงบประมาณปี 2567 ต้องใช้งบประมาณของปี 2566 ไปพลางก่อน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีเวลาในการพิจารณางบประมาณ ภายใน 105 วัน ใน 3 วาระ จึงต้องเร่งศึกษาในประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เพื่อให้งบประมาณที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาแล้วอนุมัตินั้น เป็นงบประมาณที่จะได้ใช้อย่างคุ้มค่า โปร่งใสและตรวจสอบได้เพื่อประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด

การจัดสรรงบประมาณในส่วนของ“งบกลาง” นายสรรเพชญ ได้กล่าวว่า การจัดสรรรายจ่ายงบกลาง “สูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง“ ซึ่งนับตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2563 - 2567 มีการจัดสรรงบกลางไปแล้ว ทั้งสิ้นกว่า 2.9 ล้านล้านบาท เฉลี่ย 5.8 แสนล้านบาทต่อปี โดยในปีงบประมาณ 2567 มีการจัดสรรงบกลาง กว่า 6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 16,295 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่มากที่สุดในกลุ่มประเภทรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรร โดยส่วนใหญ่เป็นงบประมาณรายจ่ายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ ถึงร้อยละ 82.9 และเป็นงบประมาณเพื่อสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 98,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 6,100 ล้านบาท จากปี 2566 

นายสรรเพชญ ได้ตั้งข้อสังเกตงบประมาณในส่วนนี้ว่า เป็นการตีเช็คเปล่าให้นายกฯ หรือไม่ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า งบกลาง เป็นงบที่ตรวจสอบยากที่สุด และเมื่อย้อนไปฟังคำอภิปรายของ สส. และ ครม. ซึ่งหลายท่านวันนั้นท่านนั่งทำหน้าที่ฝ่ายค้านอยู่ตรงนี้ ท่านวิจารณ์รัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าใช้งบกลางเป็นจำนวนมากและของบกลางเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี แต่มาวันนี้ท่านกลับทำในสิ่งที่ตนได้พูดไว้ในอดีต และตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำแบบนี้เข้าข่าย “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” หรือไม่  ซึ่งตนในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ จะติดตามการใช้จ่ายงบประมาณอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net