เกิดเหตุระเบิด 7 ครั้งในย่างกุ้ง, เคเอ็นยูซุ่มโจมตีทหารพม่าตรงด่านเจดีย์สามองค์,ทหารพม่ากดราคาอาหารทะเลในรัฐอาระกัน,พม่าปล่อยตัวนักโทษ 7, 000 คน  มีนักโทษการเมือง 122 คน,ฝึกชาวบ้านปราบจลาจล- กันประท้วงรอบใหม่,หนูระบาดหนักในนาข้าวพื้นที่ประสบภัยนาร์กิส

16 ก.ย.52
เกิดเหตุระเบิด 7 ครั้งในย่างกุ้ง 
ในช่วงค่ำของวันพุธที่ 16 ก.ย.2552 ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดถึง 5 ครั้งใกล้กับโรงงานหลายแห่งในเมืองหล่ายตายา ในเขตย่างกุ้ง ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดตามมาอีก 2 ครั้งในวันต่อมาในเขตอุตสาหกรรมทางตอนเหนือของกรุงย่างกุ้ง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดครั้งนี้

หลังเกิดเหตุ ด้านทางการที่ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุจำนวนมาก พร้อมสั่งการให้ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุรายงานแขกที่เข้ามาพักในบ้านของตนต่อเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งการลอบวางระเบิดครั้งนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมารับผิดชอบแต่อย่างใด และอยู่ระหว่างการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (Irrawaddy) 
 
เคเอ็นยูซุ่มโจมตีทหารพม่าตรงด่านเจดีย์สามองค์ 
ทหารพม่าจากกองพันทหารราบ 356 ถูกทหารจากกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ เคเอ็นยู จากกองพลที่ 6 ซุ่มโจมตีใกล้กับหมู่บ้าน Chanungzone ซึ่งห่างจากด่านเจดีย์สามองค์ 15 กิโลเมตร ด้านทางการพม่าเปิดเผยว่า มีทหารพม่าได้รับบาดเจ็บจากเหตุซุ่มโจมตีครั้งนี้จำนวน 4 นาย ขณะที่เคเอ็นยูระบุว่า มีทหารพม่าเสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บ 6 นาย โดยไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากฝ่ายเคเอ็นยูแต่อย่างใด

ก่อนหน้าได้เกิดเหตุระเบิดใกล้กับสำนักงานของกองทัพพม่าในพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์เช่นเดียวกัน แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุกังกล่าว (IMNA)
 
 
18 ก.ย.52  
ทหารพม่ากดราคาอาหารทะเลในรัฐอาระกัน
ทหารพม่าจากกองพันที่ 373 ซึ่งประจำอยู่ในเมืองชิตตวย กดราคาอาหารทะเลของพ่อค้าในพื้นที่ต่ำกว่าราคาในตลาด สร้างความเดือนร้อนให้กับชาวประมงในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

ชาวประมงในพื้นที่คนหนึ่งเปิดเผยว่า ปกติราคาขายกุ้งในตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 5, 000 จั๊ต(159 บาท) แต่ทหารพม่าบังคับชาวประมงขายกุ้งให้ในราคา 4,000 จั๊ต(126 บาท)  ชาวประมงบางส่วนยอมขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดเนื่องจากกลัวจะถูกลงโทษ
 
นอกจากนี้ ทหารพม่ายังห้ามนักธุรกิจจากย่างกุ้ง มัณฑะเลย์หรือพื้นที่อื่นๆ เข้ามาซื้อปลาในพื้นที่ เนื่องจากต้องการให้ราคาปลาและอาหารทะเลชนิดอื่นๆ คงที่ ทั้งนี้ ชาวบ้านเปิดเผยว่า ทหารพม่าเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจอย่าง อาหารทะเล  การเกษตร หรือแม้แต่ธุรกิจด้านการคมนาคม เพราะต้องการหาเงินเข้ากองทัพ (Narinjara)   
 
19 ก.ย.52 
 พม่าปล่อยตัวนักโทษ 7, 000 คน  มีนักโทษการเมือง 122 คน 
 
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า (Assistance Association for Political Prisoners—Burma -AAPP) รายงานว่า ทางการพม่าได้ปล่อยตัวนักโทษราว 7,000 คน เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีนักโทษทางการเมืองรวมอยู่ด้วย 122 คนจากเรือนจำ 23 แห่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ นักโทษการเมืองจำนวน 41คน เป็นสมาชิกพรรคเอ็นแอลดี ขณะที่อีก 6 คน เป็นนักเคลื่อนไหวจากกลุ่มนักศึกษาปี 1988 (2531)นอกจากนี้ยังพบพระสงฆ์จำนวน 4 รูป และนักข่าวอีกจำนวน 4 คน รวมถึงทนายความอีก 1 คน ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

นายโบจี เลขาธิการร่วม AAPP กล่าวว่า การปล่อยตัวนักโทษครั้งนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากนักโทษส่วนใหญ่ใกล้จะพ้นโทษแล้ว ขณะที่รัฐบาลอ้างว่า การปล่อยนักโทษเป็นจำนวนมากครั้งนี้ ก็เพื่อให้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งในปีหน้า (Irrawaddy)
 
 
21 ก.ย. 52  
พม่าฝึกชาวบ้านปราบจลาจล- กันประท้วงรอบใหม่
เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในย่างกุ้งเกณฑ์ชาวบ้านกว่า 1, 500 คนมาฝึกอบรมการปราบจลาจล โดยผู้เข้าอบรมจะได้รับเงินจำนวน 1,500 จั๊ต(48 บาท) ทำให้ชาวบ้านที่ตกงานส่วนหนึ่งมาเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ด้วย

ขณะที่สมาชิกของสมาคมเพื่อการพัฒนาและความเป็นเอกภาพ (Union Solidarity and Development Association –USDA) ในเขตพะโคก็เข้ารับการฝึกในลักษณะเดียวกัน หลายฝ่ายคาดว่า เป็นการเตรียมความพร้อมของทางการพม่าหากเกิดการประท้วงรอบใหม่ หรือหากเกิดความวุ่นวายในช่วงเลือกตั้งในปีหน้า (DVB)  
 
หนูระบาดหนักในนาข้าวพื้นที่ประสบภัยนาร์กิส
ชาวนาในพื้นที่ปากแม่น้ำอิรวดีที่เร่งฟื้นฟูที่นาของตนหลังพายุไซโคลนนาร์กิสเข้าพัดถล่มกำลังเดือดร้อนหนัก เนื่องจากหนูได้เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและกัดกินต้นข้าวได้รับความเสียหาย ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่า หนูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ เนื่องจากจำนวนงูลดลง

ขณะที่ชาวบ้านในรัฐชินที่ประสบปัญหาพืชผลทางการเกษตรถูกหนูทำลายในลักษณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ยังคงอดอยากและขาดแคลนอาหารอย่างต่อเนื่อง มีรายงานว่า ระหว่างปี 2549 – 2551 พืชผลทางการเกษตรในรัฐชินได้รับความเสียหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ชาวชินจำนวนมากอพยพไปหางานทำที่รัฐมิโซรัมของอินเดีย ขณะที่รัฐบาลพม่ายังคงเพิกเฉย (Irrawaddy)