Skip to main content
sharethis
 
เวลา 20.45 น. พ.ต.อ.ทรงพล วัฒนะชัย รองผบก.น.1 ได้แถลงภายใน ศอฉ.ระบุว่า ศอฉ.เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและได้เชิญผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยเฉพาะ สน. ในพื้นที่ท่าเรือ บ่อนไก่ สามเหลี่ยมดินแดง มากำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการสนธิกำลังกันระหว่างตำรวจทหาร และให้ไปแผนในการขอพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมที่กระจายอยู่โดยรอบ โดยกำชับว่าการปฏิบัติให้อยู่ในกรอบของกฎหมายแต่ต้องมีความเฉียบขาด
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทรงพล ได้กล่าว รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินคดีรอบ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่น สน.พญาไท จับกุมชายรายหนึ่งได้ที่ทางด่วนเพชรบุรี ศาลลงโทษจำคุก 10 เดือน , จับกุมชายคนหนึ่งพกพาไม้ ลูกแก้ว หนังสติ๊ก หน้ากากกันแก๊ส โทศัพท์มือถือ ที่บริเวณปั๊มเอสโซ่ปากซอยรางน้ำ ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี , จับกุมชายคนหนึ่งที่ปั๊มเอซโซ่ ซอยรางน้ำ ศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน, จับกุมจับสี่ราย ที่แยกราชเทวี พร้อมรถยนต์วีโก้ โตโยต้า ศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน, จับกุมชายพร้อม ลูกแก้ว น็อต หนักสติ๊ก บัตร นปช. หมวกนิรภัย หมวกไหมพรม ศาลพิพาษาจำคุก 1 ปี ทั้งหมดศาลพิพากษาไม่รอลงอาญา และเมื่อเช้ายังจับกุมผู้พกพา กระสุนปืน วิทยุสื่อสาร กล้องถ่ายรูป แต่อยู่ระหว่างการสอบสวน  
นอกจากนี้ยังยกตัวอย่างที่น่าสนใจว่า สน.ปทุมวัน ได้จับกุมกรณีที่มีการกระทำความผิดในข้อหาร่วมกันใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะเข้าออกพื้นที่กำหนด ศาลแขวงปทุมวันพิพากษาระบุว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามคำฟ้อง สั่งจำคุก 2 ปี เรียกกว่าเต็มพิกัดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รับสารภาพลดลงเหลือกึ่งหนึ่งคือ 1 ปี โดยให้เหตุผลว่า “บ้านเมืองเกิดเหตุความวุ่นวาย จำเลยทั้งสองไม่ร่วมมือช่วยเหลือ แต่กลับกระทำกระหน่ำซ้ำเติมจึงไม่รอลงอาญา”
พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวอีกว่า สำหรับร้านจำหน่ายยาง ถ้าทางการทราบว่าท่านมีส่วนรู้เห็นก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน ขณะนี้ ตำรวจจับกุมผู้ลำเลียงยางรถยนต์ได้หลายคดี ยึดได้ 600 กว่าเส้นแล้ว นอกจากนี้ สตช. โดย ศอฉ.ได้วางแนวนโยบายให้ประกาศให้ สตช.ร่วมกับสภากาชาด และหน่วยแพทย์เข้าไปทำการดูแลสุขภาพผู้เข้านร่วมชุมนุม เด็ก สตรี คนชราแล้วส่วนหนึ่ง
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.กล่าวว่า ศอฉ. มีความเป็นห่วงต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป เพราะมีข้อมูลข่าวสารว่า กลุ่มก่อการร้ายที่ชุมนุมที่ราชประสงค์มีความพยายมมสร้างสถานการณ์ทำร้ายประชาชนให้บาดเจ็บเ สียชีวิต เป้าหมายคือประชาชนทั่วไป ผู้ที่ร่วมชุมนุม หน่วยกู้ภัย และสื่อมวลชน วันนี้ชัดเจนว่า บริเวณตึกชีวาทัยใกล้กับตึกเซ็นจูรี่ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณห้าถึงสิบคน แต่งกายคล้ายทหารขึ้นไปซุ่มยิงชั้น 24 ถึง 27 ขึ้นไปซุ่มยิงอย่างนี้ส่งผลให้ประชาชนที่ผ่านไปมาอาจได้รับอันตรายได้ แม้กระทั่งทหารเอง ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น คุณกำปั้น (คริชนะ พาณิชย์พงษ์ หรือกำปั้น วงบาซู) และญาติที่เสียชีวิตก็มีความเป็นไปได้สูงว่าซุ่มยิงมาจากตึกชีวาทัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปกดดันตรวจสอบพื้นที่ แต่เป็นตึกกำลังก่อสร้างมีผ้าใบคลุมอยู่จึงตรวจสอบยาก
“นอกจากนี้ยังมีความพยายาทำลายทรัพย์สิน ปล้นสดมภ์ ทำร้ายประชาชนให้บาดเจ็บ เสียชีวิต การจุดไฟเผายาง อาคารบ้านเรือน ทำลายรถน้ำมัน กลุ่มก่อการร้ายที่ใช้ชื่อว่า “เสื้อแดง” ไม่สามารถปฏิเสธการรับผิดชอบดังกล่าว เพราะเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีใครเข้าไปในนั้นเลย” พ.อ.สรรเสริญกล่าว
จากนั้น พ.อ.สรรเสริญ เปิดคลิปแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ชุนนุมใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์ อยู่เหนือยางรถยนต์ ขณะที่คนอื่นอยู่ต่ำกว่ายางรถยนต์ และภายหลังกองยางมีทั้งระเบิดเพลิง การเผายาง รวมไปถึงแสดงภาพผู้ชุมนุมคนหนึ่งถืออาวุธปืนสั้น นอกจากนี้ยังฉายคลิปบริเวณชุมชนบ่อนไก่ซึ่งปรากฏชายโม่งดำลักษณะถือปืนเอ็มสิบหก โดยพ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า แสดงว่ามีอาวุธสงครามอยู่จริง โดยพยายามทำร้ายประชาชนด้วย เดิมเป้าหมายหลักคือทหาร แต่ตอนนี้เป้าหมายหลักของผู้ก่อการร้านเปลี่ยนไปเพื่อให้ท่านเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ท้ายที่สุด คือคลิปภาพเมื่อ 3-4 วันก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปเอารถน้ำแล้วโดนรุมทำร้าย พร้อมทั้งมีผู้นำปืนเอ็มสิบหกไป
“มีการปล้นสดมภ์ ขโมยน้ำมันจากรถทหารที่ถูกยึด แล้วเอาไปทำระเบิดเพลิง ทั้งยังมีการทุบทำลายตู้เอทีเอ็ม ขโมยเงินไป ภายในร้านสะดวกซื้อเอาไปทุกอย่างอาหารการกิน ยกเว้นหนังสือ ไม่ได้เอาไปเพราะรับข้อมูลด้านเดียวจากแกนนำ” พ.อ.สรรเสริญกล่าว
เขากล่าวทิ้งท้ายว่า กลุ่มคนกลุ่มนี้พยายามใช้คำพูดว่าให้ทหารหยุดฆ่าประชาชน พยายามบิดเบือนข้อมูล เพราะทหารไม่ได้ประสงค์ทำร้ายประชาชนเลย เพียงแค่กระชับวงล้อม และตั้งด่านเท่านั้น ความสูญเสียทั้งการบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มก่อการร้ายกดดันเจ้าหน้ที่ตามด่านต่างๆ รวมถึงใช้กล่มคนจำนวนมากเคลื่อนหาทหาร
“ถ้าท่านไม่เคลื่อนที่เข้ามาก็ไม่เกิดการสูญเสีย ถ้าเราปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายถึงตัว ผู้เสียชีวตจะเพิ่มทบเท่าทวี แต่ไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย แต่เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ทุกฝ่ายที่ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง”  
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net